เรื่องเล่าให้ฟังในห้องประชุมนั้นบอกว่าการลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ ใช้กฏหมายเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนให้เกิดการแก้ไข
นักวิชาการอิสระที่มาเล่าให้ฟัง เป็นผู้หนึ่งที่ทำหน้าที่อยู่ในคณะกรรมการประสานงานการให้ความเห็นขององค์การอิสระ
องค์ประกอบของคณะกรรมการนี้มีสมาชิกทั้งหมด ๑๘ คน ประธานคือ อดีตนายกอานันท์ ปันยารชุน
หน้าที่หลักของคณะกรรมการฯ (คกก.) คือ ประสานงานและเป็นที่ปรึกษา
หน้าที่รองคือช่วยตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะกรรมการที่องค์การอิสระมอบหมาย และปฏิบัติหน้าที่ที่ครม.มอบหมาย
องค์กรที่คกก.นี้ประสานเข้าหากันก็คือ คณะกรรมการอิสระ กับครม. คำปรึกษาที่ให้นั้นให้กับทั้ง ๒ องค์กรและองค์กรภาครัฐ คกก.มีบทบาทอยู่แค่ในช่วงแรกที่มีการตั้งองค์การอิสระเท่านั้น
คกก.ทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนให้องค์การอิสระสามารถดำเนินงานได้ผ่านวิธีการประสานงานกับครม.
ฟังกันทั้งวันด้วยบรรยากาศอย่างนี้แหละนะ
ฟังมาตั้งแต่เช้าจดเย็นจะได้ยินคนพูดเรื่องมาตรา ๖๗ วรรค ๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ อยู่เรื่อยๆ ได้ยินว่าแม้แต่ชาวบ้านก็พูดเรื่องมาตรานี้กันด้วย
ที่ชาวบ้านพูดเรื่องมาตรานี้ก็เพราะรู้ว่าเจตนารมย์ตามกฎหมายมาตรานี้ ต้องการให้ชุมชนได้รับความคุ้มครองมิให้ถูกกระทบอย่างรุนแรงจากการดำเนิน โครงการหรือกิจกรรมใด
ลองอ่านรายละเอียดของมาตรานี้กันหน่อย มาตรา ๖๗ วรรค ๒ ว่าไว้ดังนี้
“การดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพจะกระทำมิได้ เว้นแต่จะได้ศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของ ประชาชนในชุมชน และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียก่อน รวมทั้งได้ให้องค์การอิสระซึ่งประกอบด้วยผู้แทนองค์การเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ และผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาที่จัดการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากร ธรรมชาติหรือด้านสุขภาพให้ความเห็นประกอบก่อนมีการดำเนินการดังกล่าว”
ไม่ต้องแปลกใจกับท่าทีของพวกเรา ก็เรื่องราวที่ได้ฟังมีความซับซ้อนทางเทคนิคจนทำให้ต้องช่วยกันทำความเข้าใจนี่นา
เจตนารมย์นี้ทำให้องค์การอิสระเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการลดความขัดแย้งอันเนื่องมาจากผล กระทบที่ชุมชนได้รับ ไม่ว่าด้านไหน การถือกำเนิดขององค์การอิสระมีกฎหมายที่เรียกว่า พระราชบัญญัติองค์การอิสระกำกับอยู่
การปฏิบัติต่างๆที่มีรายละเอียดอยู่ในกม.ฉบับนี้ มีลำดับอยู่หลายขั้นตอนทีเดียวและมีเงื่อนไขเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ตัวอย่างตามแผนภูมิที่ทำมาโชว์บอกว่าบางขั้นตอนใช้อย่างน้อยๆก็ไม่ต่ำกว่า ๑๕ วัน ในบางขั้นตอนมีการส่งต่อกลับไปกลับมาอีกมากกว่าหนึ่งตลบ
เห็นขั้นตอนทั้งหมดแล้วตาลายและรู้สึกว่าขั้นตอนมีความเยิ่นเย้อไปหน่อยถ้าตัวเราเองต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐ ยิ่งถ้าองค์กรภาครัฐที่เกี่ยวข้องมีความเฉื่อยชาหรือขัดขากันด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่
กว่าที่คำตอบจะออกมาได้เป็นความเห็นชอบหรือไม่ชอบ เขาว่าเบ็ดเสร็จแล้วให้เวลาสำหรับคกก.อิสระเสนอความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพภายใน ๖๐ วัน
๑๕ กันยายน ๒๕๕๓
ไม่มีความเห็น