เที่ยวเมืองสองท่า "ท่าข้าม-ท่าขนอน"


 

ได้มีโอกาสเดินทางร่วมกิจกรรม “เที่ยวเมืองสองท่า ท่าข้าม-ท่าขนอน” ของนายทศพล งานไพโรจน์ นายกเทศมนตรีเมืองท่าข้าม เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2554 (วันเด็กแห่งชาติ)  จุดนัดพบคือสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี (อ.พุนพิน) รถไฟเริ่มเคลื่อนตัวเมื่อเวลา 09.00 น. สถานีแรกที่รถไฟจอดให้ชมและเก็บภาพคือ สะพานจุลจอมเกล้า โดยรถไฟจะจอดด้านตลาดพุนพินแล้วให้ทุกคนเดินข้ามสะพานไปขึ้นรถอีกฝ่ายหนึ่ง หน้าตาสะพานจุลจอมเกล้าจะคล้ายกับสะพานพระรามที่ 6 สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2496 และได้สร้างสะพานสำหรับรถยนต์ไว้คู่กันด้วย สถานีต่อไปคือ ชุมทางบ้านทุ่งโพธิ์ สถานีนี้อยู่ห่างจากสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีราวๆ 4 กิโลเมตรเศษๆ ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของทางรถไฟสายคีรีรัฐนิคมค่ะ ต่อด้วยป้ายหยุดรถดอนรัก ทุ่งหลวง

สถานีต่อไปที่จอดให้ทุกคนลงเก็บภาพคือ ป้ายหยุดรถวัดขนาย ได้เข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ของเก่าของวัดเกษมบำรุง (วัดขนาย) ต.บางงอน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี วัดนี้โด่งดังในเรื่อง การต่อกระดูก ภายในวัดจะมีพิพิธภัณฑ์เก็บวัสดุเครื่องใช้สมัยโบราณต่างๆ เช่น กระต่ายขูดมะพร้าว เซียนหมาก มีดดาบ ปืน ถ้วยชาม เครื่องถ่ายหนัง ฯลฯ และมีห้องเล็กๆ ภายในมีรูปปั้นด้วยชี้ผึ้งของเกจิอาจารย์ดังของวัด  3 องค์ ขึ้นรถไฟต่อผ่านป้ายหยุดรถดอนเลียบ  ป้ายหยุดรถคลองยัน เลยป้ายไปไม่ไกล ก็คือสะพานข้ามคลองยัน หรือสะพานคลองยัน  สะพานนี้สร้างขึ้นจากเศษเหล็กที่เป็นซากเดิมของสะพานจุลจอมเกล้า ว่ากันว่าสะพานนี้มีหน้าตาคล้ายกับสะพานจุลจอมเกล้าเดิมก่อนจะถูกระเบิดทำลาย โครงสร้างของสะพานแห่งนี้ก็คือโครงสร้างของสะพานจุลจอมเกล้าเดิมที่โดนทหารฝ่ายสัมพันธมิตรใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดเพื่อตัดเส้นทางยุทธศาสตร์ของฝ่ายญี่ปุ่น ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้านล่างเป็นคลองยันซึ่งเป็นคลองเล็กๆ สาขาหนึ่งของคลองพุมดวง จัดเป็นสายน้ำที่สะอาดน้ำจะไหลลงไปรวมกับแม่น้ำตาปีที่ปากอ่าวท่าข้าม

แล้วก็ถึงป้ายบ้านยาง รถไฟจะให้ทุกคนแวะอุดหนุนสินค้าของชาวบ้านยาง สถานีต่อไปป้ายหยุดรถเขาหลุง เส้นทางสายนี้ยิ่งเข้าใกล้คีรีรัฐนิคมก็จะยิ่งเห็นภูเขาหนาตา แล้วก็ถึงจุดหมายคือ ป้ายสถานีคีรีรัฐนิคม  แม้จะเป็นสถานีประจำอำเภอแต่ก็เป็นสถานีระดับ 3 เป็นปลายทางของทางรถไฟสายนี้ในปัจจุบัน ต่อไปนี้เราจะเดินทางด้วยรถบัสเที่ยวในพื้นที่อำเภอคีรีรัฐนิคม

อำเภอคีรีรัฐนิคมนั้นแม้จะเป็นอำเภอเล็กๆ แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่หลากแห่งทีเดียว ในวันนี้ต่างจากเมื่อ 7 ปีที่จากมาก ความเจริญเข้าสู่คีรีรัฐนิคมให้เห็นผิดหูผิดตาไปเลย ณ หน้าที่ว่าการอำเภอคีรีรัฐนิคม เป็นที่ตั้งของพระพุทธาราวดีคีรีรัฐ พระพุทธรูปประจำอำเภอ เป็นพระพุทธรูปศิลปะศรีวิชัยอายุหลายร้อยปีและพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองคีรีรัฐ ข้างในก็จัดแสดงโบราณวัตถุที่ชาวคีรีรัฐนิคมร่วมกันบริจาคมาจัดแสดงมากมาย แล้วขึ้นรถบัสเดินทางไปวัดปราการ เป็นวัดเก่าแก่ของคีรีรัฐนิคม ที่เคยมีหลวงพ่อเชื่อม อดีตเจ้าอาวาส เป็นเกจิดังแห่งลุ่มน้ำตาปีจำวัดอยู่ (แต่ท่านมรณะภาพไปนานแล้ว) ภายในวัดยังมีพระพุทธรูปเก่าอายุเกือบ 200 ปีอยู่ด้วย แล้วข้นรถบัสต่อไปวัดเขาราหู เป็นเขาหินปูน บริเวณหน้าผายอดเขามีลักษณะคล้ายคลึงกับใบหน้าของพระราหู แล้วรถบันก็จอดด้านล่างของเขาให้ทุกคนทดสอบกำลังเป็นจุดแรก เดินขึ้นเขาราหูเพื่อไปนมัสการหลวงพ่อท่านเอ็น เจ้าอาวาสวัดเขาราหู (วัดสถิตย์คีรีรมย์) แล้วก็ขึ้นรถต่อไปเที่ยวบ่อน้ำร้อน ที่ตำบลถ้ำสิงขร เราพักรับประทานอาหารเที่ยงกันตามอัธยาศัย เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 

สถานที่สุดท้ายคือ วัดถ้ำสิงขร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดังที่สุดของคีรีรัฐนิคม วัดถ้ำสิงขรนี้สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา พระภิกษุที่สร้างวัดนี้เป็นพระญาติกับพระเจ้าแผ่นดินอยุธยา ภายในแบ่งเป็น 3 คูหา
คูหาที่ 1 เป็นคูหาขนาดใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางป่าเลไลย์ ซึ่งเป็นพระประธานเบื้องหน้าพระประธานมีเจดีย์สององค์ มีพระพุทธรูปประทับนั่งเรียงกัน 8 องค์ ด้านล่างทำเป็นรูปตัวช้างเรียงกัน 8 เชือก
คูหาที่ 2 เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยลงรักดำประดิษฐานบนฐานสี่ชั้นตกแต่งลายบัวและการจัด ตอนล่างเป็นภาพปูนปั้นพุทธประวัติตอนผจญมาก มีพระแม่ธรณีบีบมวยผม  ตอนบนข้างองค์พระเป็นภาพเทพชุมนุมมีพราหมณ์ คนธรรพ์ เทพกุมภัณฑ์ท้าวเทสสุธรรม(ยักษ์) ท้าววิรุปักข์ (นาค) และสัตว์ในเทพนิยาย
คูหาที่ 3 เป็นซอกเล็กๆ ด้านบนมีต้นไม้ขนาดใหญ่ มีช่องระบายอากาศอยู่บนสุด

หลังจากนั้นรถก็พาผู้โดยสารมาส่งที่ป้ายหยุดรถคลองยัน เพื่อโดยสารรถไฟกลับไปพุนพิน เป็นอันจบโปรแกรมการท่องเที่ยวที่แสนสนุกครั้งนี้

โปรโมชั่นพิเศษ เนื่องในวันวาเลนไทน์(วันแห่งความรัก) และวันมาฆบูชา(วันแห่งความรักที่สูงส่งบริสุทธิ์ในพระพุทธศาสนา) หากใครยังไม่มีสถานที่ใดเป็นจุดมุ่งหมายสำหรับการใช้เวลาร่วมกัน ลองจูงมือคนรักของคุณหรือครอบครัว เดินทางไปกับรถไฟเที่ยวพิเศษ“เที่ยวเมืองสองท่า”ในช่วงวันที่ 12 - 13 กุมภาพันธ์ 2554 ซึ่งในทุกช่วงวัน/เวลาพิเศษดังกล่าวถือเป็นช่วงเวลาแห่งความรักที่คุณจะมอบ ของขวัญพิเศษให้คนรักพร้อมด้วยความสุขสนุกสนานจนต้องเก็บความประทับใจเอาไว้ ไม่รู้ลืม กับรถไฟเที่ยวพิเศษ “เที่ยวเมืองสองท่า (ท่าข้าม-ท่าขนอน)” สนใจ สำรองที่นั่ง ได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว โทร. 077-315000-1 ค่าโดยสาร ผู้ใหญ่ คนละ 100 บาท เด็กคนละ 70 บาท (ราคานี้รวม ตั๋ว หนังสือแนะนำการท่องเที่ยว และเครื่องดื่ม-อาหารว่าง) เปิดให้สำรองที่นั่ง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป รับเพียงเที่ยวละ 200 คนเท่านั้น

 

คำสำคัญ (Tags): #ท่าข้าม-ท่าขนอน
หมายเลขบันทึก: 420265เขียนเมื่อ 14 มกราคม 2011 12:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 11:47 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ดีจังเลยค่ะพี่กั๊ก

น้องเป็นคนคีรีรัฐนิคมแท้ ๆ ยังไม่เคยไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวบ้านเองเลยค่ะ

คงต้องหาเวลาไปเที่ยวบ้างแล้วค่ะ

ขอบคุณคุณเศษหนึ่งส่วนสี่ของกลม ที่ช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ครับ เป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่อยากทำอะไรดี ๆ เพื่อบ้านเมืองของเราต่อไป แรกทำโครงการนี้ถูกต่อว่าเยอะแยะโดยเฉพาะคำว่า ท่าขนอนใครจะไปเที่ยว วันนี้คนต่างจังหวัดเที่ยวกันเยอะเลยครับ กับเมืองสองท่า ขอบคุณครับ

                                           ทศพล  งานไพโรจน์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท