ปัญหาในการเรียนภาษาไทยในยุคความหลงใหลอิเล็คทรอนิกส์
บันเทิง
และยุคของการเรียนพิเศษยากยิ่งเพราะเวลาว่างของเธอนำไป
ใช้ในการเรียนพิเศษหมด
เมื่อไหร่ที่เธอล้าก็จะนั่งฟังเพลงจาก
อิเล็คทรอนิกส์สมัยใหม่ที่เรียกว่า mp3
โดยใช้หูฟังคนละข้างกับเพื่อน
เมื่อไรต้องการจะค้นหาสิ่งใดก็ใช้เพียง
คำสำคัญค้นหาและเมื่อพบเจอ
ก็อ่านเฉพาะกรอบข้อความที่ตรงกับความต้องการ
บริบทที่ผู้เขียนเรียงร้อยไว้อย่างงดงามถูกมองข้ามไป
การอ่านที่เห็นจึงเป็นการอ่านที่ค่อนข้างหยาบ
ประหนึ่งเธอกำลังอ่านพาดหัวข่าว
เมื่อครูให้เธออ่านแล้วสังเคราะห์ความรู้ออกมาแลกเปลี่ยนเนื้อหากัน
เธอก็แสดงความเบื่อหน่าย
อ่านอย่างไร้จุดหมายไร้อารมณ์ความรู้สึก
สายตาไม่อยู่ที่ตัวอักษรด้วยซ้ำ
ครูได้พยายามแก้ไขเบื้องต้นโดยทำแบบฝึกหัดออนไลน์ประเภททบทวนเนื้อหา"คิดก่อนคลิก"
หวังให้นักเรียนอ่านแล้วมาทบทวนเนื้อหา เธอก็ลอกแบบฝึกหัดมา
ทุกตัวอักษรไม่มีการสังเคราะห์หรือสรุปใด ๆ ทั้งสิ้น
ข้อความที่ครู
พิมพ์สะกดผิดพลาดเธอก็ลอกมาเหมือนทุกอย่างแม้กระทั่งคำพูด
ปฏิสัมพันธ์ของครูเช่น "นะคะ" "อย่างนี้นะจ๊ะ"เธอลอกมาหมด
แต่ครู
ไม่ยอมแพ้หรอก
ครูทุ่มเทอีกครั้งตามประสาครูที่จะแก้ปัญหาและหาทางออกให้ได้
ไปเรื่อย ๆ ก็มาลองใช้ห้องเรียนออนไลน์e-learning
เธอก็แสดงความ
ฉลาดแกมโกงออกมาอีกโดยฝากpassword ให้นักเรียนที่เรียนเก่งทำ
ให้แทน ครูเสียใจมากรู้สึกผิดหวัง
กับการทุ่มเทและการกระทำของ
เธอ
ขอลองอีกครั้งเถอะน่า ถ้าครั้งนี้ไม่ได้ผล
ครูคงท้อจริง ๆ
แล้วล่ะ
ว่าแล้วครูก็จัดแจงนำจุดประสงค์ทุกข้อที่ต้องการให้นักเรียนไป
ถึงเป้าหมายมาวางไว้
รวบรวมแบบเรียนและแหล่งสืบค้นเปิดบทเรียน
ใหม่ชื่อว่าแข่งขันทักษะทางวิชาการภาษาไทย
สร้างคลังข้อสอบ
e-learning ซึ่งมีทั้งเติมคำ เลือกตอบ
ถูกผิด และจับคู่ไว้มากพอ
สมควร แล้วให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อนเพื่อจัดทีมในการแข่งขัน
ครูลงทะเบียนสมาชิกให้
เวลาในการแข่งขันก็คือเวลาในคาบเรียนของ
แต่ละห้อง
ครูเปิดให้นักเรียนใช้ตัวช่วยได้คือให้เปิดหนังสือ สมุดและ
เว็บต่าง ๆ ได้แต่ห้ามถามทีมอื่น
เมื่อถึงเวลาสอบ
ภาพที่เห็นคือนักเรียนตั้งใจทำแบบทดสอบมาก
เปิดตัวช่วยต่าง ๆ มือเป็นระวิง
บางคนก็สั่นตื่นเต้นกลัวหมดเวลาบาง
คนเปิดหาข้อความที่ต้องการไม่เจอ เพราะไม่เคยเปิดอ่านเลย
สุดท้ายเมื่อหมดเวลา นักเรียนทีมแรกได้ 27 จากคะแนนเต็ม 30
คะแนน
ครูดีใจมากคิดว่าไม่น่าจะมีใครสูงกว่านี้
แต่ที่ทำให้ครูตื่นเต้น
ดีใจกว่าก็คือนักเรียนทำได้สูงสุดถึง 28.2 เกินความคาดหมายของครู
มาก เมื่อครูถามได้ความว่านักเรียนที่ได้คะแนนสูงได้อ่านเตรียมตัว
มาล่วงหน้า
เมื่อถึงเวลาสอบจึงสามารถหาข้อมูลที่เคยผ่านตาได้
ข้อค้นพบสำหรับครู อย่างนี้แหละ
ใช่เลย
ข้อค้นพบและบทสรุปสำหรับนักเรียน
คือต้องอ่านหนังสือให้
ผ่านสายตาเพื่อจะได้สะดวกเวลาสืบค้น
เมื่อเธอไม่อ่านหนังสือ........ครูจึงต้อง เหนื่อยไงล่ะ
ความดีงามใดๆ
ของบันทึกนี้ขอมอบเป็นเครื่องบูชาพระคุณของคุณพ่อคุณแม่และครูบาอาจารย์
|
สวัสดีคะคุณครูภาทิพ
หนูไม่ใช่เด็กนักเรียนในโรงเรียนของคุณครูหรอกนะคะ
แต่หนูเข้ามาหาความรู้ในอินเทอร์เน็ต
แล้วก็เจอกับเวบของคุณครู
หนูนับถือมากเลยคะที่คุณครูทุ่มเทให้กับนักเรียกมากขนาดนี้
ถ้าหนูมีคุณครูแบบนี้บ้างก็ดีสิ(อิอิ)
สวัสดีค่ะ
หนูเองก็ไช่เด็กนักเรียในโรงเรียของคุณครูหรอกค่ะ
แต่หนูรู้สึกดีมากที่ได้อ่าน
หนูเป็นคนที่ชอบซื้อหนังสือ
แต่พอซื้อมาก็ไม่ค่อยได้อ่าน
ขอบคุณนะค่ะ
หนูขอตัวไปอ่านหังสือก่อน
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะทุกคน
ครูภาทิพเพิ่งมาเปิดเจอว่าไม่ได้เข้ามาทักทายคนที่เข้ามาอ่านเข้ามาเขียนฝากความไว้ ขอโทษด้วยที่เสียมารยาทเจ้าบ้าน ไม่ทราบว่าผ่านไปได้อย่างไร
ขอบคุณทุกคำชี้แนะ และความรู้สึกดีๆ ที่ฝากไว้
เข้ามาใช้บริการนานแล้วแต่ไม่เคยทักทายเลย..ขอบคุณมากค่ะที่มีครูที่ทุ่มเทขนาดนี้..อยากเป็นได้สักครึ่ง..
สวัสดีค่ะ ครูกิ่งกิ๊ง [IP: 125.27.126.167]