จากการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของประชาคมโลก โดยเฉพาะ
ประชาคมอาเซียน จีน และอินเดียมีคำถามว่าคนไทยพร้อมหรือยังสำหรับการ
เป็นประชาคมอาเซียนในปี 2015 ซึ่งเหลือเวลาเพียง 4 ปีเท่านั้น
ภาษาอังกฤษ จะเป็นภาษากลางของประชาคมอาเซียน ถามว่าคนไทยได้รับ
การเตรียมความพร้อมมากน้อยเพียงใดในการเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะ และใช้ภาษา
อังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วและมีประสิทธิภาพ นอกจากภาษาอังกฤษแล้วดิฉันยัง
เห็นว่าภาษาของประเทศในภูมิภาคไม่ว่าจะเป็นภาษาใดก็ตาม คนไทยต้องรู้เพิ่ม
อีกอย่างน้อยหนึ่งภาษายิ่งท่านมีเป้าหมายที่จะไปติดต่อกับประเทศใดก็ควรให้
ความสำคัญกับภาษาของประเทศนั้นเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะนักธุรกิจ รวมถึง
นักวิชาการด้วย
ลำพังการจะทำความเข้าใจความหลากหลายทาง สังคม ภาษา และวัฒนธรรม
ของประเทศในประชาคมอาเซียนก็ยังเป็นโจทย์ใหญ่สำหรับคนไทยแล้ว ยังมี
ประเทศยักษ์ใหญ่ได้แก่จีนและอินเดียบวกเข้ามาอีกซึ่งเราไม่อาจปฏิเสธการไม่
รู้จักและเข้าถึงประเทศเหล่านี้ได้เลย จีนมาแรงในทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการเมือง
ธุรกิจการค้า การแข่งขันใดๆ ก็ตาม ในระดับโลกจะมีผู้ชนะเป็นชาวจีนมากขึ้น
เรื่อยๆ นอกจากเขาพัฒนาบ้านเมืองแล้วเขายังพัฒนาคนด้วย แต่จีนเป็นพวกที่
เดินแต้มคูและแสดงออกอย่างร้อนแรงซึ่งหลายๆ ครั้งอาจดูไม่เป็นมิตรต่อ
ประเทศอื่นๆ นัก
หันมาดูอินเดีย แม้จังหวะการก้าวของอินเดียเป็นไปอย่างเชื่องช้า เหมือนช้าง
ตื่นเพิ่งลุกขึ้นมาสะบัดหัวค่อยๆ ก้าวเดินออกไป แต่กลับแสดงให้เห็นถึงความ
มั่นคงของจังหวะย่างก้าวที่เราต้องจับตามองทีเดียว เพราะในป่านี้เต็มไปด้วย
ทรัพยากรที่มีคุณค่าต่อการสร้างความสมดุลย์ของชีวิตให้กับเอเชียและโลกได้
นั่นคือความเข้มแข็งที่หยั่งรากฝังลึกทางด้านจิตวิญญาณและวัฒนธรรมที่เป็น
แกนสำคัญของชีวิตซึ่งอินเดียได้เคยทำหน้าที่ตรงนี้และยังคงสามารถทำได้
อย่างดีและเหนียวแน่นมาก ในขณะเดียวกันอินเดียมีทรัพยากรมนุษย์ที่มี
คุณภาพที่สามารถพัฒนาประเทศตนและออกไปเป็นกำลังให้กับประเทศต่างๆ
ทั่วโลก แทบจะเรียกว่าไม่มีที่ไหนที่ไม่มีชาวอินเดีย แม้จะได้ชื่อว่าเป็นพี่
เบิ้มในเอเชียใต้ และเป็นมือรองจากจีน แต่วิถีของอินเดียต่างจากจีนมาก น่า
ศึกษาเรียนรู้และทำความเข้าใจเป็นอย่างยิ่ง
คำถามคือ ประเทศไทยที่อยู่กลางระหว่างสองพี่เบิ้มนี้ เราได้เรียนรู้ รู้จักเพื่อ
ให้คนไทยสามารถเข้าถึงทั้งสองประเทศแล้วหรือยัง เมื่อเทียบระหว่างจีนและ
อินเดีย ต้องถามว่าคนไทยสนใจอินเดียแค่ไหน อดีตเอกอัครราชทูตไทยเคย
กล่าวไว้ว่าคนไทยต่างหากมิใชหรือที่ไม่อยากคบอินเดีย ถามว่าเพราะอะไร
หลายคนให้เหตุผลไม่ได้ มีแต่เรื่องของความรู้สึกไม่ชอบเท่านั้น
เมื่อประชาคมอาเซียนจะเป็นตลาดเดียวแล้ว ดังนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้คนที่
มีศักยภาพที่เป็นที่ต้องการของตลาดงานจะต้องไหลบ่าไปมาอย่างเสรี คนไทยจะ
อยู่ตรงไหนของตลาดเสรีนี้??? ประเทศไทยได้วางแผนที่จะเตรียมคนมากน้อย
เพียงใด เรารู้แจ้งชัดเมื่อเราเป็นประธานอาเซียนปีครึ่ง ว่าเราจะต้องเข้าไป
เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียนในไม่ช้า ดิฉันอยู่ในวงวิชาการที่ทำงานด้านนี้
วิ่งไปฟังกระทรวงการต่างประเทศพูดเรื่องนี้บ่อยครั้งทีเดียวจนเกิดความกังวล
พร้อมกับคำถามใน blog นี้
เพื่อนบ้านในอาเซียนพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่าเราหลายประเทศ อินเดียไม่
ต้องพูดถึงเพราะเขามีความคิดว่า "NO ENGLISH NO JOB" คนจีน เวียดนาม
เขมร อินโดนีเซียที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเหมือนกับเรานั้น เขากำลังพัฒนาตน
เองอย่างจริงจัง เราต้องยอมรับในเรื่องความเอาจริงของคนในชาติเหล่านี้ คน
ไทยจะทำอย่างไรต่อไปสำหรับการเข้าเป็นประชาคมอาเซียนเพื่อจะสามารถอยู่
กับเพื่อนๆ ที่มีความสามารถมากมายมีการแข่งขันรอบทิศที่เราไม่อาจปฏิเสธได้
สายไปหรือยัง? สำหรับคนไทยที่ต้องรู้จักเพื่อนบ้านให้มากขึ้น ไม่ว่าเราจะวิ่ง
ตามตะวันตกอย่างไรก็ตาม เราไม่อาจจะอยู่ในสายตาของตะวันตกได้อย่างเท่า
เทียม ทำไมเราไม่ตั้งสติ หยุดกลับมาดูสิ่งที่ดีๆ ที่มีอยู่ในความเป็นไทย ในความ
เป็นอาเซียน และในความเป็นเอเชีย เราต้องเร่งพัฒนาตนเองให้พร้อมที่จะก้าว
เดินไปพร้อมกับเพื่อนบ้านในประชาคมอาเซียน จีน อินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่นอย่าง
มีเกียรติ และศักดิ์ศรี ภาคภูมิใจ มั่นใจในความเป็น "เอเชีย" ที่จะสามารถใช้
"วิถีตะวันออก" ที่เป็นจุดเด่นของภูมิภาคผสานกับบางเรื่องที่เลือกสรรจาก
ตะวันตกมาปรับใช้อย่างมีสติ เพื่อการดำรงชีวิตอย่างสร้างสรรค์ อย่างมีคุณค่า
และความหมายต่อการสร้างความรัก ความสงบสันติสุข และความยั่งยืนให้กับ
ภูมิภาคและโลกใบนี้ ให้สมกับที่เกิดมาเป็น "คนเอเชีย" มิใช่หรือ??????
--------------------------------------------------
บอกกล่าว ข่าวแจ้ง
ขอเชิญชวนท่านที่สนใจจะเรียนรู้เรื่องราวของอินเดียในทุกมิติ และร่วมสร้างองค์
ความรู้ให้กับประเทศไทยเพื่อประโยชน์ในการสร้างความร่วมมือในมิติต่างๆ กับ
อินเดียสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท สาขาวัฒนธรรมและการพัฒนา
แขนงอินเดียศึกษา สนใจกรุณาติดต่อที่
- บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา
http://www.grad.mahidol.ac.th โทร 02-441-4125
- สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล
www.lc.mahidol.ac.th โทร. 02-800-2308-14 ต่อ 3302, 3101
ด่วน รอบที่ 2 สมัครด้วยตนเอง 1-26 ก.พ. 54
สมัครทางไปรษณีย์ 1-16 ก.พ. 54
สมัครทาง internet 1-20 ก.พ. 54
ท่านอย่าลังเลใจ ท่านจะได้มีโอกาสออกภาคสนามในประเทศอินเดียซึ่งเป็น
ประสบการณ์ที่หาได้ไม่ง่ายนัก และสามารถสมัครรับทุนจากรัฐบาลอินเดียด้วย
ท่านจะได้ทำในสิ่งที่แตกต่างและท้าทาย
ไม่มีความเห็น