เทศกาลบอลโลกเพิ่งจะผ่านไป... เราๆ ท่านๆ คงจะเห็นนักกีฬาชั้นนำ “ดำขึ้น” เรื่อยๆ มีสัดส่วนของคนขาว(ฝรั่ง)น้อยลง ผิวดำ(นิโกร)เพิ่มขึ้น
นักกีฬา ดารา หรือนางแบบผิวดำมักจะชวนให้คนทั่วโลกคิดว่า คนดำเป็นคนที่มีสุขภาพดีกว่า และแข็งแรงกว่าคนทั่วไป
ฝรั่งมีข้อดีที่เป็นนักคิด นักค้น สนใจสถิติ... สถิติเกี่ยวกับโรคเส้นเลือดสมองตีบ แตก ตัน หรือที่เรียกว่า อัมพฤกษ์-อัมพาตเกี่ยวกับคนดำที่น่าสนใจมีอย่างนี้ครับ
คนอเมริกันทางตะวันออกเฉียงใต้ เช่น รัฐแคโรไลนาเหนือ แคโรไลนาใต้ จอร์เจีย ฯลฯ เป็นอัมพฤกษ์-อัมพาตมากกว่าบริเวณอื่นๆ บริเวณนี้จึงมีชื่อเรียกว่า “แถบสโตรค(อัมพฤกษ์-อัมพาต / stroke belt)”
สถิติคนอเมริกันอาฟริกัน(นิโกรที่บรรพบุรุษมาจากอาฟริกา)เป็นอัมพฤกษ์-อัมพาตประมาณ 2 เท่าของคนผิวขาวที่ไม่ได้มาจากอเมริกาใต้ (non-Hispanic whites หรือคนผิวขาวที่พ่อแม่ไม่ได้พูดภาษาสเปน-โปรตุเกส)
คนอเมริกันอาฟริกันในแถบอัมพฤกษ์-อัมพาตจะเป็นโรคเส้นเลือดสมอง(สโตรค)ครั้งแรกที่อายุประมาณ 45 ปี หรือมีอายุเฉลี่ยน้อยกว่าคนผิวขาวในแถบตะวันตกกลาง (midwest) ของอเมริกาประมาณ 20 ปี
เรื่องนี้ ดร.แพทริค กริฟฟิธ อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบประสาท แห่งโรงเรียนแพทย์เมฮาร์รี แนชวิลล์ รัฐเทนเนซซีสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นผลจากคนผิวดำ และคนที่อยู่ในแถบสโตรคเป็นโรคความดันเลือดสูงมากกว่าค่าเฉลี่ย
ผศ.ดร. บรูซ โวฟเบียเกล อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบประสาท แห่งโรงเรียนแพทย์ยูซีแอลเอกล่าวว่า
คนดำทั่วโลกเป็นโรคความดันเลือดสูงมากกว่า และมักจะควบคุมความดันได้ยากกว่าประชากรกลุ่มอื่นๆ
คนดำในอาฟริกาตะวันตะเป็นโรคความดันเลือดสูงประมาณ 16 % คนดำในหมู่เกาะคาริบเบียน(อเมริกากลาง)เป็นโรคนี้ 26 % และคนดำในอเมริกาเป็นโรคนี้ 33 %
อาจารย์ท่านสันนิษฐานว่า คนดำอพยพมาจากเขตอากาศร้อนชื้น ทำให้ร่างกายมีแนวโน้มจะเก็บสะสมเกลือไว้มากกว่าประชากรกลุ่มอื่น
ผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นสันนิษฐานว่า ในอดีตอาฟริกาเขตซับซาฮาราน (subsaharan Africa) ค่อนข้างจะขาดเกลือมาเป็นเวลานาน อาจทำให้ร่างกายต้องปรับตัว เพื่อเก็บสะสมโซเดียมไว้มากหน่อย
ข่าวไม่ดีสำหรับคนดำคือ คนดำเป็นโรคเบาหวาน และโรคอ้วนมากกว่าคนขาว(ฝรั่งผิวขาว)ด้วย โดยเป็นเบาหวานประมาณ 2 เท่าของคนขาว คนที่เป็นเบาหวานมีความเสี่ยงต่อสโตรค(อัมพฤกษ์-อัมพาต)เพิ่มขึ้น 2-4 เท่า
คนดำอ้วนกว่าคนขาว ผู้ชายผิวดำมีน้ำหนักเกินหรืออ้วนประมาณ 63 % ส่วนผู้หญิงผิวดำมีน้ำหนักเกินหรืออ้วนประมาณ 75 %
อาจารย์กริฟฟิธสันนิษฐานว่า คนดำน่าจะมียีนส์(พันธุกรรม)ประเภท “หิวกระหาย (thirfty gene)” ซึ่งเกิดจากการที่มีบรรพบุรุษใช้ชีวิตอย่างอดมื้อกินมื้อมาก่อน
เมื่อคนดำรุ่นหลังอพยพไปอยู่ในเขตที่มีอาหารการกินเหลือเฟือ แถมยังมีอัตราการสูบบุหรี่ และออกกำลังกายน้อยกว่าคนขาว ทำให้สุขภาพคนดำตั้งแต่วัยกลางคนขึ้นไปไม่ค่อยดี
ปัจจัยเสี่ยงอัมพฤกษ์-อัมพาตที่สำคัญได้แก่ เชื้อชาติ(ผิวดำ) ความดันเลือดสูง น้ำหนักเกินหรืออ้วน สูบบุหรี่ และข้อสุดท้ายที่อาจจะขัดหูขัดตาเราๆ ท่านๆ ได้แก่ ฐานะยากจน (low socioeconomic status)
สถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติอเมริกาและมูลนิธิผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น (The produce for better health foundation) กล่าวว่า คนดำกินผักผลไม้น้อยกว่าประชากรกลุ่มอื่นๆ
นอกจากนั้นยังเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน เส้นเลือดสมองแตก-ตีบตัน(อัมพฤกษ์-อัมพาต) น้ำหนักเกิน อ้วน ความดันเลือดสูง และมะเร็งสูงกว่าประชากรทั่วไป จึงควรกินผักผลไม้เพิ่มขึ้นตั้งแต่วัยเด็ก
เราๆ ท่านๆ ส่วนใหญ่คงจะมีบรรพบุรุษอยู่ในเขตร้อนชื้นคล้ายคนดำ(นิโกร) โอกาสเป็นโรค เช่น ความดันเลือดสูง เบาหวาน น้ำหนักเกิน อ้วน ฯลฯ อาจจะมากกว่าคนในเขตอบอุ่นหรือหนาวอย่างฝรั่ง(ถ้ากิน และออกแรงเท่าๆ กัน)
เริ่มจากเน้นข้าวกล้อง ผัก ผลไม้ ถั่ว งา และอาหารไม่ขัดสี ลดข้าวขาว แป้ง น้ำมัน และน้ำตาลง กินพืชผักให้ได้อย่างน้อยวันละ 5 สี(ความหลากหลายของสี) 5 ทัพพี(ปริมาณ)... สุขภาพก็ดีขึ้นได้ในระยะยาวครับ
แหล่งข้อมูล:
ขอขอบคุณอาจารย์ขจิต...
ทว่า... เรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติฐาน+สถิติ ต้นฉบับปรากฏในแหล่งที่มาท้ายเรื่อง
โรคทรัพย์จางเป็นโรคที่น่ากลัวจริงๆ อย่างที่อาจารย์ว่า... จึงขอถือโอกาสนี้แสดงความยินดีกับท่านผู้อ่านที่ไม่เป็นโรคทรัพย์จางทุกท่านครับ
เป็นสถิติที่น่าสนใจดีนะคะ วันก่อนกำลังคิดถึงเรื่องมะเร็งผิวหนัง อยากถามคุณหมอว่าคนผิวเอเชียอย่างเราน่าจะเป็นมะเร็งได้ยากกว่าคนขาวรึเปล่าคะคุณหมอ คุ้นๆ ว่าได้ยินมา เพราะแสงแดดที่ออสเตรเลียมี UV แรงมาก กลัวๆ
หมายเหตุ คุณหมอใช้ font อะไรเขียนก่อนมาแปะที่บันทึกค่ะ หนูอ่านไม่ค่อยสะดวกตาเลย ตัวมันจะผอมๆ ลองเปลี่ยนเป็น Tahoma ก็จะดีนะคะ เพราะลองกด อักษร: ใหญ่ แล้วแต่ตัวอักษรไม่ใหญ่ขึ้นเลย อ่านยากจัง
ขอขอบคุณอาจารย์มะปรางเปรี้ยว...
เดิมฝรั่งเชื่อกันว่า คนที่มีผิวสีแทนมีสุขภาพดี
กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพมากได้แก่
ขอขอบคุณอาจารย์ iS และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
เท่าที่ทราบ...
ขอขอบคุณมากเป็นพิเศษสำหรับการแนะนำแบบอักษร (font) ให้ใช้ Tahoma