กินฮอร์โมนดีไหมเนี่ย

ในปี พศ 2545 หรือเกือบ 10 ปีมาแล้ว มีผลการศึกษาที่เปลี่ยนความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ฮอร์โมนในผู้หญิงวัยทองไปอย่างสิ้นเชิง

ก่อนหน้านั้นเชื่อกันว่า การให้ฮอร์โมนจะช่วยป้องกันโรคหัวใจ และลดกระดูกหัก เพราะฮอร์โมนเพศหญิงมีส่วนช่วยป้องกัน ทำให้ผู้หญิงโดยทั่วไปเป็นโรคหัวใจน้อยกว่าผู้ชาย

เคยมีผลการวิจัยขนาดใหญ่ สนับสนุนข้อมูลเบื้องต้นดังกล่าว

แต่นักวิทยาศาสตร์ไม่ได้เชื่ออะไรง่ายๆ จึงยังมีการศึกษาวิจัย และในปี 2545 หลังทำวิจัยกับผู้หญิงกว่า 16,000 คน ในหลายประเทศไปแล้วราว 2 ปี ทีมวิจัยตัดสินใจหยุดการวิจัย เพราะพบว่าผู้หญิงกลุ่มที่ได้ ฮอร์โมน มีอุบัติการณ์เป็น โรคหัวใจ มะเร็งเต้านม โรคหลอดเลือดสมอง และเส้นเลือดปอดอุดตัน มากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ฮอร์โมน แถมปีต่อมาก็มีออกตามมาว่ากลุ่มที่ได้ฮอร์โมน เป็นสมองเสื่อมมากกว่า

ถามว่า การวิจัยสองอัน ที่ทำคนละวิธี อันไหนเชื่อถือได้ เพราะเป็นการวิจัยขนาดใหญ่ ทำในหลายประเทศทั้งคู่

ที่สนุกกว่านั้น คือหลังจากปี 2545 ก็ยังมีผลการวิจัยใหม่ๆเกี่ยวกับ การให้ฮอร์โมนออกมาเป็นระยะๆ ผลก็ทำให้คนงงๆได้ อยู่ เช่น ในปี 2550 มีรายงานในการประชุมวิชาการทางประสาทวิทยา ที่อเมริกา บอกว่าผู้หญิงที่ได้ฮอร์โมนทันทีหลังหมดประจำเดือน จะช่วยป้องกันสมองเสื่อม  

หรือผลการวิจัยออกมาในปีเดียวกันบอกว่า ผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 50-59 ปี ที่ได้ฮอร์โมน จะมีประโยชน์ป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมองได้ แถมมีประโยชน์ลดกระดูกหัก

ไม่ทราบว่าคนที่เป็นประชาชนทั่วไป อ่านแล้วสรุปว่าไง

ในฐานะคนที่พอมีความรู้ สรุปได้อย่างเดียวว่า การให้ฮอร์โมนหลังวัยหมดประจำเดือน ไปต่อเนื่องนานๆ โดยหวังผลป้องกันโรค ให้เหมือนตอนสาวๆ น่าจะเป็นวิธีคิดที่ผิด เพราะดูจะชัดเจนว่ามีทั้งประโยชน์และโทษ

ที่สำคัญกว่าคือ หมอบอกหรือเปล่า คนไข้รู้หรือเปล่า และถ้าบอกแล้วจะเชื่อหรือเปล่า ถ้าให้โดยไม่บอกให้ชัดเจน แล้วเกิดปัญหา จะมีการฟ้องร้องไหม ว่าหมอไม่รู้จักตามความก้าวหน้าหรือความเปลี่ยนแปลงของผลการวิจัย 

ถ้าฟ้องกันขึ้นมาใครจะเอาผลการวิจัยไหนเป็นหลักฐาน

ถ้าตัดเรื่องฟ้องร้องไป เอาแค่การดูแลโดยใช้หลักวิชา คนที่เป็นหมอต้องตามอ่านวิชาการถี่ยิบขนาดไหน แล้วจะมั่นใจได้แค่ไหนว่า ความรู้หรือข้อสรุปที่ได้ในขณะปีใดปีหนึ่งมันเป็นคำตอบสุดท้ายจริงหรือเปล่า

ที่แย่กว่าคงเป็นชาวบ้านว่าจะจัดความสัมพันธ์ตัวเองกับ บริการทางการแพทย์ หรือเทคโนโลยสมัยใหม่ยังไงดี