วันนี้ข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือ ๖ เดือน ๖ คุณภาพ ของกระทรวงศึกษาธิการก็เลยอยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้เพื่อน ๆ ได้รู้ร่วมกัน
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ในการดำเนินงานตามเป้าหมายการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สองตามนโยบาย ๖ เดือน ๖ คุณภาพ (ตุลาคม ๒๕๕๓ - มีนาคม ๒๕๕๔ ) ดังนี้
๑. เรียนพรี เรียนดี ๑๕ ปี อย่างมีคุณภาพ
จะมีการนำเงินงบประมาณจำนวน ๘ หมื่นล้านบาท ในปีงบประมาณ ๒๕๕๔ ดำเนินการให้ลงไปสู่สถานศึกษาอย่างแท้จริง โดยให้กรรมการสถานศึกษาและผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการบริหารงบประมาณเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจัดวางระบบและกำหนดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้ปกครองและกรรมการสถานศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษาในการพิจารณากรอบการใช้จ่ายงบประมาณของสถานศึกษา เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา มีการจัดทำคู่มือการปฏิบัติที่ชัดเจน เป็นการเริ่มต้นของการมีส่วนร่วมทางการศึกษาระดับฐานราก ทำให้ชุมชนสนับสนุนการศึกษา
๒. การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
ตามแนวทางการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง กระทรวงศึกษาธิการประกาศชัดเจนว่าผู้เรียนในแต่ละระดับ ควรมีจุดเน้นในการพัฒนาอย่างไร เพื่อให้เป็นเป้าหมายที่ประชาชนได้เห็นอย่างชัดเจนและมีส่วนร่วมในการพัฒนาผู้เรียนต่อไป โดยกำหนดจุดเน้นการศึกษาในแต่ละระดับ ดังนี้
- ระดับปฐมวัย จะเน้นในเรื่องการพัฒนาคุรภาพสมองเด็กไทยให้ได้รับสารไอโอดีน และมีคุณลักษณะใฝ่รู้ ใฝ่เรียน
- ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จะมีการเน้นเป็นช่วงชั้นอย่างชัดเจน เช่น
- ระดับประถมศึกษาปีที่ ๑ - ประถมศึกษาปีที่ ๓ จะเน้นให้มีการอ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น ใฝ่ดี มีความรับผิดชอบ
- ระดับประถมศึกษาปีที่ ๔ - ประถมศึกษาปีที่ ๖ จะเน้นให้มีการอ่านคล่อง เขียนคล่อง มีทักษะในการคิดขั้นพื้นฐาน มีทักษะชีวิตเพื่อการศึกษาอย่างสร้างสรรค์ ใฝ่ดี มีจิตสาธารณะ
- ระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๑ - มัธยมศึกษาปีที่ ๓ ให้มีทักษะในการคิดชั้นสูง มีทักษะชีวิต รู้จักการแก้ไขปัญหา ใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้และแสวงหาความรู้ คิดเป็น แก้ปัญหาเป็น และอยู่อย่างพอเพียง
- ระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๔ - มัธยมศึกษาปีที่ ๖ ให้มีทักษะในการคิดชั้นสูง ทักษะชีวิตในการแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี การรักการเรียนรู้ การค้นพบตัวเอง การแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง การใช้ภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของระดับนี้คือ มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความมุ่งมั่น มีความเป็นพลเมือง
- ระดับอาชีวศึกษา จะมุ่งเน้นการพัฒนาฝีมือแรงงานที่มีคุณภาพ มีทักษะชีวิต และทักษะอาชีพ มีความสามารถทางด้านเศรษฐกิจ
- ระดับมหาวิทยาลัย มุ่งเน้นด้านความเป็นเลิศทางวิชาการ และส่งเสริมศักยภาพในการแข็งขัน มุ่งเน้นเรื่องสหกิจศึกษา โดยจะให้มหาวิทยาลัมีส่วนร่วมกับภาคเอกชน ให้มหาวิทยาลัยสนองตอบต่อการช่วยเหลือสังคม โดยมี ๑ มหาวิทยาละย ๑ จังหวัด
๓. คุณภาพการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ให้ กศน. ตำบลเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชนตลอดชีวิต เป็นการศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัยที่เป็นการเรียนฟรี สำหรับประชาชนวัยทำงาน ๓๐ ล้านคน และเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชนของประชาชนนอกระบบทั้งหมดสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา ส่งเสริมเรื่องทักษะชีวิต และความเป็นพลเมือง
๔. คุณภาพสถานศึกษายุคใหม่
เป็นการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โดยให้สถานศึกษานานาชาติจำนวน ๕๐๐ โรง และสถานศึกษาเอกชน จำนวน ๕๐๐ โรง โรงเรียนการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับมัธยมศึกษาสู่มาตรฐาน ๕๐๐ โรง เป็นสถานศึกษาระดับ World Class โรงเรียนดีระดับอำเภอ ๒,๕๐๐ โรง เพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศทางวิชาการ ส่วนโรงเรียนดีประจำตำบลต้องเน้นด้านคุณภาพ ความเสมอภาค และความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วน จำนวน ๗,๐๐๐ โรง โดยใช้ยุทธศาสตร์ ๗๗๗ ดังนี้
๗ แรก ในการดำเนินการแรก คือ การพัฒนาโรงเรียนดีประจำตำบลใน ๔ เดือนแรก มีเป้าหมายในการดำเนินการ ๗ ประการ ได้แก่
๑. มีแผนงานในการพัฒนาที่ชัดเจน
๒. มีเป้าหมายในการพัฒนาที่ชัดเจน
๓. โรงเรียนมีการพัฒนาด้านกายภาพที่ชัดเจน มีความสะอาด
๔. มีสภาพแวดล้อมที่สวยงาม มีบริเวณโดยรอบร่มรื่น
๕. มีบรรยากาศอบอุ่น
๖. มีความปลอดภัย
๗. ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมเป้นเจ้าของ
๗ ที่สอง คือ การพัฒนาใน ๔ เดือนต่อมา จะมีการพัฒนา ๗ ประการ ได้แก่
๑. มีห้องสมุด ๓ ดี
๒. มีห้องปฏิบัติการ
๓. มีศูนย์การเรียนรู้อาชีพ
๔. มีศูนย์กีฬาชุมชน
๕. มีห้องสุขาที่ถูกสุขลักษณะ
๖. มีครูที่ใช้แหล่งเรียนรู้และ ICT
๗. มีการบริหารที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง
๗ ประการสุดท้าย จะเป็นคุณลักษระที่พึงประสงค์ ได้แก่
๑. มีโรงเรียนที่มีชื่อเสียงดี มีความพร้อมที่จะเป็นโรงเรียนดีใกล้บ้าน
๒. มีนักเรียนที่ใฝ่รู้
๓. มีนักเรียนใฝ่เรียน
๔. มีนักเรียนใฝ่ดี
๕. มีความเป็นไทย
๖. มีสุขภาพดี
๗. รักงานอาชีพ
๕. คุณภาพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
กระทรวงศึกษาธิการจะมีการจัดตั้งกองทุนเทคโนโลยีและสารสนเทศเพื่อการศึกษา เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการผลิต วิจัย และพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา โดยในครั้งแรกรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้จำนวน ๕ ล้านบาท คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) สนับสนุนให้อีก ๗๕ ล้านบาท ขณะนี้ได้ดำเนินการเปิดบัญชีกองทุนแล้ว โดยในการประชุมคณะกรรมการกองทุน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้ดำเนินงานทั้งหมด ๔ เรือง คือ
๑. เรื่องกฎหมายในการจัดตั้งสถาบันเทคโนดลยีเพื่อการศึกษา
๒. การดำเนินการกองทุนให้มีสำนักงานกองทุนท่ชัดเจน
๓. บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้มาทำงานร่วมกัน เพื่อที่จะยกระดับเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
๔. จัดกิจกรรมเรื่องเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา พัฒนาการศึกษาตามเป้าหมายการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง โดยยึดหลัก 3N ได้แก่
- NedNet (National Education Network) เครือข่ายเพื่อการศึกษาแห่งชาติ เป็นศูนย์กลางเครือข่ายหลักในการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา และนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มาช่วยในการจัดการเรียนการสอนรวมถึงการวิจัยค้นคว้าแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้จากสถาบันการศึกษา หน่วยงานทางการศึกษา และแหล่งความรู้ทั่วประเทศและนานาชาติ
- NEIS (National Education Information System) ศูนย์สารสนเทศเพื่อการศึกษาแห่งชาติ เป็ฯศูนย์กลางรวบรวม จัดเก็บ และเชื่อมโยงระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษา เพื่อใช้ในการบริหารจัดการ การศึกษาวิจัย การค้นคว้าและแลกเปลี่ยนข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- NLC (National Learning Center ) ศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติเป็ฯศูนย์กลางรวบรวม จัดเก็บ และเชื่อมโยงสื่อการเรียนการสอนและการเรียนรู้ เพื่อใช้เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การศึกษาวิจัย และค้นคว้าของกระทรวงศึกษาะการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชนทุกภาคส่วน
๖. คุณภาพครู
จะมีการพัฒนาคุณภาพครูทั้งระบบ ทั้งการผลิต การพัฒนาการใช้ การพัฒนาค่าตอบแทน การแก้ไขปัญหาหนี้สินครู การยกระดับมาตรฐานวิชาชีพครูโดยในช่วง ๖ เดือนที่ผ่านมาถือว่ามีการพัฒนาไปมากพอสมควร ทั้งเรื่องการปรับฐานเงินเดือน การแก้ไขกฎ ก.ค.ศ. เพื่อให้ครูชั้นผู้น้อยได้มีค่าตอบแทนเพียงพอและเหมาะสมกับวิชาชีพ การแก้ไขกระบวนการในการดูแลเรื่องวิทยฐานะของครูโดยในปีงบประมาณ ๒๕๕๔ จะมีการพัฒนาครูอย่างเข้มข้น เช่น การคืนครูให้นักเรียน โดยการจ้างครูธุรการอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาครูแนวใหม่ การสร้างขวัญและกำลังใจให้กับครูโดยการประเมินวิทยฐานะแบบเน้นผลงาน
สวัสดีปีใหม่น้อง..วันนี้ก็วันที่ 5 แล้ว อยู่ กศน.ตำบลคนเดียวเหงา..เพราะต่างคนก็ไม่รู้ชะตากรรมของตนเองว่าจะตกตำบลใหน 6 เดือน 6 คุณภาพ ก็คงไม่เริ่มหรอกเพราะแต่ละคนก็ไม่มีกำลังใจทำงาน ทุกคนเก็บตัวเงียบในพื้นที่ ตอนนี้พี่สวมหัวโขนเป็นหัวหน้าตำบลอยู่ วันที่ 10 ม.ค. 54 นี้ ก็รู้ว่าตัวเองอยู่พื้นที่ใหน เขาจะถอดหัวให้กับใครก็ไม่รู้ ตอนนี้รู้ซึ้งเลยว่าคำว่า "กำลังใจ" หมายความว่าอย่างไร หลังจากวันที่ 10 ม.ค.54(วันยกภูเขาออกจากอก)ก็คงจะเริ่มทำงานกัน แต่ก็วิ่งงานการเงินและจดหมายราชการให้ ครูอาสาเขาอยู่ รอ พรก.คนใหม่ เขามาปฎิบัติงาน(อาจจะเป็นพี่เองก็ถือว่าเรามีชีวิตใหม่)จริงป่ะ ชีวิตที่ผ่านพ้น มีลดย่อมมีเพิ่ม ขอเพียงให้เหมือนเดิม กำลังใจ......
กำลังใจให้เพื่อน ๆ กศน.ทุกคน ต่างคนต่างรอคอยกับ พรก. เอาเป็นว่าเราลืมไปดีกว่าไหม อะไรจะเกิดมันก็เกิด อยู่และทำงานกับ กศน.มาตั้งนาน เรายังทำได้ ดีกว่าไหมถ้าเราจะทำต่อไป ...สักวันจะเป็นของเรา...๕๕๕
"คิดดี พูดดี ทำดี ทุกอย่างก็จะดี" โสรโยวาท
เขียนได้เยอะจริงๆ รักษาสุขภาพบ้างนะคนท้อง พักผ่อนให้มากๆนะครับ
นโยบายยาวเหยียดเลยนะครูอิ๊ด....หยุดงาน ...แวะรับบุญหน่อยนะคะ พี่ เอาบุญมาฝากทั้งแม่ และเจ้าตัวเล็ก ขอให้สุขภาพแข็งแรงดูแลตัวเองด้วย เอาบุญมาฝาก .....จ้า.......