ผศ.ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
ผศ.ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์ อาจารย์ โทนี่ ปัญญโรจน์

บทความ ผู้ฟังอันตราย


ในการพูดแต่ละครั้ง เรามักวัดความสำเร็จของนักพูดหรือวิทยากร จากการประเมินผลหรือการให้คะแนนของผู้ฟัง ดังนั้น ผู้ฟังจึงมีความสำคัญมากสำหรับการเป็นนักพูด นักบรรยาย เพราะถ้าการพูดในครั้งนั้น ถ้าพูดแล้วคนฟังชอบ และมีการประเมินผลออกมาดีก็ถือว่าการพูดในครั้งนั้นๆ ประสบความสำเร็จ และถ้ายิ่งมีการเชิญให้มาพูดหรือเชิญมาให้บรรยายซ้ำๆ ก็ยิ่งถือว่าเป็นที่ยอมรับจากผู้ฟังมากยิ่งขึ้น

ผู้ฟังอันตราย

โดย...ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์

www.drsuthichai.com

                                ในการพูดแต่ละครั้ง เรามักวัดความสำเร็จของนักพูดหรือวิทยากร จากการประเมินผลหรือการให้คะแนนของผู้ฟัง ดังนั้น ผู้ฟังจึงมีความสำคัญมากสำหรับการเป็นนักพูด นักบรรยาย เพราะถ้าการพูดในครั้งนั้น ถ้าพูดแล้วคนฟังชอบ และมีการประเมินผลออกมาดีก็ถือว่าการพูดในครั้งนั้นๆ ประสบความสำเร็จ และถ้ายิ่งมีการเชิญให้มาพูดหรือเชิญมาให้บรรยายซ้ำๆ ก็ยิ่งถือว่าเป็นที่ยอมรับจากผู้ฟังมากยิ่งขึ้น

                                ในบทความฉบับนี้ เราจะมาพูดกันถึง ผู้ฟังอันตราย กล่าวคือ ผู้ฟัง ที่มีลักษณะที่ผู้พูดไม่ต้องการเจอหรือต้องการเผชิญ แต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ผู้ฟังอันตรายมีดังนี้

                                1.ผู้ฟังที่ง่วงนอน ผู้ฟังประเภทนี้พบมากในการสอนหนังสือในห้องเรียน รวมทั้งงานบรรยายของวิทยากร โดยเฉพาะช่วงบ่าย ซึ่งมักมีคำกล่าวว่า “ ช่วงปราบเซียน ” เนื่องจากหลังรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จ ลักษณะของผู้ฟังมักจะมีอาการ “ หนังท้องตึง หนังตาหย่อน ”  วิธีแก้ไข ผู้พูดควรออกแบบกิจกรรมให้ผู้ฟังมีการเคลื่อนไหวบ้าง เช่น ให้ปรบมือ ให้ยืน ให้เล่นเกมส์เพื่อการศึกษา ฯลฯ

                                2.ผู้ฟังประเภทจดบันทึก ผู้ฟังประเภทนี้มักจะตั้งหน้าตาจดบันทึก คำบรรยายหรือคำสอน จนกระทั่งไม่มองหน้า อาจารย์หรือวิทยากร ผู้ฟังประเภทนี้มีความตั้งใจมาก หากจดไม่ทันก็มักจะถาม ทำให้การพูดการบรรยาย ต้องช้าลง เนื่องจากกลัวผู้ฟังจดไม่ทัน วิธีแก้ไข ผู้พูดควรแนะนำผู้ฟังว่า หากจดไม่ทัน หลังจากการบรรยาย ผู้พูดมีเอกสารหรือข้อมูล ผู้ฟังสามารถนำไปคัดลอกหรือถ่ายเอกสารได้ สำหรับเวลาบรรยายขอให้ตั้งใจฟังก่อน

                                3.ผู้ฟังประเภทพูดคุยกัน ผู้ฟังประเภทนี้ รบกวนสมาธิของผู้พูดและผู้ฟังคนอื่นๆ มักจะพูดคุยกันในห้องเป็นระยะๆ  วิธีแก้ไข ผู้พูดควรสังเกตว่า การพูดคุยกันของผู้ฟัง เป็นการพูดคุยกันเรื่องส่วนตัวหรือเกี่ยวกับการอบรม หากเกี่ยวกับการอบรม ผู้พูดก็สามารถตั้งคำถาม เพื่อให้ผู้ฟังได้ถามหรือแสดงความคิดเห็น แต่หากไม่เกี่ยวกับการฝึกอบรมหรือการเรียน ผู้พูดอาจใช้สายตามองไปยังผู้ฟังบ่อยๆ เพื่อให้ผู้ฟังเกิดความเกรงใจ

                                4.ผู้ฟังประเภทหลับ แตกต่างจากประเภทแรกคือง่วงนอน ผู้ฟังประเภทหลับ มักเกิดจากหลายปัจจัย อาจเป็นนิสัยส่วนตัว  บางคนอาจพักผ่อนมาน้อย นอนหลับมาน้อย ทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย วิธีการแก้ไข ต้องมีกิจกรรมต่างๆ เสริมการบรรยาย ไม่บรรยายอย่างเดียว เช่น ให้ปรบมือเป็นจังหวะ  ร้องเพลง เต้น กล่าวคือทำให้บรรยากาศตื่นเต้นครึกครื้น

                                5.ผู้ฟังประเภททำลายจังหวะ  ผู้ฟังประเภทนี้ เมื่อผู้พูดพูดไปก็มักจะมีคำถามระหว่างการสอนหรือการบรรยายตลอดเวลา ทำให้จังหวะในการพูดต้องเสียไป วิธีการแก้ไข เมื่อได้ตอบคำถามเสร็จ ก็ควรบอกผู้ฟังประเภทนี้ว่าสำหรับคำถามต่อไปกระผมขอตอบท้ายชั่วโมง เนื่องจากเวลามีจำกัดครับ 

                                6.ผู้ฟังประเภทลองของ ผู้ฟังประเภทนี้ มักจะมีปมเด่น มักจะต้องการอวดภูมิความรู้ของตน และมักจะคิดว่าตนเองเก่งเลอเลิศกว่าผู้อื่น วิธีแก้ไข ต้องสังเกตให้รู้ว่าผู้ฟังต้องการอะไร เพราะถ้าต้องการเด่นหรือถ้าต้องการอวดภูมิความรู้ของตน เราก็อาจเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความคิดเห็นในห้องเรียนบ้าง เมื่อเขาแสดงความคิดเห็นแล้วเขาก็จะมีความสุขและความภูมิใจ แต่ข้อควรระวังคือ ต้องระวังอย่าให้ผู้ฟังประเภทนี้ยึดเวที เนื่องจากกระผมไปเจอบางงาน ผู้ฟังประเภทนี้พอได้ไมค์โครโฟนแล้ว ไม่ยอมปล่อยไมค์โครโฟน พูดอย่างเดียวทำให้เสียบรรยากาศในการพูดหรือเสียบรรยากาศในการจัดฝึกอบรม

                                ท้ายนี้ขอสรุปว่า ปัจจัยที่มีผลทำให้การพูดแต่ละครั้งประสบความสำเร็จ กล่าวคือผู้ฟัง หากถ้าผู้ฟังไม่ให้ความร่วมมือ คือไม่ยอมฟัง ก็ถือว่าการพูดการบรรยายในครั้งนั้นๆ มักจะมีปัญหาหรืออุปสรรคในการพูด ดังนั้น ถ้าอยากประสบความสำเร็จในการเป็นนักพูด เราควรเอาใจใส่และสนใจ ความต้องการของผู้ฟัง เมื่อเราตอบสนองความต้องการของผู้ฟังได้แล้ว ผู้พูดก็มักจะประสบความสำเร็จในการพูดในครั้งนั้นๆ

พูดอะไรพูดจริงทุกสิ่งเถิด                     จะบังเกิดลาภผลเป็นล้นหลาม

ปฏิบัติตนเยี่ยงผู้ดีไม่มีทราม                 พยายามสงวนศักดิ์รักเกียรติตน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #ผู้ฟัง
หมายเลขบันทึก: 418006เขียนเมื่อ 4 มกราคม 2011 12:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เข้ามาเยี่ยมชมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ

เห็นด้วยที่สุดครับอาจารย์ ผมก็เคยเจอเกือบทุกประเภทครับ โดยเฉพาะประเภทสุดท้าย แต่ผมคิดว่าจัดการง่ายกว่าประเภทอื่นครับเพราะคนประเภทนี้มักจะร้อนวิชา อยากปล่อยของ หากเราหาจังหวะให้เขาได้ออกมาระบายบ้างอย่างมีขอบเขตก็จะดีมากๆทำให้คนอีกหลายๆคนอาจจะอยากออกมาแลกเปลี่ยนบ้าง แต่วิทยากรต้องปรับบทบาทเป็นผู้กำกับการแสดงครับ คอยสั่ง "คัท" เมื่อเห็นว่าเริ่มจะไถลออกนอกลู่นอกทาง จากนั้นคอยเชื่อมโยงประเด็นให้กลับไปเข้าที่เข้าทางแล้วสั่ง "แอ๊คชั่น" ใหม่ ดีครับจะได้ไม่ต้องพูดคนเดียวทั้งวัน

ขอบคุณที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับผม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท