วันนี้เป็นวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ ซึ่งนับกันตามคติสากล หรือตามสิ่งที่สมมุติกันขึ้นมานี้ ก็นับว่าเป็นวันสุดท้ายของปีพศ. ๒๕๕๓ หรือวันสิ้นสุดของปีนี้
คำว่า” สิ้นสุด” ของปีนี้ มองเผินๆ ให้รู้สึกใจหายกับวันเวลาที่ล่วงเลยไป มันช่างรวดเร็วเหลือเกิน เร็วจนทำให้ต้องมาทบทวนในวันนี้อีกครั้งว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เราได้ทำอะไรไว้บ้าง ดีหรือไม่ดี ใครเสียใจ หรือทุกข์ร้อนจาก การกระทำของเราบ้างไหมหนอ?
อันที่จริง ส่วนหนึ่งที่ รู้สึกว่าเวลาผ่านรวดเร็วอาจจะเป็นเพราะว่าในปีนี้มีงานให้ทำมากมาย จนไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องราวใดใดก็เป็นได้ การที่เรามีงานทำมากมาย ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามุ่งเน้นกระทำในส่วนที่เป็นเรื่องเฉพาะหน้า จนไม่มีเวลามาตรวจสอบ หรือทบทวน ผลของมันเอง ซึ่งอาจจะมีทั้งผลดี และผลเสียติดตามมาได้ทั้งนั้น
วันนี้แม่ต้อยจึงถือโอกาสมาทบทวนย้อนคิดเรื่องราวชีวิตของตนเอง ลองประเมินดูว่าอะไรบ้างที่เราได้ทำไว้ และอะไรคือสิ่งที่เราต้องการจากชีวิตนี้
พบว่าบางเรื่องบาง ราว เมื่อมันเลยผ่านไปเราไม่สามารถขอหรือเรียกร้องให้มันหวลกลับมาได้ หากเราไม่มีสติ หรือประมาทก็จะเกิดความรู้สึกเสียดายในภายหลังได้ และที่สำคัญคือ เราไม่มีโอกาสดีดี ที่จะได้ทำอย่างนั้นอีก
แม่ต้อยเองก็เกิดเหตุการณ์ เช่นนี้บ่อยๆ เหมือนกัน เช่นสติแตก หรือมุ่งแต่ทำงานจนไม่มีเวลาดูแลคนที่เรารัก หรือแม้แต่ดูแลตนเอง
ในช่วงปีที่ผ่านมา สิ่งที่ได้ทำอย่างต่อเนื่องคือการกระตุ้นให้คนทำงานในโรงพยาบาลมีความพร้อม มีความสุขในการพัฒนาคุณภาพหรือโครงการ SHA
ได้สร้างเครือข่ายการเรียนรู้อย่างมากมายในงานชิ้นนี้ ได้เพื่อนร่วมทางที่มีจิตใจเดียวกันเหลือหลายคณานับ
ได้ร่วมกันสร้างองค์ความรู้ในงานอันประณีตจากส่วนลึกของจิตใจ เช่น งานวิจัย งานสิ่งแวดล้อมเพื่อการเยียวยา งานเรื่องเล่า
งานสร้างเครือข่ายการพัฒนาคุณภาพ อีกร่วม ๒๐ เครือข่ายทำให้รพ.หลายๆแห่งได้พัฒนาคุณภาพในลำดับที่สูงขึ้น จนผ่านการรับรองในหลายๆแห่ง
ในยามเพลิดเพลินจากการทำงาน หรือเพลิดเพลินจากสิ่งที่เรารัก เราจะรับรู้ว่าเข็มนาฬิกากระดิกผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อมารู้ตัวอีกครั้งเวลาก็ผ่านมานานโข
ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ นอกจากงานประจำแล้ว แม่ต้อยยังมีโอกาสได้ร่วมงานเลี้ยงสังสรรรค์กับเพื่อนๆ หลายต่อหลายกลุ่ม เพื่อส่งท้ายปีเก่า และเพื่อต้อนรับสิ่งที่ดีดี สำหรับปีใหม่นี้ เป็นโอกาสพิเศษที่ได้มานั่งคุยกัน กินข้าว และแลกเปลี่ยนของขวัญชิ้นพิเศษ
แม้ว่าจะสนุกสนานและเพลิดเพลิน แต่ในใจคอยคิดเสมอว่า สิ่งที่ดีดี นั้นมันน่าจะต้องมาจากตัวเราเองทั้งนั้นแหละ ใจต้องคิดดี มือทั้งสองต้องทำดี และทุกครั้งที่เราพูด ก็ควรพูดดีดี ด้วย แม้ว่าเราอาจจะทำได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง อาจจะหลุดไปบ้าง แต่หากมีสติควบคุม มีความตั้งใจ คอยกำกับ ก็จะฝังในตัวเราได้มากขึ้นทีละเล็กละน้อย
คงคล้ายๆกับเมล็ดพันธ์เล็กๆสักเมล็ดหนึ่ง เมื่อมีปัจจัย สิ่งแวดล้อมที่ดีงาม เมล็ดพันธ์นั้นย่อมเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว หากไม่ทันสังเกตดีดี มารู้ตัวอีกครั้งเมื่อพบว่าต้นไม้นั้นออกดอก ออกผลโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
วันหยุดยาว นี้แม่ต้อยปฏิเสธงานทุกอย่าง นั่งพักผ่อนที่บ้านอย่างเอกเขนก ตอนเช้าไปปล่อยปลาที่วัดข้างบ้าน หลังจากนั้นมานั่งๆนอนๆ อ่านหนังสือ ที่สะสมมาเกือบทั้งปี
และโชคดีมาก ที่ได้อ่านบทความของท่านว.วชิรเมธี ซึ่งท่านได้เขียนถึงท่านหลวงปู่ ติช นัท ฮันห์ ซึ่งท่านได้จาริกแสวงบุญมายังประเทศไทยในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แม่ต้อยรู้สึกประทับใจมากและขอนำมาเผยแพร่ต่อดังนี้
“ สติคือมวลรวมแห่งปาฏิหารย์”
การอธิบายถึงสภาวะที่สรรพสิ่งล้วนต้องอิงอาศัยกัน ( Inter-Being) เครื่องมือในการบรรยายอิทัปปัจจยตาของหลวงปู่คือ
” ชาหนึ่งถ้วย”
ชา.. เกิดจากส่วนผสมที่ไม่ใช่ชา.. หากชา เกิดจากชา.. โลกนี้คงไม่มีชา แต่เพราะชาเกิดจากส่วนผสมที่ไม่ใช่ชา เราจึงมีชาอุ่นๆไว้จิบ คลายหนาว หรือดับกระหาย เธอลองพิจารณาชาในถ้วยนี้สิ แล้วเธอจะพบว่า ในถ้วยชานี้ มีหมู่เมฆ มีสายฝน มีดิน มีปุ๋ย มีหยาดเหงื่อของชาวไร่ มีพ่อค้า มีนายทุน มีนักการเมือง มีการขนส่ง มีอากาศ มีถ้วยชา มีป้านชา มีคนชงชา และมีชาในถ้วยนี้...”
ในชาหนึ่งถ้วย หากจะพิจารณาอย่างลึกซึ้ง เราจะหยั่งถึงอะตอม และจักรวาลว่าล้วนแยกจากกันไม่ออก ความรู้ที่ว่าชา เกิดจากส่วยผสมที่ไม่ใช่ชา ทำให้เรารู้จักมองโลก และชีวิตเป็นองค์รวม ทัศนะแบบแยกส่วน ตัดตอน มองอะไรเป็นส่วนๆ เสี้ยวๆจะ ลดน้อยไป จิตใจจะเปิดกว้าง เมื่อใจเปิดกว้าง ความสำคัญมั่นหมายว่า ตัวตนของตน ดีเลิศที่สุดก็จะพลันเบาบางลงไป เมือตัวตนของเราเบาบาง ความสดชื่น ร่มเย็น ก็จะจรรโลงจิตใจให้ร่มเย็นอย่างง่ายดาย...”
(บทความ” จักรวาลในถ้วยชา “ ของท่านว.วชิรเมธ๊ นิตยสาร ซีเคร็ต)
ในปีใหม่นี้แม่ต้อยจึงขอส่งความปราถนาดีมายังมวลมิตรทุกๆท่าน ขออวยพรให้ทุกท่านมีชีวิตที่มีคุณค่า มีสติ และมีการทบทวนตัวเอง เพื่อให้เป็นสุขอยุ่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ความสุขง่ายๆ ด้วยตัวของเราเอง
สวัสดีปีใหม่คะ
สวัสดีค่ะแม่ต้อย
ขอบคุณข้อคิดดีๆที่นำมาฝากค่ะ ชื่นชมแม่ต้อยเสมอค่ะ
สุขสันต์วันส่งท้ายปีและสวัสดีปีใหม่2554ค่ะ
สวัสดีค่ะ
มาจิบชารับความสุขค่ะ ขอให้แม่ต้อยมีความสุข สดใสและเบิกบานตลอดไปนะคะ
สวัสดีเหล่ามวลสมาชิก
ทุกรูป ทุกคนทุกท่าน
วาระส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
คิดใดสมมุ่งหวังดังปรารถนา
ขอให้การเดินทางสร้างตำรา
มีความเจิญก้าวหน้าสถาพร
ปลอดภัยจากโรคาพยาธิ
มีอำนาจสุขโขสโมสร
มีชื่อเสียงก้องไกลไทยนคร
คอยปันป้อนความรู้สู่สังคม
จากใจ....ธนา นนทพุทธ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยจงดลบันดาลให้
ท่านประสบแต่ความสุข สดชื่น สมหวัง และมีพลังใจตลอดไป
-สวัสดีปีใหม่ครับ
สิ่งที่ดีดี นั้นมันน่าจะต้องมาจากตัวเราเองทั้งนั้นแหละ ใจต้องคิดดี มือทั้งสองต้องทำดี และทุกครั้งที่เราพูด ก็ควรพูดดีดี ด้วย แม้ว่าเราอาจจะทำได้ไม่ตลอดรอดฝั่ง อาจจะหลุดไปบ้าง แต่หากมีสติควบคุม มีความตั้งใจ คอยกำกับ ก็จะฝังในตัวเราได้มากขึ้นทีละเล็กละน้อย
ชอบข้อความ นี้ค่ะ
ตัวเองยังต้องคอย ดำรงตน ดำรงสติ เสมอ ๆ อยากได้ผลสัมฤทธิ์ของงานค่ะ
สวัสดีปีใหม่นะคะ
ไหนว่าวันหยุดปีใหม่จะเอกเขนกไม่ทำงานไงคะ...ยังอดคิดถึงชา (SHA) ไม่ได้...อิอิอิ
ขอขอบคุณป้าต้อยที่ลงทำงานคุณภาพกับคนท้องถิ่นด้วยหัวใจที่ไม่เย็นชาค่ะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะแม่ต้อย