เหตุผลใดที่คนทำชั่ว


ไม่ได้ตัดพร้อต่อว่าใครนะคะเพียงอ่านเรื่องนี้แล้วชอบจัง   เลยนำมาลงบันทึกเผยแพร่เพื่อที่จะได้ให้เพื่อนๆ  อ่านแล้วนำไปเผยแพร่ต่อสังคมเรา

ในคัมภีร์อภิธรรมได้แจกแจงถึงสาเหตุที่ทำให้คนเป็นชั่วไว้ ๕ ประการ 

           ๑. ชั่วเพราะสันดานเดิม

           สันดานเดิมในที่นี้ บาลีจริง ๆ มุ่งเอากรรมชั่วที่สั่งสมไว้ในอดีตชาติ  หมายความว่า อดีตชาติเคยสั่งสมกรรมชั่วในลักษณะใดลักษณะหนึ่งเอาไว้จนเป็นนิสัยสันดาน ครั้นตายไปแล้วกลับมาเกิดใหม่ กรรมชั่วที่สั่งสมเอาไว้ก็ยังคงติดตามมา และกลายเป็นคุณสมบัติประจำตัวอีก เรียกว่ามีเชื้อชั่วติดตัวมา เช่น กรณีของพระเทวทัต แม้จะเกิดในราชสกุล แต่เพราะสันดานชั่วที่สั่งสมมามีกำลังมากกว่า ย่อมผลักดันให้กลายเป็นคนชั่วในที่สุด

           ความจริงในข้อนี้ หากพิจารณาในปัจจุบันก็อาจพอเห็นร่องรอยได้บ้าง เช่น เด็ก(รวมถึงผู้ใหญ่) บางคนเกิดในครอบครัวดี พ่อแม่เป็นคนดีมีฐานะ เป็นที่นับหน้าถือตาของคนในสังคม แต่กลับมีความประพฤติตรงกันข้าม นั่นเป็นเพราะสันดานชั่วฝังอยู่ในกมลสันดาน

           ๒. ชั่วเพราะสิ่งแวดล้อมพาไป

           สิ่งแวดล้อมนี้ได้แก่สภาพแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ ข้างตัว ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนฝูง สังคม รวมถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่มีส่วนกำหนด หรือบังคับให้ต้องเลือกกระทำความชั่วลักษณะใดลักษณะหนึ่ง อาจจะโดยเต็มใจ หรือไม่เต็มใจก็ได้

           ๓. ชั่วเพราะคบคนชั่ว

           บาลีพระพุทธพจน์ทรงย้ำเรื่องของการคบไว้ว่า “คบคนเช่นไรเป็นเช่นนั้น” (ยํ เว เสวติ ตาทิโส) ในมงคลสูตรข้อแรกจึงสอนให้เรา “ไม่คบคนพาล” และ “เลือกคบแต่บัณฑิต” นั่นเป็นเพราะว่า ธรรมชาติของคนเรา เมื่อคบค้าสมาคมกับใครเป็นมิตรสหายแล้ว  ก็ย่อมเปิดโอกาสให้เกิดการหลอมอัธยาศัยให้เข้ากันได้โดยง่าย  การคบค้าสมาคมกับคนชั่วจึงเท่ากับเปิดช่องให้ผู้นั้นกลายเป็นคนชั่วตามไปด้วย คล้าย ๆ กับสำนวนอุปมาอุปมัยโบราณที่ว่า “กฤษณาห่อปลาเน่าก็พลอยเน่าเหม็นไปด้วย”

           ๔. ชั่วเพราะปฏิเสธสิ่งดีงาม

           “ชั่วเพราะปฏิเสธสิ่งดีงาม” ผู้เขียนแปลมาจากศัพท์บาลีว่า “ไม่ฟังธรรมของสัตบุรุษ” เหตุผลที่แปลเช่นนี้เพราะไม่ต้องการให้ผู้อ่านเข้าใจความหมายของคำว่า “ฟังธรรม” คับแคบไปจนเหลือเพียงการฟังเทศน์ฟังธรรม และคนที่จะเทศน์จะแสดงก็เหลือเพียงพระสงฆ์เท่านั้น

           ความหมายของการ “ไม่ฟังธรรมของสัตบุรุษ” จริง ๆ แล้วมีความหมายถึงว่า ไม่ยอมรับฟังคำชี้แนะ ข้อเสนอแนะ คำตักเตือน คำสั่งสอนอันดีงามจากผู้ที่มีความรักความปรารถนาดีต่อตนเอง เป็นการปฏิเสธ หรือไม่ยอมรับคำสอน เช่น เด็กไม่ฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ นักเรียนไม่ฟังคำตักเตือนของครู เพื่อนปฏิเสธคำตักเตือนของเพื่อน เจ้านายไม่ฟังคำทักท้วงจากลูกน้อง ลูกน้องไม่ฟังคำตักเตือนจากเจ้านาย เป็นต้น ผู้ที่ตกอยู่ในสถานะเช่นนี้ ย่อมมีโอกาสพลาดพลั้งกระทำในสิ่งที่เป็นความชั่ว ความเสียหายได้โดยง่าย

           ๕. ชั่วเพราะคิดผิด

           ข้อนี้ เพ่งถึงความคิดความอ่านที่บุคคลนั้น ๆ ตั้งเอาไว้ในใจ อาจอยู่ในรูปของค่านิยม ทัศนคติ ความเชื่อ ความเข้าใจอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจกระทำหรือไม่กระทำ รวมไปถึงการบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อประโยชน์ หรือสนับสนุนการกระทำของตนให้เกิดความชอบธรรม เช่น ตนเองทำความผิด พอถูกจับได้ไล่ทันก็สร้างเรื่องว่าถูกกลั่นแกล้ง ถูกใส่ร้าย เป็นต้น นอกจากนั้นยังขยายขอบเขตไปถึงความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม เช่น เชื่อว่าบาป-บุญ คุณ-โทษ นรก-สวรรค์ไม่มี ทำดีไม่ได้ดี ทำชั่วกลับได้ดี เป็นต้น

           ผู้ที่มีความเชื่อ หรือทัศนคติเช่นนี้ ย่อมเปิดช่องให้ทำความชั่วได้โดยง่าย และถือเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะพฤติกรรมทั้งหมดของคนเรา ล้วนแล้วแต่ออกมาจากความรู้สึกนึกคิดทั้งสิ้น

           ในพระบาลี จึงมีพระพุทธพจน์เตือนใจเราไว้ว่า “จิตที่บุคคลตั้งไว้ผิด กระทำอันตรายได้มากกว่าศัตรูผู้มุ่งร้ายต่อเรา”  ทั้งนี้เพราะศัตรู ต่อให้เก่งแค่ไหน ก็ทำอันตรายเราเพียงชั่วครั้งชั่วคราว และเราเองก็สามารถหาทางป้องกันได้  ขณะที่จิตที่ตั้งไว้ผิดนั้นทำอันตรายตลอดชีวิต แม้นตายไปแล้ว ก็ยังสามารถตามเราไปทุกภพทุกชาติตราบเท่าที่เรายังไม่ละวางความเห็นผิดนั้น

        สรุปแล้วว่าคนเราในสังคมปัจจุบันนี้ชั่วเพราะข้อไหนมากที่สุดคะ

 

คำสำคัญ (Tags): #ศรีสะเกษ7
หมายเลขบันทึก: 416231เขียนเมื่อ 24 ธันวาคม 2010 12:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 22:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ถูกต้องแล้วครับ ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้

ทั้ง ๕ ข้อ มีรากเหง้ามาจากสิ่งเดียว คือ ชั่วเพราะ "ตัวเรา" เท่านั้นเอง

๑.สันดาน ก็เป็นสิ่งที่ติด "ตัวเรา"

๒.สิ่งแวดล้อม มันอยู่ของมันเป็นปรกติ "ตัวเรา" ไปเกือกกลั่วกับมันเอง

๓.เช่นเดียวกันการคบคน "ตัวเรา" เป็นคนเลือกที่จะคบเขามิใช่หรือ (คนที่นิสัยคล้ายกันมักจะคบกันได้)

๔.ดังนั้นหากนิสัยเรามันใฝ่ชั่วอยู่แล้ว "ตัวเรา" ก็มักจะเลือกปฏิเสธคำแนะนำจากคนดี

๕.นิสัยเริ่มต้นจากความคิด ดังนั้น "ตัวเรา" คิดอย่างไรก็จะเป็นเช่นนั้น ความคิดเกิดจากการรับรู้ของตัวเรา และความสามารถในการแยกแยะ พิจารณา วิเคราะห์ วินิจฉัย และประเมินคุณค่าโดย "ตัวเรา"

สรุปความดีความชั่วไม่ได้เกิดจากสิ่งต่างๆภายนอก แต่เป็นสิ่งที่ออกมาจากตัวเราเองต่างหาก

ขอบคุณที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นครับ

ขอบคุณนะคะสำหรับการแวะเยี่ยมชม ร่วมแสดงความคิดเห็นกันเรื่อยๆนะคะ ขอบคุณคะ

มาชมมาเชียร์และนำดอกไม้มาอวยพรปีใหม่ครับ

“จิตที่บุคคลตั้งไว้ผิด กระทำอันตรายได้มากกว่าศัตรูผู้มุ่งร้ายต่อเรา” จริงมาก ๆ เลยน้องโอ๋

สวัสดีค่ะคุณร่วมจิตร

ถ้าทุกคนเชื่อว่า บาป-บุญ คุณ-โทษ นรก-สวรรค์ไม่มี ทำดีไม่ได้ดี ทำชั่วกลับได้ดี คิดอย่างนี้หมด ก็แสดงว่าโลกเราต้องวุ่นวายและหมดกำลังใจจะทำในสิ่งที่ดีๆ ก็พากันไปทำชั่ว เพราะคิดว่ามันได้ดี ดีในที่นี้ คือ เงินดี เลื่อนยศ รำรวย แต่ที่แท้จริงแล้วนั้น การทำชั่วบาปมาก มันจะติดตัวเราไปตลอดชาติและภพหน้า

คนที่เคยทำชั่วหรือทำผิดพลาดมาแล้ว ขอให้มีสติคิดทำสิ่งที่ดีดีเพื่อตัวเองและสังคมโลกที่เราอาศัยอยู่นะคะ คิดทำความดีไม่มีคำว่าสายไป

เห็นด้วยกับคุณธนากรณ์นะ   ตรงมาก   ยังไงมันก็อยู่ที่ตัวเราเองทั้งนั้น

สวัสดี ทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม ขอบคุณทุกๆท่านนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท