กำลังทำงาน ในเรื่องของการที่จะให้ความรู้หรือให้ข้อมูลกับน้อง ๆ เจ้าหน้าที่ที่มาบรรจุใหม่ที่มีอายุงานประมาณ ๑ ปี หรือเกือบ ๆ ๑ ปี หรือปีเศษ ๆ ซึ่งคนชุดนี้ไม่เคยผ่านงาน ไม่เคยผ่านการฝึกอบรม ที่ต้องใช้ความรู้อะไรบ้าง? ในการทำงานส่งเสริมการเกษตร ซึ่งที่จังหวัดสุพรรณบุรี มีประมาณ ๑๔ คน ก็เลยให้วิธีการโดยความคิดเราเอง เราก็บอกว่า “นักส่งเสริมเนี่ย...ในอันดับแรกควรจะมีความรู้เกี่ยวกับ...การทำงานกลุ่ม...เป็นก่อน”
ฉะนั้น เริ่มต้นก็ให้เจ้าหน้าที่ในแต่ละสายที่มีการจัด DW โดยมอบงานไว้ในเดือนที่แล้วให้ไปถามพี่ ๆ ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ ถามว่า “การทำงานกลุ่มให้สำเร็จนั้น กลุ่มที่ดีควรมีองค์ประกอบอะไรบ้าง?” จากนั้นเจ้าหน้าที่หรือน้อง ๆ ก็คงไปถามพี่ ๆ มาแล้ว พอถึงเดือนนี้ก็ให้เขานำเสนอ ก็ปรากฎว่า...เขาสามารถแยกแยะองค์ประกอบต่าง ๆ ในการทำงานกับกลุ่ม ซึ่งใช้โจทย์ถามว่า “ในการทำงานกับกลุ่มให้สำเร็จนั้น...ควรมีองค์ประกอบอะไรบ้าง?” ก็พบว่า มีทั้งหมด ๒๔ องค์ประกอบ หรือ ๒๔ เงื่อนไข
ก็ถือว่า “เป็นการฝึกให้น้อง ๆ ได้ไปแกะประสบการณ์จากพี่ ๆ ว่า...ในเรื่องของกลุ่มอย่างเดียวนั้น จะมีองค์ประกอบอะไรบ้าง?” แล้วก็มอบงานต่อว่า...ใน ๑ สายเนี่ย...มีน้อง ๆ มาใหม่ออกไป ประมาณ ๖ คนบ้าง ๗ คนบ้าง โดยเฉพาะในสายที่ ๓ มีน้อง ๆ ทั้งหมด ๘ คน ก็เลยถามต่อว่า “เมื่อกี้เราพบว่า...มีกี่เงื่อนไข หรือกี่องค์ประกอบ...ก็ปรากฎว่ามี ๒๔ องค์ประกอบ” ก็ถามต่อว่า...๘ หารด้วย ๒๔ นี้มันเท่ากับเท่าไหร่...ก็เท่ากับ ๓ เพราะฉะนั้นน้องแต่ละคนก็เอาบัตรคำที่มีทั้งหมด ๒๔ ใบนี้...แบ่งคนละ ๓ ใบ แล้วก็ไปเขียนหาคำตอบในรายละเอียดออกมา... ยกตัวอย่างเช่น ใครได้บัตรคำ ๆ ว่า “ผู้นำ” ก็ลองไปเขียนดูว่า...ผู้นำกลุ่ม ที่จะต้องทำให้กลุ่มมีความประสบผลสำเร็จนั้น...จะต้องมีการทำอย่างไรบ้าง? โดยให้เอามานำเสนอใน DW หน้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในคราวหน้า “ห้ามไปถามกับพี่อีก...ให้ไปถามกับกลุ่มอย่างน้อย ๓ กลุ่มว่า...ลักษณะผู้นำของกลุ่มนี้เป็นอย่างไร? ดีหรือไม่ดีเป็นยังงัย?...โดยใช้ตัวกลุ่มเป็น Best Practices...ซึ่งคราวที่แล้วเราใช้พี่เป็น Best Practices คราวนี้…ให้ใช้กลุ่มเป็น Best Practices แล้วก็เอามาสรุปร่วมกันในคราวหน้า”
คำอธิบาย
การคิดอยู่ภายใต้ทฤษฎีการเรียนรู้ การหาตัวแบบเพื่อการเรียนรู้ การสังเคราะห์ความรู้ (Knowledge Organizing) การฝึกการนำเสนอ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างคน ๗ – ๘ คน (Knowledge Sharing) และสุดท้ายเขียนเป็น Knowledge Assets ได้ โดยมีเป้าหมาย คือ ต้องการฝึกวิธีการหาตัวแบบ การแกะตัวแบบ ซึ่งได้สร้างโจทย์เพื่อให้เขารู้จักการฝึกค้นหา.
นี่แหละคือ การนำกระบวนการ KM ไปใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาบุคลากร
ขอเพียง CKO รับรู้ เรียนรู้ เข้าใจ และให้โอกาส แค่นี้ก็เกินพอ