1ปีครึ่งกับการเรียน family medicine ในระบบ in-service training ตอนที่3

หน้าที่อันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ด้วยเช่นกัน ^_^

  ในประวัติการเรียนต่อของผม มี 3 ครั้งที่ตั้งใจไปเรียนต่อ แต่ไม่ได้ไปด้วยเหตุผลหลายประการ(ทั้งๆที่ได้รับทุนทุกครั้ง) 

หากดูเกรดตอนเรียน เกรดตอนเรียนทั้งมัธยมและมหาวิทยาลัย เกรดเฉลี่ยรวมผมน้อยมาก ม.ปลาย 2.45 ติดแพทย์แบบไม่คาดคิด เข้าเรียนปีหนึ่งเทอมแรก 1.98 เพราะเรียนแบบ ม.ปลาย หลังจากนั้นเกาะ mean มาตลอด เรียนปี 1-ปี5 เรียนแบบไม่สนุก มีเฉพาะบางวิชาที่เรียนสนุก(และเกรดจะออกมาดี) แต่พอปี 6 รู้สึกเริ่มสนุก ชอบ กับการเป็นแพทย์ อาจเป็นเพราะเราได้มีโอกาสในการคิดและรักษาเอง มีความรู้สึกอย่างแรกเลยว่าห้ามมั่ว อ่านหนังสือเยอะมาก เรียกว่าทุกวัน เจอคนไข้กลับไปอ่าน แล้วจดไว้ สนุกจนชิน ไปดูหนังเรื่อง spiderman แล้วมีคำพูดว่า พลังอันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง กลับมามองตัวเราที่ผ่านมาที่เรา เริ่มเข้าใจ รัก สนุก กับการเป็นแพทย์ เพราะหน้าที่อันยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง เกรดในปี 6 ผมจึงมากที่สุด ตั้งแต่เรียนมัธยมถึงมหาวิทยาลัย 2.99

พอผมมีครอบครัว และมีลูก ปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการไม่อยากไปเรียนต่อ คือลูกครับ เพราะผมมีความรู้สึกว่า เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ ในช่วงเวลาที่ลูกยังมีช่วงเวลาผูกพันกับเรามากๆ ความสดใส ความไร้เดียงสา รอยยิ้มแบบสดใส ผมเสียดายช่วงเวลานี้ครับ

ที่ผ่านมาผมคิดเสมอว่าน่าจะมีหลักสูตรการเรียนต่อของแพทย์ที่ทำงานในพื้นที่แล้วไปเรียนระยะสั้นๆที่สถาบัน(มหาลัยหรือโรงพยาบาลศูนย์) ซึ่งจะตอบโจทย์ที่ผมอยากเรียนต่อ แต่สามารถดูแลครอบครัวได้ และ In-service family medicine ก็มาตอบโจทย์ผมพอดี

family medicine คืออะไร ผมเข้าใจว่าผู้เรียนน่าจะน้อยคนที่จะเข้าใจอย่างลึกซึ้งก่อนที่จะเลือกเรียนว่า family medicine คืออะไร เพียงแต่ส่วนใหญ่ทุกคนทำงานในโรงพยาบาลชุมชน หรือมีใจรักอยากทำงานในระดับ primary care ในส่วนตัวผมคิดว่า การเรียน Fammed(family medicine) สามารถช่วยในการดูแลผู้ป่วยให้ดีขึ้น มากขึ้น ตลอดจนครอบครัว หรือสังคม ในด้านต่างๆ รวมถึงการสร้างทีมในการดูแล หากผมเรียนจบแล้วผมจะมาเล่าให้ฟังนะครับว่า family medicine คืออะไร

หลังจากสมัครและเรียกสัมภาษณ์ ในวันสัมภาษณ์ คำถามยอดฮิตคือ ทำไมอยากมาเรียน หน้าไมค์ทุกคนตอบดีหมด แต่หลังไมค์หลังจากเรามีกิจกรรมร่วมกัน ผ่านการอบรมร่วมกัน การพูดคุยร่วมกัน คำตอบทุกคนไม่ต่างจากหน้าไมค์ เกือบทุกคนเหตุผลคล้ายกันหมด คือตั้งใจทำงานในพื้นที่ที่ตนอยู่ และการเรียนแบบนี้ตอบโจทย์ผู้เรียนหลายอย่าง เช่นการได้ดูแลพ่อแม่ ครอบครัว ลูก ที่สำคัญทุกคนมองว่า family medicine เป็นศาสตร์ที่ช่วยเหลือผู้ป่วยได้ดี ฝึกให้เราเป็นแพทย์ที่ดี ดีอย่างไรจะเล่าในตอนต่อๆไปนะครับ