หน้าแรก
สมาชิก
pommas
สมุด
เรื่องเล่า Pallia...
หนูรักแม่
pommas
เบญจมาส วงศ์มณีวรรณ
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
หนูรักแม่
บุตรสาวบอกรักแม่กอดแม่ และให้ผู้ป่วยคุยกับบุตรสาว “รักลูกและห่วงลูกเสมอ”
แม่ หนูรักแม่
สังคมไทยเป็นสังคมที่แสดงออกด้านความรักน้อยมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรักในครอบครัว ถึงเราจะรัก พ่อกับแม่มากแต่เราก็ไม่เคยที่จะบอกท่านไม่เคยกอดหรือหอมแก้มท่าน บางคนพูดกับพ่อกับแม่ก็ไม่ไพเราะ จากการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย เรื่องการแสดงออกของความรักของบุคคลในครอบครัว มีผลต่อกำลังใจของผู้ป่วย ผู้ป่วยระยะสุดท้ายเป็นผู้ป่วยที่ต้องการกำลังใจค่อนข้างมากเพื่อที่จะช่วยให้ผู้ป่วยได้ก้าวข้าม จากคำที่ว่า ใกล้ตาย เพราะทุกคนคงไม่ปฏิเสธว่า กลัวตายเพราะไม่ทราบว่าเมื่อตายไปแล้วจะพบกับอะไร การจะให้ผู้ป่วยรับรู้ว่า ความตายเป็นเรื่องธรรมชาติเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เพราะในสังคมไทยมีน้อยรายที่จะได้รับการเตรียมความพร้อมสำหรับการตาย คือ การเจริญ
มรณานุสติ
สภาพที่พบในภาวะสุดท้ายของชีวิต คือ ผู้ป่วยบางรายไม่มีลูกหลานมาเยี่ยมหรือถ้ามาเยี่ยมก็มาเยี่ยมระยะเวลาสั้นๆ มีแต่สามี มาเยี่ยมและนั่งให้กำลังใจผู้ป่วยจะเพิ่มมากขึ้นก็จะเป็นพี่น้อง จากการพูดคุยซักถามปัญหาก็พบหลายประเด็นเช่น บุตรต้องทำงานหาเงิน แยกครอบครัวไปแล้วต้องดูแลครอบครัวซึ่งญาติทั้ง2 กลุ่มจะมีปัญหามากเพราะจะมาฟูมฟายและจะมาให้แพทย์ช่วยเหลือให้เต็มที่ในระยะสุดท้ายของชีวิตโดยก่อนหน้านี้ไม่ได้ให้การดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ ดังนั้นการพูดคุยทำความเข้าใจกับญาติก่อนเพื่อให้การดูแลให้กำลังใจกับผู้ป่วยก่อนที่ อาการผู้ป่วยจะหนักนั้นจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ความไม่เข้าใจกันระหว่างบุตร และผู้ป่วยก็มีความสำคัญ
ขอยก กรณีตัวอย่าง 2 ราย
รายที่หนึ่งเป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 60 ปี เจ็บป่วยด้วยโรค หัวใจล้มเหลวและตับวายมีอาการตัวตาเหลือง บวมทั้งตัว หายใจเหนื่อยหอบ มีญาติมาเยี่ยมประมาณ 10คน เมื่อพยาบาลเข้าไปพุดคุยด้วยพบว่าเป็นพี่ น้องของผู้ป่วยทั้งหมด เมื่อถามหาบุตรพบว่า มาและกลับไปแล้ว และ ก็มีญาติก็พูดออกมาว่า “ไม่อยากให้มันมาเยี่ยมหลอกเพราะมันทำให้ผู้ป่วยทุกข์ใจ เรียนก็ไม่จบ แล้วก็ไปแต่งงานมีลูก”เมื่อ มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับผู้ป่วย พบ “ ไม่โกรธลูกหลอกเพราะตนเองก็เป็นแม่ที่ไม่ดีกินเหล้าตลอดจนทำให้ไม่สบาย ลูกเสียอีกที่คงโกรธตัวเอง ” พยาบาลพูดคุยบุตร “บุตรสาวก็ไม่เคยโกรธแม่เลย แต่ที่ไม่ค่อยได้มาเยี่ยมเพราะต้องเลี้ยงหลาน และ ป้าๆน้าๆก็บอกว่าตัวเองทำให้แม่ไม่สบายใจจึงไม่ได้เยี่ยมแม่นานๆตัวเองก็รัก แม่มาก ” พยาบาลจึง พาบุตรมาพบกับแม่โดยมีพยาบาลเป็นคนกลางให้บุตรสาวบอกรักแม่กอดแม่ และให้ผู้ป่วยคุยกับบุตรสาว “รักลูกและห่วงลูกเสมอ”ในระยะสุดท้ายของชีวิตญาติได้พาผู้ป่วยไปเสียชีวิตที่บ้านตามความต้องการของผู้ป่วย
สำหรับอีกกรณี เป็นผู้ป่วยลิ้นหัวใจรั่วที่ไม่ยอมผ่าตัดจนหัวใจล้มเหลว พบมีแต่สามีมานั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยตลอดเมื่อสอบถามก็พบว่าผู้ป่วยมีบุตรชายทั้งหมด 4 คนแต่ทำงานต่างจังหวัด พยาบาลจึงให้โทรศัพท์ติดต่อเพราะอาการของผู้ป่วยเริ่มหนัก พบว่าบุตรไม่ยอมรับโทรศัพท์ตัดสายทิ้งตลอด พยาบาลนั่งพุดคุยสามีนานขึ้นเพื่อหาสาเหตุ พบว่าสามีเป็นสามีใหม่ที่พึงแต่งงานกับผู้ป่วยเพราะสงสารผู้ป่วยอยู่คนเดียว แต่บุตรของผู้ป่วยไม่ยอมรับในพ่อเลี้ยงจึงไม่รับโทรศัพท์ พยาบาลจึงขอเบอร์โทรศัพท์ของบุตรโดยพยาบาลจะพูดกับบุตรเอง ในระยะสุดท้ายของชีวิตบุตรได้มาทันอยู่กับแม่และบอกรักแม่เพียง 1 คนจะเห็นได้ว่าการไม่พูดคุยกันทำให้ผู้ป่วยบางรายต้องเสียชีวิตไปพร้อมๆกับความทุกข์ใจ
ดังนั้นคงต้องมีใครซักคนเป็นสื่อกลางที่จะให้บุคคลในครอบครัวได้เข้าใจกันและบอกในสิ่งที่ญาติไม่ได้คิดถึงว่านี้คือ ความต้องการของผู้ป่วยบางครั้งผู้ป่วยก็เกรงใจบุตรหลานเพราะเห็นบุตรหลานต้องทำงานรับผิดชอบครอบครัว ผู้ป่วยเรื้อรังบางรายที่เบื่ออาหารเพราะต้องนั่งทานอาหารคนเดียว มีต้องการแค่ให้บุตรมาทานอาหารมื้อเย็นกับตัวเองบ้าง หรือบางรายอยากไปวัดทำบุญบ้างเพราะตั้งแต่เจ็บป่วยไม่ได้ไปทำบุญเลยจะเดินไปเองก็ไม่ไหวเราก็คงต้องเป็นสื่อให้บุตรหลานทราบ หรือทำเสมือนยกวัดมาไว้ในโรงพยาบาล คือ ส่งเสริมให้มีกิจกรรมทางศาสนาในโรงพยาบาล ทั้งการฟังเทศน์ ใส่บาตร ถวายสังฆทาน และคงมีอีกหลายๆกิจกรรมที่ผู้ป่วยต้องการที่เราหรือญาติคาดไม่ถึงส่งนี้จะได้มาก็จากผู้ป่วยที่เราต้องสร้างสัมพันธภาพและมีเวลาที่จะนั่งฟังผู้ป่วยจึงจะได้สิ่งนี้ออกมา
สุดท้ายนี้อย่าลืมดูแลผู้ที่อยู่รอบข้างคุณด้วยนะค่ะ
เขียนใน
GotoKnow
โดย
pommas
ใน
เรื่องเล่า Palliative care
คำสำคัญ (Tags):
#palliative care
#ความรัก
หมายเลขบันทึก: 415133
เขียนเมื่อ 20 ธันวาคม 2010 19:03 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:40 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (4)
เขียนเมื่อ 21 ธันวาคม 2010 21:01 น. (
)
ดีมากๆ คะพี่ ขอชื่นชม .. ให้กำลังใจ เพิ่มลงรูปหน่อยจะดี..นะเจ๊
piaza
เขียนเมื่อ 21 ธันวาคม 2010 21:03 น. (
)
ขอชื่นชมคะ
นาย เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี
เขียนเมื่อ 19 เมษายน 2011 20:51 น. (
)
แนวโน้ม คนไข้ของเรา จะมีลูกหลาน ดูแลน้อยลงนะครับ
และเมื่อถึง
คราวของเรา
ตอนนั้นจะมีคนหนุ่มคนสาวดูแลเราน้อยกว่านี้อีกมาก คงต้องเตรียมตัวเตรียมใจตนเองกันตั้งแต่เดี๋ยวนี้ครับ
pommas
เขียนเมื่อ 19 เมษายน 2011 23:47 น. (
)
บางครั้งที่เห็นญาติผู้ป่วยที่อายุ 60-70ปี หรือจะเรียกว่าเพื่อนๆวัยเดียวกันมาเยี่ยมยืน ให้กำลังใจล้อมกันรอบๆเตียงก็เป็นภาพที่น่ารักอีกภาพหนึ่ง แต่เมื่อคิดต่อ ..... คนหนุ่มคนสาวหายไปไหนหมด
แต่ก็มีหลายๆครั้งที่ผู้ป่วยอาการหนักเพราะมาโรงพยาบาลช้าเพราะอยู่บ้านคนเดียว
และก็มีหลายๆครั้งที่ผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์ไม่เห็นญาติมาเยี่ยม หรือถ้ามาก็มาแค่ คน 2คนจะมีมามากก็ตอนผู้ป่วยเสียชีวิตหรือ เป็นเพราะเรา ให้ความสำคัญกับพ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยายน้องลงเพราะเราให้ความสำคัญกับงาน ความรับผิดชอบเรามากเกินไปหรือปล่าว
คราวของเรา
เราคงต้องทำบุญไว้มากๆ ผลบุญคงช่วยเราได้นะค่ะ อาจารย์
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
pommas
สมุด
เรื่องเล่า Pallia...
หนูรักแม่
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท