เพราะเธอยิ่งกว่าเพื่อน จึง...


ขอบคุณภาพจากhttp://www.orkutpapa.com/scraps/friends_forever_15.jpg

ตอนที่ ๑  เธอเป็นยิ่งกว่าพี่และเพื่อน

 

                “แง ๆ   ฮือ แง ๆ  ฮือ แง ๆ”   เสียงเด็กหญิงผมเปีย ผอมบาง ตาโตจมูกโด่งคมขำ เดินร้องไห้มายังบ้าน ซึ่งมี ผู้ใหญ่หลายคนนั่งอยู่   ด้านหลังล้วนแล้วแต่เด็กผู้ชายรุ่นพี่เธอบ้าง รุ่นราวเดียวกันบ้าง  และเจ้าผู้ชายผิวขาวจมูกโด่งตาโตที่อายุน้อยและมีหน้าตาผิดแผกไปจากใครเขา

 

                นอกเหนือจากสีหน้าของเด็กหญิงที่กำลังร้องไห้ตกใจหวาดกลัวแล้ว  สีหน้าของคนอื่น ๆ ส่วนใหญ่กำลังเอามือป้องปากหัวเราะไม่ให้เด็กหญิงเห็น  ที่ตัวโตกว่าก็กังวลว่าจะถูกดุที่น้องร้องไห้ จะมีก็เพียงเจ้าหนูน้อยคนนั้นเท่านั้น  ที่มีสีหน้าบ่งบอกถึงความสงสารเห็นใจเด็กผู้หญิงที่กำลังร้องไห้

 

              “เกิดอะไรขึ้น?”  เสียงใครคนหนึ่งดังออกมา  เมื่อเห็นสภาพของเด็กหญิง  ที่เดินมา มือหนึ่งป้ายน้ำตา  มือหนึ่งถือกางเกงขาสั้นไว้ด้วยท่าทางขยะแขยง

 

                “แล้วนั่น! ทำไมน้องถึงอยู่ในสภาพนี้  ชั้นในของน้องอยู่ไหน   ทำไมเปลือยมาอย่างนี้ฮึ?”  ครั้งนี้ผู้เป็นแม่หันมาถามพี่ชายคนโต”
                พอสิ้นคำถามนี้คนที่กำลังจะตอบก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่   ทำเอาเด็กหญิงที่ทั้งตกใจ กลัว  ออกอาการงอนเพิ่มขึ้นอีก 
                “เอาไหน ใครก็ได้เล่ามา”

 

                เรื่องก็คือ เด็กกลุ่มนี้ซึ่งมีทั้งที่เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน  ลูกพี่ลูกน้อง  และเจ้าหนูน้อยที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของบ้านนี้ ได้ชวนกันไปเล่นซ่อนหาที่ริมคลองหลังบ้าน  น้ำบริเวณชายคลองบางช่วงเจิ่งนองล้นมาบนพื้นที่ของหลังบ้านซึ่งมีหญ้าปกคลุม  และเนื่องจากชาวบ้านแถบนั้นนำวัว ควายมาปล่อยเลี้ยงกินหญ้า  พื้นที่ที่มีน้ำแฉะท่วมตาตุ่มถึงหน้าแข้งก็จะมีปลิงอาศัยอยู่   ขณะที่กำลังเล่นซ่อนหากัน  คนพี่เป็นผู้ปิดตา หาน้อง ๆ  น้องๆ ต่างก็ซ่อนกัน   แต่เด็กหญิงหนึ่งเดียวคนนี้ ไม่มีเสียล่ะที่เธอจะยอมให้พี่ ๆ โป้งก่อน  เธอจะโผล่มาก็ต่อเมื่อ คนอื่นถูกโป้งแล้วเท่านั้น  ขณะที่พี่ชายกำลังปิดตา  บังเอิญปลิงเจ้ากรรมมาเกาะขาของเธอ เธอเห็น เธอปิดปากกลั้นใจไว้  มันไต่คืบขึ้นมาเรื่อย ๆ กระดึ๊บ ๆ ขาเธอเริ่มสั่นระริก  ความขยะแขยงเริ่มจู่โจม แต่ไม่มีทางเสียล่ะ ที่เธอจะยอมเป็นผู้หา เธอกลั้นใจไว้ เจ้าปลิงมันยังคืบไต่ขึ้นมาสูงเรื่อย ๆ กระทั่งโคนขา และทำท่าว่ามันจะชอนไชเข้าไปในชั้นในของกางเกง  เธอกัดฟัน มือกดตัวปลิงไว้แน่น จิกแน่นอยู่เช่นนั้น  รอเวลาเมื่อไรนะ  พี่ หรือเพื่อนคนอื่น ๆ จะถูกโป้งก่อน

 

                “ โป้ง !ตาโต”  เจ้าตาโต คือเด็กชายตัวน้อยนั่นเอง 

 

                “แฮ่” เสียงเจ้าตาโต ส่งยิ้มให้เมื่อตัวเองถูกรุ่นพี่โป้งก่อน ทันใดนั้นก็มีเสียง “กรี๊ด ๆ ๆ”  ดังขึ้นติดต่อกัน  คือเสียงของ เด็กหญิงคนนั้น เด็กหญิงสะบัดตัวแล้วรีบเปลื้องกางเกงขาสั้นออกจากนั้นชุดชั้นในถูกดึงรั้งเขวี้ยงทิ้งไปทันที  ทุกสายตามองมา ทันใดก็เห็นปลิงดำมะเมื่อม เกาะที่โคนขาเรียวเล็กของเธอ เสียงเจ้าตาโตร้อง “อุ๊ย!”   แล้วมันก็รีบดึงปลิงออกจากตัวของเด็กหญิงทันที

 

                “พี่หญิงคับ มันไปแล้วคับ   โตฆ่ามันแล้วคับ” เสียงหนูน้อยปลอบเด็กหญิงรุ่นพี่ของเขา
                เด็กหญิงเหลือบมองไม่เห็นปลิงแล้วแต่แรงตกใจทำให้เธอร้องงอแงและโวยวายตามประสา เด็กหญิงคนเดียวของบ้าน

 

                พอทราบเรื่องราว บรรดาป้า ๆ น้า ๆ  อา ๆ ก็หัวเราะขำกลิ้ง  ทำเอาเด็กหญิงหน้าคว่ำหนักไปกว่าเดิม เด็ก ๆ ต่างแยกย้ายไปอาบน้ำล้างเนื้อตัว  เหลือเจ้าเด็กตาโตเข้าไปจูงมือเด็กหญิง

 

                “มาพี่หญิง  โตพาพี่หญิงไปอาบน้ำนะ”  เด็กหญิงก็ปล่อยให้เจ้าตาโตจูงไปอย่างว่าง่าย
 

 

                กริ๋ง! กริ๋ง! กริ๋ง!  เสียงกระดิ่งดังครั้งแล้วครั้งเล่า  มันจะดังไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่พ่อค้าไอติมแท่งยังเห็นเงาเด็กวิ่งวุ่นอยู่ในรั้วของบ้าน ๒ หลังนี้  จะไม่ให้พ่อค้าไอติมส่งเสียงดังครั้งแล้วครั้งเล่าได้อย่างไร  ในเมื่อทุกครั้งที่เด็ก ๆ ในบ้านนี้ประเดิม นั่นหมายถึงวันนี้ เขาจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่าและได้กลับบ้านเร็วกว่าปกติ

 

                ในรั้วนี้มีบ้าน ๒ หลัง หลังหนึ่งเป็นของพี่สาว ซึ่งเป็นคุณครูโรงเรียนประจำจังหวัดของที่นี่  ครูนงกาญจน์ เป็นคุณครูที่เมตตาปรานี และเป็นกุลสตรีทุกกระเบียดนิ้ว เธอมีลูกสาว ๓ คน ซึ่ง ขณะนี้กำลังเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ๒ คน และคนเล็กกำลังเรียนระดับมัธยมปลายของโรงเรียนที่เธอสอน  แต่เมื่อ ๕ ปีที่แล้วนักเรียนในห้องประจำชั้นของเธอมีปัญหา ตั้งท้องในวัยเรียนและไม่มีผู้รับผิดชอบ  เธอทราบปัญหาจึงขอรับเด็กคนนั้นมาเลี้ยงเอง ซึ่งก็คือ ตาโตนี่เอง ส่วนบ้านอีกหลังหนึ่งเป็นบ้านของน้องสาวนงคราญ เป็นแม่บ้านของนายตำรวจ  มีลูกชาย ๕ คนและมีลูกสาว ๑ คน คือน้องหญิงของพี่ ๆ

 

                “พ่อค้า ไอติม ๆ” เสียงเด็ก ๆ เรียก แล้ววิ่งพรูออกไป พี่ ๆ ของหญิงฉวยหยิบคนละแท่ง  เด็กหญิงหันไปมองยังบ้านของป้า  เจ้าตาโต ยืนมองหน้าหมองอยู่  เด็กหญิงจึงอ้อนแม่

 

                “แม่หนูขอ ๒ แท่งนะคะ” ไม่ทันที่แม่จะพูดอะไร เด็กหญิงหยิบมา ๒ แท่ง เธอทำท่าเหมือนจะแลบลิ้นเลียทั้ง ๒ อัน  เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ  ป้องกันไม่ให้พี่ชายมาขอเธอได้  แต่จริงๆ แล้วเธอแตะลิ้นไม่ถึงหรอก  ซึ่งพี่ชายก็รู้ว่าเธอจะเอาไปให้ใคร   พี่ของเธอก็รัก ตาโตเช่นกัน  แต่ปล่อยให้หญิงเป็นผู้ให้เจ้าตาโตดูท่าจะง่ายกว่าที่พวกพี่ ๆจะอ้อนเอาจากผู้เป็นแม่

 

                เมื่อหญิงเดินมา ตาโต ตาเป็นประกาย  ยิ้มให้หญิงด้วยหัวใจทั้งดวงที่มันมีอยู่  “วันนี้แม่ใหญ่ไม่อยู่โตไม่มีสตางค์” มันบอกกับหญิง 
                คุณครูนงกาญจน์ก็เลี้ยงดูตาโตด้วยดี ไม่ได้ให้อดอะไร เพียงแต่ไม่ได้ตามใจมากเหมือนกับครอบครัวของน้องสาว  แต่หากเป็นเรื่องการร่ำการเรียนเธอให้เด็ก ๆ เต็มที่  เธอต้องรับผิดชอบทุกอย่างในบ้านและการศึกษาของลูกสาวที่กำลังเรียนระดับมหาวิทยาลัยด้วยเงินเดือนของครูเท่านั้น   สามีเธอเสียชีวิตมาหลังจากเธอรับตาโตมาเลี้ยงได้ไม่นาน  ดังนั้นหากเปรียบเทียบฐานะกันระหว่าง ๒ บ้าน ก็อาจจะเห็นความแตกต่างเรื่องของการใช้จ่าย  และยิ่งเป็นเรื่องการอาหารการกินที่เป็นการกินเล่นด้วยแล้วเธอก็จะเห็นว่าไม่จำเป็น   แต่สำหรับเด็กอย่างตาโต  มันยังแยกไม่ออกหรอกระหว่างความจำเป็นกับความอร่อยของไอติมที่พี่ ๆ เขามีกินกัน  ดังนั้นหากวันไหนที่พี่หญิงไม่ซื้อให้มัน มันก็จะแอบเลียริมฝีปาก  แต่ก็มีบ้างที่พี่ ๆ ของหญิงจะแบ่งให้มันบ้าง

 

 
                “ตาโต พี่จะไปกินก๋วยเตี๋ยวหน้าวัด  ไปมั้ยพี่มีสตางค์เลี้ยง”  พี่ชาญ พี่ชายคนโตของหญิง เรียกตาโตด้วยความเอ็นดูเมื่อเห็นเด็กชายชะเง้อหา พี่หญิงของมัน 

 

                “ไปครับ แต่ผมไม่มีสตางค์นะครับ”

 

                “เออ! น่า เพราะรู้ไง ถึงถาม มาเร็ว”  ตาโตไม่ยอมให้ชาญเรียกซ้ำ มันกระโดดขึ้นเบาะหลังของจักรยานไปทันที

 

                “ใหญ่น้ำเยอะ ผักเยอะ หมูเยอะ ๒ ชาม”  แม่ค้าหันมายิ้มและค้อนเหมือนหยอกเย้า 
                “พริกเยอะด้วยมั้ยจ๊ะ?  จะได้อิ่มเร็ว ๆ” 

 

                “ไม่อาววว”  เสียงตาโตตอบมา “ของโตเหมือนเดิมครับ”

 

                “เหมือนเดิมคือพี่ชาญจ่ายใช่มั้ยจ๊ะ”  แม่ค้าหยอกต่อ  คนแถวนี้ทราบประวัติของตาโตดี  เพราะเรื่องราวของแม่ตาโตซึ่งเป็นนักเรียนโรงเรียนชื่อดัง  ย่อมเป็นที่กล่าวขาน  คุณครูนงกาญจน์ยิ่งปิดก็เหมือนยิ่งยั่วให้เขาเปิด  แต่ด้วยความที่หน้าตาของตาโตมันน่ารักและกริยามารยาทของมันดีนัก ประกอบกับคุณงามความดีของคุณครูนงกาญจน์ คนแถวนี้จึงไม่มีใครนำประวัติมาพูดให้มันเสียใจ

 

                “ตาโต อิ่มมั้ย  ถ้าไม่อิ่มอีกชามก็ได้นะ”  ชาญพูดไปทั้ง ๆที่เขาเองก็ยังไม่อิ่มและเมื่อจ่าย ๒ ชามนี้แล้ว เงินก็เหลือเพียงจ่ายก๋วยเตี๋ยวถ้วยที่ ๓ ได้เท่านั้น แต่หากเขาจะสั่งมาเพื่อตัวเองอีกชาม   ตาโตล่ะ ก็เลยลองถามมันก่อน

 

                “เอาครับ”  ตาโตตอบไปอย่างใจต้องการ  มันไม่ต้องคิดซับซ้อนว่าต้องเกรงใจ หรือปฏิเสธก่อนเพื่อให้เขาคะยั้นคะยอ  ก็เขาถามมา คิดอย่างไรก็ตอบไปอย่างนั้น  คำตอบของตาโต ทำเอาชาญเด็กชายรุ่นพี่รู้สึกเสียดาย แต่ก็จำใจสั่งให้ตาโตอีก ๑ ชาม แล้วเขาเองนั่งดูมันกินน้ำลายสอ
                เมื่อกลับมาถึงบ้าน  ตาโตเห็นหญิงกลับจากไปข้างนอกกับแม่ของเธอแล้ว  มันดีใจรีบวิ่งไปหาแล้วคุยโอ่ให้ฟัง
               “พี่หญิงพี่ชาญพาโตไปเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวตั้ง ๒ ชามแน่ะ” 

 

                หญิงทำตาโตด้วยความทึ่ง “ ๒ ชามเลยเหรอ  โอ้โฮ! ดีจัง”  แต่หลังจากนั้นเธอก็ต้องหัวเราะเมื่อชาญพี่ชายของเธอเล่าให้พี่ ๆ ของเธอและพี่สาวของตาโตฟังว่า เขามีเงินเพียงค่าก๋วยเตี๋ยว ๓ ชามและอยากจะกินเองสัก ๒ ชามแต่ลองถามตาโตมันก่อน พอตาโตมันเอาตัวเองก็ต้องนั่งดูตาโตกินชามที่ ๒ ด้วยความระทมใจ

 

               
                “มาเร็วใครจะเล่นหมากเก็บ  หญิงได้ลูกหินเก็บสวย ๆ มาเล่น”  เมื่อหญิงบอกไป เพื่อนข้าง ๆ บ้านก็มา เชนพี่ชายถัดจากเธอ  และที่ขาดไม่ได้ก็คือตาโต   เมื่อไรก็ตามที่พี่หญิงอยู่มันจะไม่ไปเล่นที่ไหนในวงนี้มีเด็กหญิงที่กำลังจะเริ่มรุ่นสาว ๓ คน แต่คนที่ดูดีโดดเด่นที่สุดก็คือหญิงนั่นล่ะ เธอสวมกางเกงขาสั้น เผยช่วงขาที่เรียวงาม ผู้ใหญ่ที่เห็นก็จะรู้ว่า  หญิงจะเป็นหญิงสาวที่งดงามในไม่กี่ปีข้างหน้า  ในการเล่นหมากเก็บแม้ว่าตาโตจะเป็นเด็กที่สุด  แต่มันก็แสดงให้เห็นชั้นเชิงในการเล่น  ตาโตจะชนะมากที่สุด  มีบ้างบางครั้งยอมแกล้งแพ้เพื่อให้หญิงได้ชนะบ้าง  เพราะไม่เช่นนั้นเกมจะถูกหยุดโดยหญิงในทันที

 

                เผียะ! เผียะ! เผียะ!  เสียงซัดฝ่ามือบนน่องเรียวสวยของหญิง  หญิงถูมือบริเวณผิวไปมา  เตรียมจะเอาคืนจากตาโตบ้าง  มันยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อได้ตีไปบนน่องของหญิง  เจ้าตัวก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมชอบที่จะตีพี่หญิงของมัน  ชอบที่จะตอแย  แต่ว่าในบรรดาพี่ ๆ ในบ้านนี้ทุกคน พี่หญิงนี่ล่ะที่จะเอ็นดูคอยแบ่งปันขนมของเล่นต่าง ๆ ให้มันมากที่สุด  พี่คนอื่น ๆ เขาอาจจะมีอายุห่างกว่ามันมากไปก็ได้ มันจึงไม่อยากจะไปตอแยเขามากนัก
 
                “พี่หญิง  รอโตด้วย” เด็กชายวิ่งกระหืดกระหอบ” จะเดินไปโรงเรียนพร้อมหญิงสาว ตอนนี้หญิงเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนประจำจังหวัดที่ป้าสอน  ขณะที่ตาโตเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ของโรงเรียนนี้เช่นเดียวกัน

 

                หญิงมองตาโตแล้วยิ้มขำ ผมตัดเกรียน  ติดกระดุมถึงคอ กางเกงเอวสูงคาดเข็มขัดพอดีเอว  ปลายกางเกงยาวพอดีเข่า  ตามระเบียบของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด  มองแล้วตลกปนเอ็นดู  เมื่อเดินเคียงคู่กันคนหนึ่งคือหญิงสาวสูงโปร่งผมยาวสลวยถูกรวบไว้ด้วยโบว์สีดำวงหน้าเรียวยาวตาโตจมูกโด่งปากเรียวบาง ผิวหน้าเกลี้ยงใสเห็นนวลฝาดของเด็กสาวหากไม่ได้ขาวผ่อง ผิวเธอออกคล้ำเล็กน้อยสวมเสื้อไว้ในกระโปรงรัดเข็มขัดเผยให้เห็นเอวคอดกิ่วและสะโพกที่ผายกลมงดงาม น่องเธอเรียวงดงามยิ่งนัก  อีกคนหนึ่งคือเด็กชายที่แต่งกายชุดนักเรียน ม.ต้น ที่โดดเด่นด้วยดวงตากลมโตจมูกโด่งเหมือนแขกขาว และนั่นคือที่มาของชื่อเขา

 

                “เมื่อคืนการบ้านมากจังเลย นอนดึกมาก  กว่าผมจะหลับเห็นไฟห้องพี่หญิงปิดนานแล้ว” ตาโตคุย  หญิงได้แต่ตอบฮึ่มไป  เธอก็มีการบ้านแต่เธอขี้เกียจเธอทำพอให้การบ้านเสร็จ ส่วนจะผิดหรือถูกค่อยไปดูที่โรงเรียน  เธอรู้ว่าถ้าเรื่องการเรียนกับการเล่นเกมไม่มีใครเอาชนะตาโตได้  ในท่ามกลางการขาดของตาโต แต่พระเจ้าก็ทดแทนสิ่งดีๆ มาให้ตาโตเช่นกัน นั่นคือ ความฉลาดด้านการเรียน ชั้นเชิงในการเล่นและรักดีใฝ่ดีของตาโต

 

                “สมุดหมดรึยังล่ะ  ถ้าหมดก็เอาของพี่ไปใช้  ปากกาก็เหมือนกัน หมดก็มาเอาไป หรือจะเอาไปก่อนก็ได้”  หญิงบอกแบ่งปันของให้เช่นทุกครั้ง  พี่ ๆ ของเธอและลูกของแม่ใหญ่ของตาโตตอนนี้ไปเรียนต่อในกรุงเทพฯหมดแล้ว เหลือแต่ ๒ คนนี้ ที่ยังพอทำให้ ๒ บ้านนี้ไม่เงียบเหงา  แต่ปีหน้าหญิงก็จะไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ เช่นกัน  ตอนนั้นก็จะเหลือแต่ตาโตที่คอยวิ่งรับใช้บ้านโน้นบ้านนี้

 

                ตอนนี้พี่หญิงของมันเริ่มเป็นสาว แม่ใหญ่ไม่ได้อนุญาตให้มันคลุกคลีกับพี่หญิงได้เหมือนเมื่อก่อน  พี่หญิงก็มีกลุ่มเพื่อนของพี่หญิง  ส่วนมันเองก็มีเพื่อนบ้าง  แต่ยามที่อยู่ใกล้พี่หญิงตาโตมีความสุขมากกว่า  ด้วยเหตุนี้เมื่อยามที่พี่หญิงหยิบยื่นของให้ครั้งละมาก ๆ มันจึงไม่รับไว้ทั้งหมด จะรับไว้ทีละน้อย ๆ เพื่อจะได้ถือโอกาสมาหาพี่หญิงเมื่อของหมด

                      ขอบคุณภาพจากhttp://www.kaweeclub.com/uppic/it/1213073440.jpg

 
                “น้าคราญ พี่หญิงยังไม่กลับหรือครับ”  วันนี้ ตาโตเห็นพี่หญิงออกจากบ้านตั้งแต่เช้า เย็นป่านนี้ยังไม่มา  เพื่อนมาชวนไปเล่นฟุตบอล มันก็ไม่ไป ไม่ทราบว่าพี่หญิงไปไหนไม่ทันได้ถาม
                “ยังหรอก เห็นว่าจะกลับค่ำ เขาเลี้ยงอำลากันน่ะสิ  เขาจะจบแล้วนี่  เราไม่ไปไหนเหรอวันนี้” 
                “ไม่ครับ วันนี้ไม่อยากไปไหน  พี่หญิงไปไม่ชวนกันบ้างเลย”
                “บ๊ะ ! ตาโต  พี่เขาโตเป็นสาวแล้ว  เขาก็ไปส่วนเขาสิ  เราเป็นเด็กก็ไปเล่นกับเพื่อนสิปีหน้าเขาก็ไปอยู่กรุงเทพฯแล้ว”  น้าคราญแม่ของหญิงพูดโดยไม่สังเกตหน้าของตาโตว่าหน้ามันหมองเห็นวี่แววใจหาย
 
                “วันนี้แม่ใหญ่ไม่อยู่หรือ”
                “แม่ใหญ่ไปประชุมครับ”
                “ไม่ต้องรอพี่เขาหรอก  ไปช่วยทำงานบ้านอะไรก่อนไป  หญิงกลับมาจะบอกให้”
                เด็กชายไม่กล้าอิดออด   เดินขึ้นบ้านไป
 
                “หญิง  ตาโตมันคอยหนูแน่ะ  มารอมาถาม คงน้อยใจที่หนูไม่ชวนมันไปด้วยนะ”
                “ตาโตมันยังเด็ก ชวนไปมันก็ไม่สนุก อีกอย่างเพื่อนก็เป็นรุ่นพี่มันชวนไปก็คุยกันคนละเรื่อง   ช่างเถอะแม่  เดี๋ยวมันก็มาเอง”
                ตาโตนั่งคอย คอยว่าพี่หญิงจะต้องเดินมาเรียกมัน  เพราะทราบจากปากนางนงคราญแล้วว่ามันถามหาและรออยู่  แต่คอยแล้วคอยเล่าก็เปล่า พี่หญิงไม่มา  มันน้อยใจยิ่งนัก  มันตั้งใจว่าจะไม่ไปหาพี่หญิงก่อนจนกว่าพี่หญิงจะมาเรียกมัน  ขณะที่รอหูก็แว่วว่าพี่หญิงมาเรียก มันเกือบจะขานหลายครั้งแต่เมื่อออกไปดูก็ไม่เห็นพี่หญิงของมันแต่อย่างใด  มันงอนและน้อยใจมากยิ่งขึ้น
 
                “โยมกาญจน์  อาตมาจะไปหาญาติที่ต่างจังหวัด  เห็นตาโตสอบเสร็จแล้ว ขอให้มันติดตามอาตมาไปต่างจังหวัดสัก ๒ วันได้มั้ย! มันคล่องดี”  รองเจ้าอาวาสวัดที่อยู่ติดกับบ้านของคุณครูนงกาญจน์มาหาเพื่อขอตาโตติดตามท่าน
                “ได้เลยค่ะท่าน เดี๋ยวดิฉันจะบอกมันให้นะ จะไปวันไหนค่ะท่าน”
                “มะรืนนี้นะโยม  ไปรถไฟสะดวกดี  ไม่ต้องห่วงนะ”
                เมื่อตาโตทราบมันก็ตกลงเพราะเพียง ๒ วันเอง  รองเจ้าอาวาสท่านนี้ก็เอ็นดูมันมาตลอดตั้งแต่เล็ก   หลังจากตาโตตอบตกลงคุณครูนงกาญจน์ก็ไปบอกรองเจ้าอาวาสด้วยตนเองแล้วกลับมาบอกน้องสาวคือนางนงคราญแม่ของหญิง  หญิงทราบก็ใจหายเล็กน้อยเพราะวันที่เธอจะไปกรุงเทพคือวันหลังจากที่ตาโตเดินทางไปกับรองเจ้าอาวาส
 
                ก่อนวันเดินทาง หญิงสาวหยิบกระดาษสมุดมาเขียนจดหมายถึงตาโตฝากแม่ของเธอไว้

 

            วันที่....

            ตาโตน้องรัก
                    เสียดายจัง วันที่พี่เดินทางตาโตไม่ได้ไปส่งพี่   เป็นเด็กดีนะ 
            ตั้งใจเรียนหนังสือจะได้ตามพี่ ๆ ไปเรียนที่กรุงเทพฯ   ฝากดูแลพ่อ แม่
            และป้าของพี่ด้วย  พี่จะหมั่นเขียนจดหมายมาหา
                    อุปกรณ์การเรียนพี่เก็บรวบรวมไว้ให้แล้ว เก็บดูแลให้ดี  และนี่เงิน
           เล็ก ๆ น้อย ๆ พี่ฝากไว้ให้ตาโตนะจ๊ะ
                                                ห่วงและระลึกถึง
                                                พี่หญิง

 

                   เธอมองภาพบริเวณบ้าน แล้วนึกถึงในวัยเด็กที่มีพี่ ๆ เธอ และตาโต เด็กชายที่เล็กที่สุดในกลุ่มที่เดินตามเธอต้อย ๆ และภาพที่เธออดยิ้มไม่ได้คือภาพที่เด็กหญิงตัวเล็กคนหนึ่งเดินเปลือยมาเพราะปลิงตัวนั้นและเด็กชายตัวน้อยคนนั้นที่เข้ามาแกะปลิง...เจ้าตาโต

                      ขอบคุณภาพจากhttp://www.oknation.net/blog/home/blog_data/95/95/images/17_10_50/letter_02.jpg

                              

 
                                            โปรดติดตามตอนที่๒  หรือว่าจะรัก
 
หมายเลขบันทึก: 414320เขียนเมื่อ 16 ธันวาคม 2010 23:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 มิถุนายน 2012 14:20 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

มีอีกหลายตอนหรือเปล่าคะ

สวัสดีค่ะ มี ๒ ตอนค่ะ ขอบคุณที่แวะมาค่ะ

เพิ่งแก้คำผิดไป ขอโทษด้วยค่ะ

หากพบคำผิดช่วยแนะนำด้วยนะคะ

อยากอ่านๆๆๆตอนสอง....

ถึงจะเป็นเรื่องของเด็กๆแต่ก็ทำให้อมยิ้มและรำลึกถึงสมัยตอนเป็นเด็ก  ที่ตามเพื่อไปหาหน่อไม้แล้วจะต้องลงห้วยหนองคลองบึง  ก็ถูกปลิงเกาะติดเต็มขาเหมือนกัน  ได้แต่หลับหูหลับตาแหกปาก  จนเพื่อนๆช่วยดึงออกให้จนหมด hahahahaha

  • ๕๕๕ ว้าย! ถ้าถึงขั้น มีปลิงเกาะเต็ม  
  • ป้าไม่ขอจินตนาการด้วยหรอก ค่ะ  สยองเกิ๊น
  • แค่บรรยายของนางเอก ตัวเดียวก็บรื๋อออออ
  • ตอนที่ ๒ ให้คุณครูไปรอที่สำนักพิมพ์เพลินจิต (ไม่รู้คุณครูเกิดทันหนังสือ เพชรพระอุมา  เพลินจิตฉบับกระเป๋ารึเปล่า)แต่ป้าทัน 
  • ไม่ต้องห่วงค่ะเรื่องนี้  เขียนถึงตอนวัยคุณครูค่ะ
  • ขอบคุณที่แวะมา

เขียนได้ดีจริงๆ เห็นภาพ... เรื่องจริงหรือเปล่าหนอ ? เขียนให้อ่านเรื่อยๆนะครับ จะติดตามอ่าน....อยากเป็นนักเขียนเหมือนป้า

แต่...จินตนาการไม่ค่อยมี ใกล้ปีใหม่งานเยอะมากๆๆๆ ยังไงก็จะคอยติดตามเรื่องของป้านะครับ

จะมาอ่านตอนต่อไปครับ...

-ปณิธฺ ภูศรีเทศ

สวัสดีค่ะ ท่าน ศน. 

  • ชีวิตเหมือนนิยายมิใช่หรือ
  • คอยติดตามเจ้าตาโตนะคะ
  • ขอบคุณที่แวะมาค่ะ

 

  • สวัสดีค่ะ คุณครูปณิธิ ภูศรีเทศ
  • รอหน่อยนะคะ
  • ตอนหน้าเจ้าตาโตเป็นหนุ่มคอยดูชั้นเชิงของเขาสิ
  • สวัสดีค่ะ
  • สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔ ขอให้ ป้าพธู มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง  สุข สดชื่น สมหวัง ดั่งใจปอง ตลอดปี และตลอดไปนะคะ" 
  • ขอบคุณค่ะ

                                      

สวัสดีค่ะป้าพธู

อ่านแล้วนึกถึงวัยเด็กจังค่ะ แถวบ้านก็ยังมีปลิงอยู่บ้างนะคะ เท่าที่ได้ฟังพ่อเล่า บอกว่าปลิงจะอยู่ในน้ำนิ่ง ๆ ค่ะ น้ำที่ไม่มีทีระบายน่ะค่ะ เคยถูกทากกัดสมัยเดินภูกระดึง ก็หนาว ๆ แล้วค่ะ

สวัสดีค่ะป้าพธู

อ่านแล้วนึกถึงวัยเด็กจังค่ะ แถวบ้านก็ยังมีปลิงอยู่บ้างนะคะ เท่าที่ได้ฟังพ่อเล่า บอกว่าปลิงจะอยู่ในน้ำนิ่ง ๆ ค่ะ น้ำที่ไม่มีทีระบายน่ะค่ะ เคยถูกทากกัดสมัยเดินภูกระดึง ก็หนาว ๆ แล้วค่ะ

  • 1. เป็นภาพ เงาดำ บนส้มแดง
  • เป็นภาพแปลง เปลี่ยนไป ตามใจปรับ
  • เป็นภาพลวง หากว่าเห็น ความเร้นลับ
  • น้อมคำนับ ในความคิด ของทุกคน
  • 2. เป็นภาพสี ส้มแดง รูปเงาดำ
  • เป็นภาพแทน ถ้อยคำ ย้ำเหตุผล
  • ว่ามุมมอง หลายมุม ประชุมชน
  • ย่อมหลากล้น ผล-เหตุ-เจตนา
  • 3. ร่วมชุมชน gotoknow ไม่นานนัก
  • รู้ว่าเป็น ชุมชนรัก อนรรฆค่า
  • ร่วมแบ่งปัน ประสบการณ์ เสริมปัญญา
  • ดีกว่ามา ทะเลาะกัน...ชาติบรรลัย
  • -ปณิธิ ภูศรีเทศ- (ภาพ:เส้นทาง ต.บึงพระ พิษณุโลก-ปณิธิ)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท