เมื่อกาแฟ..เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปเสียแล้ว !
กาแฟ... เอ่ยชื่อนี้ขึ้นมาคิดว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก และหลายท่านที่เป็นคอกาแฟ..คงนึกถึงรสชาติอันหอมกลมกล่อมของมันได้ดี แต่ขณะเดียวกัน..ก็คงมีอีกหลายท่านก็ไม่กล้าแตะ เพราะกินแล้วจะใจสั่น นอนไม่หลับ
พอพูดถึงกาแฟ.. ในเหล่าพวกเราชาวพยาบาลที่ต้องอยู่เวรวิกาล มีหลายคนเลยที่ต้องร่ำร้องหามันเพื่อกินก่อนขึ้นเวร โดยเฉพาะเวรดึก ด้วยเหตุผลที่ว่า..กินเพื่อไม่ให้ง่วง และเพราะเหตุนี้..ก็มีหลายคนเลยที่ไม่กล้าแตะกาแฟ..เพราะกลัวตาค้าง นอนไม่หลับ
สำหรับตัวเราเอง.. ก่อนขึ้นเวรดึก ก็ต้องกินกาแฟเหมือนกัน หากแต่ด้วยเหตุผลเพื่อไม่ให้ง่วงจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะถ้าไม่กินแล้วจะรู้สึกง่วงนอน (กินแล้วมันก็ง่วง..แต่ง่วงน้อยกว่าไม่กิน) เพียงแต่..ไม่ใช่แค่เวรดึกนะ เวรเช้า เวรบ่าย ..ก่อนไปขึ้นเวร ก็ต้องจิบกาแฟนิดหน่อยถ้วยครึ่งถ้วย ถ้าไม่ได้กิน.. รู้สึกเหมือนขาดอะไรไปอย่างหนึ่งในชีวิต
ถ้าจะบอกว่า..กินเพื่อไม่ให้ง่วงเหรอ.. ก็ไม่เชิงนะ เราว่ากาแฟไม่มีผลสักเท่าไหร่ (ถ้ากินแค่วันละ 1-2 ถ้วย) กินเสร็จยังหลับสบายเลย
เคยนึกย้อนคิดถามตนเองว่า.. เริ่มกินกาแฟตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
อืม... ตั้งแต่อยู่ ชั้นมัธยมมั้ง ...( แอบกินน่ะ อิอิ )
ความจริงคุณพ่อคุณแม่ ไม่ให้กินกาแฟ (แค่ไม่ส่งเสริมให้กิน โดยบอกว่ามันไม่ดีกับเด็ก แต่ก็ไม่ได้ดุเวลาเราขออนุญาตกิน) กาแฟยี่ห้อแรก และยี่ห้อเดียวที่กินมาตลอด..ก็คือเนสกาแฟ
ตอนเด็กๆต้องชงกาแฟให้คุณพ่อคุณแม่ และแขกของท่าน ทุกครั้งที่ชง.. กลิ่นหอมของมันยั่วยวนใจมากๆ วิธีการชงสมัยก่อน จะเป็นกาแฟใส่นม.. นมตรามะลิ เวลาแอบชงกินเอง..โอย. มันช่างหอมอร่อยจริงๆ
แต่ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยได้ชงกาแฟเพียวๆ.. จึงใช้วิธีเหยาะกาแฟ ใส่ผสมลงในไมโล.. มันจะทำให้รสชาติของไมโลหอมเข้มข้นอร่อยขึ้น ใครยังไม่เคย..ลองดูก็ได้นะคะ แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ เราก็ชอบเอากาแฟผสมลงในไมโลที่ชงดื่มเหมือนกัน
พอโตขึ้น.. คอฟฟี่เมตเป็นที่นิยม.. น้ำตาลก้อนกับคอฟฟี่เมตก็เข้ามาแทนนมข้นหวาน กาแฟใส่นมกับกาแฟใส่นมข้นหวานรสชาติจะต่างกัน อย่างแรกจะรสแหลมเข้ม..หอมมันกลิ่นนมข้น อย่างหลังจะกลมกล่อม รสนุ่มลิ้น ชุ่มคอ
เราเริ่มคุ้นกับกาแฟใส่คอฟฟี่เมตมากกว่า.. จนช่วงหลังๆ จะกินกาแฟใส่นมไม่ได้.. เพราะรู้สึกว่ารสมันแหลมแสบคอพิกล .. สู้คอฟฟี่เมตไม่ได้
มาถึงในปัจจุบันนี้..เรากินกาแฟ
เพราะหลงใหลในรสชาติและกลิ่มหอมของมัน
ไม่ได้กินเพื่อจุดประสงค์จะใช้กาแฟมาลดความง่วงเพิ่มความกระชุ่มกระชวย
และเพราะเหตุนี้ จึงพิถีพิถันในกันกินกาแฟเพิ่มขึ้น (
แต่ก็กินไม่เยอะหรอก แค่วันละ 1-2 ถ้วยเท่านั้น)
และเพราะพิถีพิถันในการกินกาแฟนี่เอง จึงทำให้กินกาแฟซองแบบทรีอินวันไม่ได้ ยังไม่เจอยี่ห้อไหนที่มันอร่อยถูกคอเลย สมัยยังเรียนอยู่เคยชอบกาแฟมาเลย์ยี่ห้อหนึ่ง ที่มีรูปดอกคาเนชั่นอยู่บนซอง กลิ่นมันหอมมากๆ แต่ช่วงหลังๆ..กลับกินไม่ได้ รู้สึกว่ามันหอมติดคอแปลกๆ หอมแบบไม่ใช่กาแฟ
พอเริ่มเป็นคอกาแฟ.. ก็เริ่มค้นหาว่าตนเองชอบกาแฟแบบไหน.. สุดท้ายก็พบว่า ชอบเอสเปรสโซ่นะ ยังเป็นคอกาแฟสมัครเล่น ที่ยังรู้จักกาแฟไม่กี่ชนิด แต่พอเจอรสที่ชอบแล้วถามเขา..ก็มักได้คำตอบว่า มันคือกาแฟเอสเปรสโซ่ทุกที
มาพูดถึงยี่ห้อกาแฟมั่ง.. เป็นลูกค้าเหนียวแน่นของเนสกาแฟมาตลอดตั้งแต่เด็ก มีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่เฉไปกินมอคโคน่าสีเขียว รสเอสเปรสโซ่บ้าง ริชขวดสีแดงบ้าง.. แต่สุดท้ายก็กลับมากินเนสกาแฟต่อ ริชก็หอมอร่อยนะ แต่เราว่ารสมันอ่อนโยน นุ่มนิ่มไปนิด กินถ้วยสองถ้วยยังโอเค แต่กินนานๆมันไม่ค่อยสะใจ สุดท้ายก็ต้องกลับไปหาเนสกาแฟ เพราะมันมีรสและกลิ่นที่หอมกลมกล่อมพอดีกว่า แต่ก็ไม่ได้ชอบทุกแบบหรอกนะ.. จะชอบเนสกาแฟโกลด์ฝาสีทอง ที่สุด
แต่อย่างไรก็ตาม..แม้จะชอบเนสกาแฟ.. ก็ยังต้องมียี่ห้ออื่นมาสลับเปลี่ยนรสชาติบ้าง เพราะถ้ากินอยู่รสเดียวนานๆ ความอร่อยจะลดลง เมื่อต้นเมษาที่ผ่านมาไปกรุงเทพ ระหว่างรอเครื่องฯจะบินกลับ ถือโอกาสแวะเข้าห้างเจ๊เล้ง ไปเจอกาแฟยี่ห้อหนึ่งเข้า.. ชื่อ "Maxim" เขาโฆษณาว่าเวลาชงอย่าใส่เยอะ เพราะกาแฟมันเข้มข้น
ซื้อมากินไม่ผิดหวัง.. ติดใจจริงๆ.. หอมอร่อยจนช้อนสุดท้าย เสียดายมากๆ ที่ตอนนี้หมดแล้ว..หาซื้อที่หาดใหญ่ไม่ได้เลย รสชาติจะผิดกัน..สงสัยว่าคงต้องรอซื้อเวลาขึ้นกรุ่งเทพอีกแหงเลย ^^''
ช่วงนี้กาแฟใกล้หมด..จึงเริ่มหากาแฟยี่ห้อใหม่ๆมาลองลิ้นอีก เมื่อวานไปโลตัส ทดลองซื้อ UCC The Blend No.117 มากินดู ยืนลังเลตัดสินใจอยู่นาน เพราะมันแพง 5555 ขวดขนาดแค่100 กรัมตั้ง 450 กว่าบาท แต่ถ้าถูกใจก็คุ้มล่ะนะ ตะกี้เพิ่งลองชงถ้วยแรกดู.. อืม.. ทั้งกลิ่นและรสชาติใช้ได้ค่ะ ^_____^
เกริ่นมาเสียยืดยาว.. ก็ต้องขอประมวลประสบการณ์ด้านกาแฟมาเขียนเก็บไว้ตรงนี้หน่อย สำหรับตัวเรา.หลายปีมานี้..เราค้นพบว่า..ถ้าอยากกินกาแฟให้อร่อย.. ต้อง
1. ถ้วยกาแฟ ต้องไม่ใหญ่หรือหนาเกินไป.. เหตุผลเพราะ เนื้อของถ้วยที่ใช้ชง มันมีผลต่อการเก็บความร้อนของน้ำ และความร้อนของน้ำ..ก็มีผลต่อความหอมอร่อยของกาแฟ
2. การซื้อกาแฟ อย่าซื้อแบบขวดใหญ่ๆมาเพื่อหวังความประหยัด เพราะกาแฟเมื่อเปิดขวดแล้ว ควรรับประทานให้หมดภายใน 2 สัปดาห์.. หากนานกว่านั้น ความหอมอร่อยของกาแฟจะลดลง แม้ว่าเราจะปิดขวดแน่นหนาเพียงใด เพราะเหตุนี้..บางครั้งเราก็นิยมซื้อแบบซองเล็กมาเติม แม้จะจ่ายแพงกว่า แต่เมื่อเทียบกับความอร่อยคุ้มค่าแล้ว คุ้มมากกว่าเยอะ
3. การเลือกซื้อคอฟฟี่เมตก็เหมือนกัน เราจะนิยมซื้อแบบซองเติมซึ่งเป็นซองเล็ก ที่เปิดใช้แล้วหมดภายใน 1 สัปดาห์ คอฟฟี่เมตแบบซองโตๆ ที่กินกันเป็นเดือนกว่าจะหมดนั้น นานไปกลิ่นมันจจะหืน ชงแล้วกาแฟจะรสกร่อยลง สูญเสียอารมณ์อันสุนทรีย์ในการกินกาแฟไปเยอะเลย
4. เราชอบใช้น้ำตาลทรายขาวในการชงกาแฟ มากกว่าน้ำตาลก้อน หรือไลท์ชูการ์ก็ได้..อร่อยเหมือนกัน สำหรับเรา..น้ำตาลก้อนมันหวานน้อย รสมันอ่อน ถ้าชงให้รสชาติพิดีกับกาแฟต้องใส่น้ำตาลหลายก้อน พอใส่หลายก้อน..ความเข้มข้นของรสกาแฟจะอ่อนตัวลง ชงแล้วไม่อร่อย น้องสาวเราเคยแนะนำให้ใช้น้ำตาลอ้อย(ที่สีน้ำตาล) ชงกาแฟ.. บางคนบอกว่าอร่อย แต่เราลองแล้วไม่ค่อยชอบ เราชอบให้กลิ่นกาแฟเป็นพระเอกนางเอกของถ้วยกาแฟมากกว่า การใส่น้ำตาลอ้อย หรือน้ำตาลกรวดมันมาแย่งรสชาติและความหอมของกาแฟไป..เราเลยไม่ชอบ
ทีนี้มาพูดถึงเทคนิคการชงกาแฟมั่ง 
เทคนิควิธีการชง
มีผลต่อรสชาติและความอร่อยของกาแฟนะคะ จากการพิสูจน์มาด้วยตนเอง
และชงให้คนอื่นกิน..เราก็ได้วิธีการชงดังนี้
1. ถ้วยกาแฟต้องร้อน.. สำหรับตัวเราเองอยู่คนเดียวที่ห้อง เราใช้วิธีรินน้ำใส่ถ้วยกาแฟ ประมาณ 100 ซีซี แล้วเอาใส่ไมโครเวฟ ใช้ความร้อนสูงสุดประมาณ 1 นาที แต่ถ้าไม่มีไมโครเวฟ ก็จะใช้วิธีการรินน้ำร้อนลวกถ้วยกาแฟก่อน
2. ตักกาแฟด้วยช้อนที่แห้งสะอาด ใส่ถ้วยที่มีน้ำร้อน (กรณีเอาถ้วยใส่น้ำเข้าไมโครเวฟ) แต่ถ้าหากไม่ได้เวฟน้ำร้อน ก็ให้ตักกาแฟใส่ถ้วยซึ่งลวกน้ำร้อนแล้ว แล้วค่อยรินน้ำร้อนจากกระติกใส่ถ้วย
หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันต่างกันตรงไหน ? ... ขอบอกว่าต่างกันค่ะ สำหรับถ้วยที่ไม่ได้เวฟพร้อมน้ำให้ร้อน น้ำร้อนที่รินใส่ถ้วยทั่วไป อุณภูมิของน้ำจะลดลงเร็วกว่า พอตักกาแฟใส่น้ำร้อน..กลิ่นกาแฟจะออกมาไม่เต็มที่
ดังนั้นขอบอกว่า ถ้าต้องการจะรักษาความหอมอร่อยของกาแฟ.. ต้องพิถีพิถันความร้อนของน้ำ และถ้วยกาแฟมาเป็นอันดับแรก..
3. ชงกาแฟกับน้ำร้อนก่อน.. จากนั้นค่อยใส่น้ำตาลลงไปชง..กวนด้วยช้อนเบาๆให้ละลาย แล้วใส่คอฟฟี่เมตเป็นลำดับต่อมา
อย่าใส่ทั้งกาแฟ น้ำตาล และคอฟฟี่เมตพร้อมกัน หรือ อย่าใส่คอฟฟี่เมตก่อน แล้วใส่น้ำตาลทีหลัง.. เคยทดลองมาแล้ว.. รสชาติที่ออกมามันจะแตกต่างกัน
4. มีข้อเตือนนิดนึง.. สำหรับถ้วยน้ำที่เอาใส่ไมโครเวฟ เมื่อเอาออกมา อาจจะใช้ช้อนคนน้ำร้อนในถ้วยนิดหน่อย เพราะว่า..บางทีคลื่นความร้อนของเวฟมันถูกเก็บอยู่ในมวลของน้ำ ถ้าเราใส่ผงกาแฟลงไป.. น้ำอาจจะเดือดพล่านขึ้นมาล้นถ้วยทันที ขอให้ระวังหน่อย..เดี๋ยวจะลวกมือเอาค่ะ ^
<img src="/file/mydream/dd22.gif" border="0" width="115" height="115" /> ก่อนไปทำงานตอนเช้า หรือเข้าเวรดึกตอนกลางคืน.. เราใช้เวลาอันรวดเร็วมากชงกาแฟ...โดยเอาน้ำใส่ถ้วยใส่ไมโครเวฟ หมุนเวลาไป 1 นาที จากนั้นเอาขนมปัง 2 ชิ้นใส่เครื่องปิ้ง แล้วเดินมาเปิดคอม... เสียงกริ๊ก !.. น้ำเวฟเสร็จ หยิบออกมาจากตู้เวฟ ใช้ช้อนคนน้ำในถ้วยเบาๆ ตักกาแฟ 1 ช้อนใส่คนพอละลาย ตักน้ำตาลทราย 2 ช้อนใส่ คนพอละลาย จากนั้นตักคอฟฟี่เมตใส่ 2 ช้อนพูนๆ คนให้เข้ากัน
มาถึงตอนนี้กลิ่นกาแฟเริ่มลอยหอมฉุย.. พอดีกับขนมปังดีดขึ้นมาจากเครื่องปิ้ง หยิบใส่จาน โรยนมข้นหวาน ไม่ก็ทาเนยกับแยมผิวส้ม ไม่ก็..ทานแบบไม่ต้องทาอะไรเลย กินแกล้มกาแฟ พลางนั่งลงหน้าคอม เปิดเนตดูโน่นดูนี่ไปพลาง..ใช้เวลาราวๆ 10-15 นาทีก่อนลุกไปอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงาน
โอย..แค่นี้ก็เริ่มต้นวันใหม่ หรือเป็นการบิดกุญแจไขลานวันนั้นให้กระชุ่มกระชวยสดใสแล้วล่ะ ^
<font color="#663300">
กิจวัตรดังกล่าวจึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา..โดยไม่รู้ตัว หากวันไหนก่อนอาบน้ำไปทำงาน ไม่ได้กินกาแฟ (ไม่ต้องแกล้มขนมปังก็ได้) พลางนั่งเปิดเนตระหว่างจิบกาแฟ.. วันนั้นรู้สึกไปทำงานมันขาดๆอะไรก็ไม่รู้
แล้วคุณๆทั้งหลายล่ะคะ.. มีรสนิยมในการกินกาแฟแบบไหนบ้าง ?
มาเล่าสู่กันฟังหน่อยไหม ^______
<font color="#3300cc">
ความเห็น (19)
อ่านตามบันทึกอย่างสนุกสนานค่ะ ..เรียงร้อยได้สวยงามและเห็นภาพ
แต่พอเห็นภาพ...นึกห่วงขึ้นมาบ้าง...
เอาถ้วยน้ำใส่ไมโครเวฟ..ความร้อนสะสมสูงโอกาสน้ำร้อนพุ่งเข้าตาสูงนะ...น่าจะเอาไม้จิ้มฟันใส่เข้าไปด้วย
กินกาแฟใส่น้ำตาลสองช้อน...หวานนะ
ใส่คอฟฟี่เมต สองช้อน ...มันนะ
กินไปดูคอมไป...สติไม่ได้อยู่ที่กินนะ...โอกาสสำลักมีนะ...
นั่นคือห่วงแบบคนมีอายุค่ะ...
เคยอ่านศิลปะการชงกาแฟอร่อยจากนิยายของคุณทมยันตี...เวลาที่ชงเสร็จแล้วก่อเสริฟ์โรยผงกาแฟนิ้ด..นิด..บางๆ ลงในถ้วยที่ปากบางด้วยกระเบื้องชั้นดีสีขาว...นั่นคือนิยายเน๊อะ..ของจริงต้องจากของคุณ K-jira นี่เอง
ในที่สุดก็ได้พบกับคนคอเดียวกัน "คอกาแฟ" อ่านจากที่เล่ามา คุณ K-jira ไม่ได้เป็นคอกาแฟสมัครเล่นเลยนะ ถ้าบอกว่า เอสเปรสโซ่ เป็นถ้วยโปรดล่ะก็ เป็นคอกาแฟตัวจริงเสียงจริงเลยล่ะ
สิ่งที่ทำเหมือนกันเวลาชงกาแฟคือ อุ่นน้ำร้อนด้วยไมโครเวฟ 1 นาที แล้วตักกาแฟเติมลงไป ช่วงนี้นะจะปล่อยให้กาแฟค่อยละลายๆๆๆๆ เราจะได้เนื้อกาแฟที่ละลายได้เนียนหมดจดดี
ว่างๆ... จะชวนไปดื่มกาแฟเย็น ดีมั๊ย...
โอ้ย กว่าจะอ่านจบ ทรมานมาก หิวกาแฟมาก ๆ ค่ะ (แอบอ่านในห้องเรียนค่ะ ไม่ดีเลยนะ) ไว้ถ้าไป คุณ nidnoi อย่าลืมชวนด้วยนะคะ
- อ้าว! เจอแฟนคลับ Maxim ไม่รู้ตัวเลย...ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เราเพิ่งจะอยู่คนละขั้วกันในเรื่องของ "ซีดาน" เนาะ!...
- พี่เม่ยเคยซื้อได้ที่ ท้อปฯเซ็นทรัลหาดใหญ่นะคะ ช่วงหลังไม่ได้ซื้อนานแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะมีไหม?
- แม๊กซิมเป็นกาแฟแท้ ไม่ผสม เข้าใจว่าขั้นตอนการผลิตดีมากสังเกตดูเกล็ดกาแฟจะแห้ง รสชาติกลมกล่อมมาก แต่ราคาก็ "พอติ๊" อยู่เหมือนกัน เป็นอันดับหนึ่งของกาแฟสำหรับพี่เม่ยค่ะ
- ดูเหมือนคุณจูนทานกาแฟออกหวานนะคะ กาแฟของพี่เม่ยไม่คุยกับน้ำตาลเลยค่ะ รู้จักแต่กับคอฟฟีเมทเท่านั้นเอง
- เคล็ดลับในการคนกาแฟนะคะ (สำหรับคุณ nidnoi และคอกาแฟท่านอื่นๆด้วยนะ) ถ้ามือขวาให้วนซ้าย ถ้าใช้มือซ้ายให้วนขวาค่ะ คือให้วนด้านที่ไม่ค่อยถนัด เพราะจะทำให้คนได้ช้า..ไม่มีเสียงช้อนกระทบถ้วยกาแฟ ที่สำคัญก็คือ...กว่าจะคนได้จนเนียน กลิ่นกาแฟก็จะหอมฉุยยยยยย....ออกมาเต็มที่ไงคะ!
- อ่านเรื่องสั้น "กาแฟ" จบแล้วครับ
- เกริ่นนำชวนให้ติดตามอ่านจริงๆ
- ของผมกาแฟช้อนเดียว+น้ำร้อน เข้มข้น อร่อย
- สูตรใครก็สูตรใคร ห้ามเลียนแบบผมนะครับ
- ขอบพระคุณมากครับ
Coffee Mania
- ชอบกินเหมือนกันครับ
- ว่างไหมครับ จะชวนไปถ้ำกระบอก
ตอบคุณ จันทรรัตน์
- ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำเตือน และศิลปะการกินกาแฟแบบในนิยายคุณป้าทมฯ
- คอฟฟี่เมต 2 ช้อนพูนตามโฆษณาค่ะ..มันอร่อยนิ อดใจไม่ไหว 555
- กินไปดูคอมไป ไม่สำลักหรอกค่ะ แบบว่าทำมานาน..ถ้าเป็นวิทยายุทธก็ฝึกจนถึงขั้นสูงสุดแล้ว เพราะไม่แต่กาแฟ.. แม้กินข้าว(ห่อ)ก็กินหน้าคอมค่ะ
- เพราะเวลามีน้อย..จึงจำเป็นต้องใช้อย่างคุ้มค่า ทำหลายเรื่องในเวลาเดียวกัน อย่าว่าแต่จิบกาแฟไปเล่นเนตไปเลย ยังเคยเปิดคอมท่องเนต + ทำเวป+ แชท MSN กับเพื่อน + กินข้าว +ซักผ้า + ดูทีวี รวม 6 กิจกรรมพร้อมกันในคราวเดียวเลย... ไม่เคยสำลักค่ะ
- แต่ว่าสงสารคีย์บอร์ดมาก เพราะเวลาช่างคอมมาช่วยตรวจสภาพ เคาะออกมาจะมีเม็ดข้าวแห้งๆร่วงตกลงมาด้วย.. อ๊าย อายเขาจริงๆ 555
ตอบคุณ ชายขอบ
- ขอบคุณที่แวะเข้ามาทักทายเช้าๆค่ะ ^___^
- 'เช้า..เช้า' ภาษาอิตาลี แปลว่าสวัสดีค่ะ เหตุที่รู้ไม่ใช่เพราะเชียร์ทีมอิตาลี แต่เป็นเพราะมีญาติคนไข้ซึ่งเป็นชาวอิตาลีเค้าสอนให้ค่ะ แล้วมักทักทายพวกเราว่า "เช้า เช้า" ทุกวันเวลาเดินผ่านหน้าเคาน์เตอร์พยาบาล ^^
- ดูนาฬิกาที่โพสต์เจ็ดโมงครึ่ง เป็นเช้าๆของวันเสาร์คงบรรยากาศดีจริงๆด้วย
- เสียดายเวลานี้กำลังหลับค่ะ.. เพราะเมื่อคืนนอนดึก (ไม่ใช่สิ นอนเกือบเช้าแล้วล่ะ) ^^''
ตอบคุณ nidnoi
- ดีใจจังเจอคอเดียวกัน แล้วยังอุ่นน้ำร้อนด้วยไมโครเวฟเหมือนกัน
- ใครยังไม่เคยทำ ไม่ลองคงไม่รู้ ว่ากาแฟที่ชงด้วยน้ำร้อนซึ่งอุ่นด้วยไมโครเวฟ มันอร่อยกว่ารินน้ำร้อนจากกระติกจริงๆค่ะ
- เสียเงินซื้อกระติกต้มน้ำร้อนพันกว่าบาท สุดท้ายชงแล้วมันไม่อร่อย ต้องกลับมาใช้ต้มน้ำกับไมโครเวฟเหมือนเดิม
- ดีค่ะ.. ว่างๆมานัดกินกาแฟกันนะ ว่าแต่ร้านไหนอร่อยคะ บอกมั่ง ^_^
ตอบคุณ คุณ รัตติยา เขียวแป้น
- 5555 ขอโทษค่ะ ที่ทำให้ทรมานในห้องเรียน
- ไว้วันไหนว่างพร้อมกัน ค่อยนัดเจอกันในงาน gotoknow's coffee meeting ครั้งที่ 1 กันดีมั้ยคะ อิอิ
ตอบคุณ พี่เม่ย
- โอ้ยดีใจจัง ในที่สุดก็ได้กาแฟเป็นสื่อสมานฉันท์ 5555
- ขอบคุณมากค่ะ ไว้วันหลังจะลองไปหาดูที่ท้อปเซ็นทรัลนะคะ
- เมื่อวานลองซื้อ UCC The Blend No.117 มาชงดื่มไปสองถ้วยแล้วค่ะ รสชาติหอมเข้มกลมกล่อม ใช้ได้เลยล่ะค่ะ กลิ่นคล้ายๆ Maxim นะคะ ดูเหมือนจะเป็นกาแฟญี่ปุ่น เพราะมันติดป้ายบอกว่าผลิตที่ ญี่ปุ่น เหมือน Maxim เลย
ตอบคุณ บวร
- สวัสดีค่ะ..แสดงว่าเป็นคอกาแฟเหมือนกัน
- ดื่มสูตรพระเอกนะนั่น 555 เพราะเห็นมีพระเอกนิยายหลายเรื่อง กินสูตรนี้ ^^
- ขอบคุณที่แวะเข้ามาทักทายกันค่ะ
ตอบคุณ Coffee Mania
- ดื่มกาแฟก็ขึ้นสวรรค์ได้ แสดงว่าสวรรค์อยู่ไม่ไกลแค่เอื้อมเนาะ
- กาแฟทำให้เราค้นพบความสุขเล็กๆ ท่ามกลางความเหนื่อยล้าของงานในแต่ละวัน ยิ่งถ้าได้จิบกาแฟกับเพื่อนสนิทหรือเพื่อนรู้ใจ ได้กรุ่นกลิ่นไอแห่งมิตรภาพ ไปด้วย ก็คงยิ่งดีไม่น้อย
- ดื่มเสร็จต้องขอบคุณกาแฟนะ ที่ทำให้ชีวิตนี้มีสีสันขึ้น ^^
ตอบคุณ ขจิต ฝอยทอง
- ยินดีต้อนรับคอกาแฟอีกท่านค่ะ ^_^
- ไปถ้ำกระบอกทำไมเหรอคะ ถ้ำกระบอกขายกาแฟเหรอ 55555
- ล้อเล่นน่ะ ฮิฮิ
เรากาแฟกระป๋องตรามือหัวนิ้วโป้ง 1 กิโล 80 บาทที่ TOPS ก็หรูแล้วค่ะ
กินแรงโคด(ไม่เปรี้ยวดี)
เรากาแฟกระป๋องตรามือหัวนิ้วโป้ง 1 กิโล 80 บาทที่ TOPS ก็หรูแล้วค่ะ
กลิ่นแรงโคด(ไม่เปรี้ยวดี)
ขอสูตร ชง UCC The Blend 117 หน่อยค่ะ
ซื้อมาเหมือนกัน แต่ชงแล้วรู้สึกรสมันแปร่งๆ
อาจจะชงไม่ดี
กาแฟ 1 ช้อนชา
น้ำตาลทรายขาว 1 ช้อนชา
Coffee mate 2 ช้อนชา (มากไปไหมคะ)
ตอบคุณหมูสีฟ้า
น้ำที่ชงต้องร้อนถ้วยต้องร้อนนะคะ ถ้ามีไมโครเวฟ ก็ใส่น้ำประมาณ 3/4 ถ้วยกาแฟ แล้วเข้าเวฟ 1.50 นาที จากนั้นตักกาแฟใส่ 1 1/3 ช้อนกาแฟ (ช้อนเดียวมันจืดไปหน่อยค่ะ)
แล้วถ้าหากไม่มั่นใจในสูตรว่าจะชงได้ตรงกันทุกครั้ง แนะนำให้ซื้อน้ำตาลซอง แบบ คาลอรี่ครึ่งเดียวน่ะค่ะ (มีขายในเซเว่น หรือซุปเปอร์มาเกตทั่วไปค่ะ) โดยใส่น้ำตาล 2 ซอง กับ คอฟฟี่เมต 2-3 ช้อน รับรองว่ารสชาติเข้มข้นเลยล่ะค่ะ
กับอีกสูตรขอแนะนำนะคะนั่นคือ น้ำร้อนปริมาณเท่าเดิม + กาแฟ 1 กับ 1/3 ช้อนกาแฟ + น้ำตาล 1 ซอง + น้ำผึ้งรวง 1 ช้อนกาแฟ + คอฟฟี่เมต 2-3 ช้อนกาแฟ สูตรนี้ก็รับประกันในความเข้มและหอมแปลกไปอีกแบบ
ลองชงดูได้ผลยังไง มาบอกเล่าเก้าสิบกันมั่งนะคะ
แวะมาอ่านเรื่องกาแฟกี่รอบก็ยังชอบอยู่เหมือนเดิมครับ ขอบคุณมากครับ
วันก่อนไปฝั่งมาเลย์ เจอพี่ ๆ บนทัวร์ บอกว่า กาแฟ 117 สำหรับคนชอบเข้ม ๆ อร่อยที่สุด ซื้อได้ที่ร้านดิวตี้ฟรี ฝั่งไทยยังไม่เคยเจอ (กิมหยงก็น่าจะไม่มี) ขากลับจึงแวะหาดู เจอ 114 กับ 118 เลยซื้อ 118 มา 1 ขวด เพราะชอบกาแฟแรง ๆ (ชั้นสินค้าว่างมาก 117 น่าจะหมด) ทดลองไป 2 ถ้วยแล้ว หอม อร่อยมาก ปกติดื่ม เนส โกลด์ ใส่ 2 ช้อน ชงกับถ้วยเล็ก (ไซส์เอสเปรสโซ่) พบว่าเนส โกลด์ขมกว่า น่าจะเปลี่ยนมาดื่ม 117 หรือ 118 แทนเสียแล้ว แต่ปัญหาว่าฝั่งไทยหาซื้อที่ไหน
เข้ามาดูในเน็ต การสั่งซื้อทางเน็ต น่าจะพอแก้ขัดได้บ้างนะ ราคาก็ไม่แตกต่างไปมาก 250-260 สู้ได้
พี่ ๆ เขายังแนะนำว่าให้ซื้อกระติกน้ำร้อนชนิด 100 องศา สำหรับต้มน้ำ ผมไม่เคยสังเกต จะลองเดินหาดูในท้องตลาด ที่บ้านมีไมโครเวฟ การอุ่นถ้วยกาแฟ หรือการต้มน้ำด้วยไมโครเวฟ น่าจะยังไม่ต้องลงทุนเพิ่ม ชอบดื่มกาแฟกับถ้วยเล็ก ๆ แค่อุ่นถ้วยก็น่าจะพอแล้วนะ
วันก่อนไปสั่งกาแฟที่ร้านคาแคร์ (มีกาแฟสดขายด้วย ชื่อฝรั่ง จำไม่ได้) บอกน้องในร้านว่าขอ expresso ถ้วย น้อง ๆ เขายิ้ม แล้วไปล้อกันว่า expresso ๆ ๆ ผมว่าผมผิดตรงไหนหนอ นั่งนึกไปพร้อมสะกดอารมณ์ไป แอบเคี้ยวช็อคโกเลตแก้ฉุนไป สายตาก็ไปเจอกับป้ายรายการกาแฟในร้านว่า espresso ลูกค้ามาใหม่ก็สั่ง espresso ชัดเจน มีผมคนเดียวมั้งที่สั่ง expresso ทำให้น้อง ๆ เอาไปล้อ กลับบ้านก็เปิดคอมดู ส.เศรษฐบุตร ว่ามันอะไรกันแน่คำนี้ เราก็เป็นแฟนรายการกาแฟอิตาลีเหมียนกัน ก็พบว่าคำนี้เขียนได้ 2 อย่าง เฮ้อ โล่งอกไปที หรือเพื่อน ๆ ว่าไงครับ กับอ้าย 2 คำนี้ ถ้าเห็นด้วยกับผม ผมจะแอบไปสั่งกาแฟที่ร้านนี้อีกสับรอบว่า ขอ expresso ถ้วย อย่างชัดถ้อยชัดคำไปเลยครับ
ความสุขเล็ก ๆ ของคอกาแฟ
อาทิตย์ที่แล้วไปสงขลา เดินดูกาแฟในตลาดสดสงขลา พบ เนสกาแฟ แบบแปลก ๆ พบ ucc 177 ไม่พบ 118 พบ Davidoff ไม่พบ Maxim แสดงว่าตลาดฝั่งไทยพอจะหาซื้อกาแฟเกรดดี ๆ ได้ ราคาก็ถูกกว่าที่ร้านปลอดภาษีชายแดนเสียอีก ไม่ต้องพึ่งพาพี่น้องชาว e-commerce อีกแล้ว ส่วน Maxim คงจะเดินหาไปเรื่อย ๆ
ตอนนี้ที่บ้านดื่ม 118 กาแฟ 2 ช้อน น้ำตาล 1 ซอง ชงกับถ้วยใบเล็กสุด ไม่เติมครีม จะได้กาแฟแท้หอมกรุ่น ละมุนลิ้น ตั้งใจว่าจะไม่เติมครีมกับ 118 อีกแน่นอน
ส่วนที่ทำงาน ยังมีเนสโกลเหลืออยู่ เนสโกลหอม แต่ขม และเปรี้ยวนิด ๆ ถ้าไม่ชอบเติมครีม (อยากไห้กาแพรสชาดคล้าย expresso) ควรใช้กาแฟแค่ 1 ช้อน น้ำตาล 1 ช้อน น้ำร้อนถ้วยเล็กสุด (อย่าเติมน้ำตามขนาดถ้วยกาแฟ) ถ้าชอบครีม ให้ใส่กาแฟ 2 ช้อน น้ำตาล 1 ช้อน ครีม 2 ช้อน กับน้ำร้อนในแก้วกาแฟขนาดเล็กสุด จะได้กาแฟที่คล้ายคาปูชิโน
เคยพยายามจะลองดื่มกาแฟไม่เติมน้ำตาล ไม่ไหวครับ คอไม่เเข็งพอ สรุปว่าเป็นคนชอบกาแฟเข้มข้น เติมครีมหรือไม่เติมครีมก็ได้ วันละ 1-2 แก้ว กาแฟยิ่งหอมยิ่งชอบ ไม่เกี่ยงราคา เพราะซื้อกาแฟมาชงดื่มเดือนละขวดยังไงก็ถูกกว่าไปนั่งดื่มตามร้านกาแฟมีแบรนด์เป็นไหน ๆ อยู่แล้วครับ
ผมว่า 118 จำนวน 2 ช้อนชาต่อน้ำถ้วยเล็ก เข้มจัดไป คืนนี้ลองใหม่ แค่ 1 ช้อนชาก็พอแล้วครับ (118 น่าจะเข้มกว่า 117 ผมมี 117 อยู่ 1 ขวด แต่ยังไม่ได้เปิดชิมเลย)
เช้านี้นั่งดูสารคดีกาแฟอิตาลี เขาบอกคนอิตาลีดื่ม คาปูชิโนตอนเช้าถึงสาย ตอนบ่ายจะดื่มเอ็สเปรสโซกัน
ผมแอบพิสูจน์ความนิยมในการใช้คำว่า espresso กับ expresso น่าจะอนุมาณได้ว้า espresso น่าจะนิยมเรียกกันมากกว่าเพราะต้นกำเนิดของคำนี้มาจากภาษาอิตาลี แปลว่าด่วน อิตาลีก็เป็นต้นกำเนิดของการชงกาแฟแบบนี้ก็ถือว่าเป็นการให้เกียรติที่จะเรียกตามเจ้าของภาษาและถิ่นเกิด แต่ผมเป็นคนชอบตะแบง อยากเรียกเป็นภาษาอังกฤษตามภาษาที่ 2 ที่เราเรียน ก็ให้ความรู้สึกว่ามั่ว ๆ ไปนิด แต่เป็นการดีที่เราจะได้เรียนรู้คำที่เราพูด
เช้านี้ผมเข้าสมัครเป็นสมาชิด blog นี้ด้วยเพื่อจะได้คุยกับคุณ k-jira เเละเพื่อน ๆ เรื่องกาแฟ (ขอเป็นเพียงกาแฟที่จะดื่มในแต่ละวัน ในแต่ละขวดเท่านั้น) ผมไม่อยากเปิด blog เอง เพราะจินตนาการไม่มีพอ ขอเป็นพื้นที่ไว้คุยกับเพื่อน ๆ โดยเฉพาะคนหาดใหญ่เผื่อกาแฟหมดจะได้รู้ที่ซื้อหากาแฟมาใส่ตู้
อาทิตย์นี้ผมเปิดขวด 117 ออกมาชิมแล้ว พบว่ารสชาดค่อนข้างอ่อนและกลิ่นหอมน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ 118 ครั้งแรกใช้กาแฟ 1.5 ช้อน ต่อน้ำถ้วยเล็กสุด กินไม่ได้ครับ กาแฟออกกลิ่นไหม้นำ ไม่ขมหรือหอมนำ ให้แม่บ้านช่วยชิมตามวิธีการของเขา เขาบอกหอม อร่อยดี ถ้วยต่อมาผมปรับ ใช้กาแฟ 1.25 ช้อน ต่อน้ำถ้วยน้อย ก็พอดื่มได้ ถัดมาใช้กาแฟ 1.25 ช้อนต่อน้ำค่อนถ้วยกลาง ก็พอดื่มได้ วันนี้ทดลองใหม่ ใช้กาแฟ 1 ช้อน ต่อน้ำ 1 ถ้วยน้อย(เล็กสุด) ก็อร่อยดี สรุปว่า 117 เป็นกาแฟสำหรับคนชอบรสกาแฟแบบอ่อน ๆ ไม่ขมไม่เข้มจนเกินไป