สัญชาตญาณ-ปัญญา-มโนธรรม


สัตว์ใช้สัญชาตญาณในการดำเนินชีวิต แต่คนต้องใช้ปัญญาและมโนธรรมในการดำเนินชีวิตจึงจะอยู่อย่างเป็นสุข เหนือทุกข์

สัญชาตญาณ-ปัญญา-มโนธรรม

เมื่อคืนก่อนตอนดึกนั่งเขียนหนังสืออยู่ ได้ยินเสียงโครม-เพล้ง!!!! ดังมาก สมองรีบแปลทันทีว่า "เสียงอะไร" และก็คิดว่าน่าจะเป็นกระถางต้นไม้หล่นแตกเหมือนเดิม เปิดประตูออกมา ที่เห็นแตกต่อหน้าชัดเจนคือ จำเลยวิ่งแตกกระเจิง 3 ตัว 3 ทิศ ตัวที่ 4 อยู่ในบ้าน รอดพ้นข้อหา  แต่คราวนี้ไม่ไช่กระถางต้นไม้ แต่เป็นโคมไฟดินเผาตั้งพื้นสูงขนาดเอว สวยพอควร  สำหรับใส่เทียนหอม หรือวางตะเกียงไว้ข้างใน  ราคาประมาณ 4,000 บาท ไปซื้อมาจากตจว. เห็นกองเป็นเศษกระจายบนพื้น ก็ถามด้วยความเบื่อว่า

 ใคร..ใครทำ!!   ไม่มีใครอยู่ตอบ วิ่งไปตั้งหลักมุมใครมุมมัน

เห็นแล้วขำ แต่ต้องทำเสียงขึ้ง ไม่งั้นจะได้ใจ แล้วก็ก้มเก็บเอาเศษขนาดใหญ่ให้เห็นชัดๆ เดินไปถามใหม่หันไปรอบตัว เพราะมันอยู่คนละทิศ      “ใครทำ” 

 นี่ถ้ามันพูดได้คงช่วยตะโกนพร้อมกันมั้งว่า “ No idea” แต่นี่พูดไม่ได้ มันคงคิดว่า “ถอยดีกว่า ไม่มองดีกว่า”   ว่าแล้วแต่ละตัวค่อยๆหดถอย ถอยๆๆ

สรุปหาจำเลยไม่ได้ ก็เห็นสัจธรรม “ความนิ่งสงบสยบ ได้ทุกสิ่ง”  ว่าแล้วคนก็แพ้ ถอยเข้าบ้านเหมือนกัน  

ขณะที่กำลังถามมันอยู่นั้น สมองก็ทำงานคิด ตัดสินใจว่า เอ! จะตีไหม ตีตัวไหน (ปกติถ้าต้องตีจะตีด้วยกระดาษนสพ. แต่หมาบ้านนี้ไม่ค่อยกลัวกระดาษนสพ.เพราะมันคงจำได้ว่าโดนแล้วคันๆ) และคงไม่ใช้หลักการที่ว่าลงโทษทั้งหมดดีกว่าจะให้ตัวที่ทำผิดรอดไป

ในที่สุดตัดสินใจไม่ตี เพราะไม่ได้โกรธตั้งแต่แรก เชื้อเพลิงไม่มี จุดโทสะไม่ติด และคิดถึงความดีของมันที่ช่วยเฝ้าบ้านและเป็นเพื่อนที่เดินตามทุกที่ (ด้วยความอยากรู้อยากเห็น) 

คิดว่า ถ้าโกรธของก็ไม่ได้กลับคืนมา จำเลยก็ไม่รู้ตัวไหน ถ้าหงุดหงิดไปอาจนอนไม่เป็นสุข และที่สำคัญคือเรารักมันมากกว่าของที่แตกไป และความรักไม่มีมูลค่า ของแตกไปแล้วหาซื้อใหม่ได้ เวลาเราทำของแตกยังรู้จักยกโทษให้ตัวเองเลย แล้วนี่มันเป็นหมาที่เรารัก เราก็ต้องให้อภัย เรื่องก็เลยจบลงด้วยดี ไม่มีของให้มันทำแตกอีก

สัตว์ใช้สัญชาตญาณในการดำเนินชีวิต แต่คนต้องใช้ปัญญาและมโนธรรมในการดำเนินชีวิตจึงจะอยู่อย่างเป็นสุข เหนือทุกข์

หมายเลขบันทึก: 413403เขียนเมื่อ 12 ธันวาคม 2010 21:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

-จิตที่มาเกิดในร่างกายของหมา เป็นจิตที่มีกุศลจิตที่เกิดมาเป็นมนุษย์ เพราะฉนั้นจิตที่เกิดมาเป็นมนุษย์จึงต้องรักษาจิตที่เป็นมนุษย์ไว้และทำให้จิตสูงกว่าจิตของมนุษย์ (เทวดาและพรหม) จึงจะถือได้ว่าไม่เสียทีที่เกิดในภพมนุษย์

-ยินดีด้วยครับที่สามารถพิจารณาและเข้าใจสิ่งที่ทำให้จิตไม่ตกอยู่ในโทสะได้

ขอโทษด้วยครับ ตก ในข้อความที่ว่า "เป็นจิตที่มีกุศลจิตน้อยกว่าจิตที่เกิดมาเป็นมนุษย์"

ขอบคุณค่ะ สงสัย อ. chet หวังจะเป็นพรหม แน่เลย

สวัสดีค่ะ อ่านแล้วจินตนาการตามจำเลยที่วิ่งกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศ ตอนคุณ meepole เดินออกมาจากบ้านพวกเขาคงกำลังปรึกษากันว่าจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไรกันดี แต่พอได้ยินเสียงขึงขังออกมาจึงขอไปตั้งหลักก่อน ว่าไปแล้วเขาก็สามัคคีกันดีนะคะทำให้จับมือใครดมไม่ได้ มีพวกเขาอยู่ในบ้านก็ดีค่ะช่วยฝึกตัวเราเองได้ ที่บ้านมีแมวสองตัวเวลาเขาทำบ้านเลอะทีไร ถึงบ้านเราก็ต้องทำความสะอาดทุกที บางทีก็ถามว่าใครทำไม่เห็นมาช่วยเลย พอหันไปมองเขานั่งทำตาแป๋ว ไม่รู้ไม่ชี้ ความเป็นตัวเขา บวกความรักที่เรามี เราก็ต้องทำความสะอาดต่อไป ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ว่าแต่ว่าถ้าเราให้อภัยทุกคนได้เหมือนที่เราให้อภัยเจ้าตัวสี่ขาในบ้านได้ ไม่ว่าคนสองขาจะมาทำอะไรให้เรา จะดีมากค่ะ

"สัตว์ใช้สัญชาตญาณในการดำเนินชีวิต แต่คนต้องใช้ปัญญาและมโนธรรมในการดำเนินชีวิตจึงจะอยู่อย่างเป็นสุข เหนือทุกข์"

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ ผอ.บวร

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท