การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา
สถานศึกษาสามารถใช้อินเทอร์เน็ตในการจัดการเรียนการสอนได้ ทั้งในชั้นเรียนปกติ การศึกษาทางไกล ทั้งการศึกษาในระบบและนอกระบบโรงเรียน
การใช้อินเทอร์เน็ตในการสอนในชั้นเรียนปกติ จะเป็นการสอนโดยตรง หรือเป็นการใช้สอนเสริมการสอนระบบปกติ โดยการทบทวนเนื้อหาจากบทเรียนที่ผู้สอนสร้างในเว็บไซด์ หรือผู้สอนอาจสั่งงานให้ค้นหาข้อมูลจากเว็บไซด์ต่าง ๆ จากการพูดคุยระหว่างผู้เรียนในห้องสนทนา (Chat room) จากการเรียนโดยการใช้ e-mail เป็นต้น แต่โดยทั่วไปแล้วการใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา มีดังนี้
1. ส่งเสริมการเชื่อมต่อสื่อสารกับโลกภายนอก อินเทอร์เน็ตทำให้โลกแคบลงไม่ว่าคนจะไปอยู่ส่วนไหนของโลกก็สามารถติดต่อแลกเปลี่ยนเรื่องราวและประสบการณ์ต่าง ๆ กับโลกภายนอกได้แม้จะต่างเวลา สถานที่ และวัฒนธรรมห้องเรียน ครูสมัยก่อนสามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้เหมือนกันแต่จะมีปัญหาเรื่องเวลาและสถานที่ ปัจจุบันนี้ อินเทอร์เน็ตทำให้ครูและนักเรียนสามารถติดต่อหรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักเรียนหรือครูที่อยู่ในส่วนอื่น ๆ ของโลกได้โดยไม่มีอุปสรรคเรื่องเวลา สถานที่ และวัฒนธรรม
2. ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม ปัจจุบันนักวิจัยทางการศึกษา ครู และผู้กำหนดนโยบายเชื่อว่านักเรียนเรียนรู้โดยผ่านการปฏิสัมพันธ์สังคม (Social interaction) ดังนั้นสถานศึกษาจึงควรให้นักเรียนได้เรียนรู้ร่วมกันโดยให้ทำงานเป็นทีม ซึ่งอาจให้จับคู่กันเป็นทีมตั้งแต่ 2 คน ขึ้นไป หรือมากกว่าก็ได้ แล้วให้ศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ จากอินเทอร์เน็ต สถานศึกษาสามารถนำรายงานหรือผลงานที่นักเรียนสร้างขึ้นไปเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตได้ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
3. ส่งเสริมการทำความเข้าใจในเนื้อหาที่ยากแก่การมองเห็น ตัวแบบ (Model) เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้สำหรับรายวิชาต่าง ๆ ในระดับต่าง ๆ เพื่อให้มีประสิทธิภาพ ตัวแบบทำให้นักเรียนมองเห็นแนวคิดเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ อย่างมีความหมาย ตัวอย่างเช่น ตัวแบบเกี่ยวกับการยึดเกาะระหว่างโมเลกุลของสารที่นักเรียนไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ แต่คอมพิวเตอร์จะสามารถจำลองตัวแบบการเกาะยึดระหว่างโมเลกุลให้นักเรียนมองเห็นภาพได้ หรือในทางการแพทย์ สามารถจำลองตัวแบบการไหลเวียนของโลหิตภายในร่างกายออกมาให้เห็นได้ เนื่องจากนักศึกษาแพทย์ไม่สามารถที่จะเห็นของจริงได้จากการค้นคว้า นอกจากนี้ในการเปลี่ยนแปลงของอากาศก็สามารถทำตัวแบบออกมาให้เห็นได้เช่นเดียวกัน
การใช้ตัวแบบที่ดีคือทำให้นักเรียนเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น เพราะตัวแบบจะทำให้นักเรียนสามารถมองเห็นได้หลายแง่หลายมุม ซึ่งถ้าเทียบกับการใช้อุปกรณ์แบบเก่า ๆ แล้วจะแตกต่างกันมาก และบางเรื่องในบางวิชาหากจะใช้วิธีการแบบเก่า ๆ มาทำก็ไม่สามารถจะทำได้ นอกจากนี้ เว็บจะมีแหล่งข้อมูลต่าง ๆ จำนวนมากที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างและแสดงผลที่นักเรียนสามารถจะเรียกออกมาดูได้ในชั้นเรียนหรือที่บ้าน
4. ส่งเสริมการค้นคว้าวิจัย ก่อนที่จะมีการใช้อินเทอร์เน็ต กระบวนการค้นคว้าวิจัยซึ่งเป็นที่ยอมรับและใช้กันอยู่โดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับงานห้องสมุด ครูและนักเรียนสามารถใช้บัตรหัวเรื่อง หรือชื่อเรื่อง หรืออื่น ๆ ที่ห้องสมุดใช้ ในการค้นหาข้อมูลไม่ว่าจะเป็นระบบ Dewey หรือ Library Congress แต่เมื่อมีการใช้อินเทอร์เน็ต อินเทอร์เน็ตกลายเป็นแหล่งข้อมูลมหาศาลที่ช่วยทำให้นักวิจัยซึ่งเคยใช้วิธีการเดิมในห้องเรียนสามารถลดเวลาในการค้นคว้าได้มาก ทั้งนี้เพราะมีเครื่องมือใหม่ ๆ ในการค้นหาข้อมูลเพิ่มขึ้น นอกจากข้อมูลต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้ว ยังมีกลุ่มอภิปรายในเรื่องต่าง ๆ อีกมาก ถ้านักวิจัยมีความสนใจในเรื่องใดก็สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกับกลุ่มนั้นได้ ปัญหาในการค้นคว้าของนักวิจัยที่เกิดขึ้นก็คือการเรียนรู้การใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการค้นหา
ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของอินเทอร์เน็ตก็คือ สามารถนำไปใช้เพื่อการนำเสนอผลของการวิจัย และการเผยแพร่งานวิจัยออกไปให้แพร่หลายหลังจากการวิจัยเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่เดิมก่อนที่จะมีอินเทอร์เน็ตนั้นทำได้ยากเพราะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่ปัจจุบันการนำเสนอผลของการวิจัยสามารถทำได้ง่ายมากและเสียค่าใช้จ่ายน้อย
นอกจากการใช้อินเทอร์เน็ตในฐานะเป็นแห่งข้อมูลแล้ว ยังสามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้อีกด้วย ซึ่งมีวิธีการง่าย ๆ คือ หลังจากที่ผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถามเสร็จเรียบร้อยแล้วก็สร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เพื่อนำคำถามเหล่านั้นไปวางไว้ในอินเทอร์เน็ต แล้วให้ผู้ตอบตอบแบบสอบถามเหล่านั้นทางอินเทอร์เน็ตได้เลย ลักษณะการเก็บรวบรวมข้อมูลแบบนี้ปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้กันมากโดยเฉพาะการวิจัยทางด้านการตลาด
5. ส่งเสริมการทัศนศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์ การไปทัศนศึกษาเป็นวิธีหนึ่งที่ครูสามารถนำไปใช้ประกอบการเรียนการสอนในเรื่องต่าง ๆ ได้ แต่โดยปกติแล้วการไปทัศนศึกษามีข้อจำกัดคือ ทำให้เสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย ยากต่อการควบคุมนักเรียนหากกลุ่มนักเรียนที่ไปทัศนศึกษามีจำนวนมาก นอกจากนั้นยังเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินทาง และหากสถานที่ที่จะไปทัศนศึกษานั้นอยู่ห่างไกลจากบ้านของนักเรียนมาก เช่น อยู่ในต่างประเทศก็จะยิ่งทำให้การเดินทางไปทัศนศึกษามีความยากลำบากมากขึ้น
แต่ด้วยความสามารถของอินเทอร์เน็ต โรงเรียนสามารถให้นักเรียนไปทัศนศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ การทัศนศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์ คือ การศึกษาที่นักเรียนและครูกระทำผ่านทางอินเทอร์เน็ตโดยการใช้คอมพิวเตอร์ ข้อมูลทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับพิพิธภัณฑ์หรือประกาศต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลทางธุรกิจในท้องถิ่น จะถูกเรียกขึ้นมาแสดงบนจอภาพเพื่อให้นักเรียนได้ศึกษาพร้อมไปกับการอธิบายเพิ่มเติมของครู
การทัศนศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์ มีลักษณะหลายอย่างเช่นเดียวกับการไปทัศนศึกษาปกติ แต่มีข้อดีกว่าคือนักเรียนสามารถที่จะศึกษาข้อมูลบางอย่างได้ซึ่งถ้าให้นักเรียนไปทัศนศึกษาปกติจะไม่สามารถศึกษาได้ ในการสอนโดยการใช้ทัศนศึกษาอิเล็กทรอนิกส์นั้น ครูต้องมีการวางแผนการสอนล่วงหน้าว่าจะให้นักเรียนเรียนรู้เรื่องใด และจะติดตามผลโดยวิธีใดหลังจากทัศนศึกษาแล้ว
การใช้วิธีทัศนศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยทำให้นักเรียนมีโอกาสติดต่อกันในลักษณะเผชิญหน้าผ่านจอภาพกับบุคคลในสถานการณ์จริง ๆ ได้โดยใช้ระบบ Video-conference โดยเครื่องมือนี้นักเรียนสามารถที่จะพูดคุยกับบุคคลต่าง ๆ ได้ทั่วโลก
ข้อได้เปรียบของการทัศนศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์อีกประการหนึ่งก็คือ ครูและนักเรียนไม่ต้องพะวงเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ เช่น อากาศ การเดินทาง ข้อจำกัดของการทัศนศึกษาทางอิเล็กทรอนิกส์ จำนวนคอมพิวเตอร์และความเร็วในการสื่อสารข้อมูล รวมถึงอุปกรณ์เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์อื่น ๆ
6. ส่งเสริมการเผยแพร่ผลงาน การเผยแพร่ข้อมูลทางเว็บสามารถทำได้ง่ายมากเพียงแค่ครูและนักเรียนฝึกการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปที่จะนำเสนอข้อมูลบนเว็บเท่านั้น ซึ่งก็ทำได้ไม่ยาก ปัจจุบันครูในประเทศไทยเริ่ใช้เว็บเป็นสื่อในการเผยแพร่ผลงานของนักเรียนมากขึ้นเพราะนอกจากจะทำได้ง่ายและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อยกว่ากระบวนการเผยแพร่งานในระบบปกติ แล้วยังสามารถได้รับข้อมูลย้อนกลับจากผู้ค้นคว้าอีกด้วย
สิ่งที่ต้องระวังในการเผยแพร่งานก็คือ จะต้องมีการควบคุมอย่างรัดกุมโดยจัดให้มีผู้ควบคุมซึ่งอาจจะเป็นครู หรือคณะกรรมการที่ประกอบด้วยนักเรียนและให้ครูเป็นที่ปรึกษา สิ่งที่ต้องควบคุมได้แก่การดูแลรูปแบบของการนำเสนอและเนื้อหาของการนำเสนอ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งนำเสนอข้อมูลที่อาจทำความเสื่อมเสียมาสู่สถานศึกษาได้
การเผยแพร่ผลงานสามารถทำได้ในลักษณะวารสารออนไลน์ ซึ่งอาจจะเป็นวารสารของโรงเรียนหรือของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก็ได้ นอกจากนี้ยังอาจจะเป็นลักษณะของกลุ่มสนใจก็ได้
7. ส่งเสริมความสามารถเฉพาะบุคคล เนื่องจากนักเรียนแต่ละคนมีความแตกต่างกันและมาจากสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงมีความสนใจและความต้องการที่แตกต่างกันด้วย ครูจะต้องพยายามพัฒนาหลักสูตรเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านั้น แม้จะเป็นการยากที่ครูจะทำหลักสูตรหรือสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่เด็กตามที่เด็กทุกคนต้องการ แต่การพัฒนาให้เด็กในฐานะผู้เรียนได้รู้จักตนเองว่าเป็นใคร และมีความต้องการในเรื่องใดก็สามารถนำไปสู่การตอบสนองความต้องการของเด็กได้
8. ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับชุมชน ครู ผู้ปกครอง และชุมชนจะต้องติดต่อสื่อสารกันอยู่เสมอ อินเทอร์เน็ตจะช่วยให้ครูฝ่าอุปสรรคในการติดต่อระหว่างโรงเรียนกับชุมชน เทคโนโลยีทางเว็บทำให้ครูสามารถจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมการเรียนการสอนและหลักสูตรเพื่อนำเสนอบนเว็บได้ สมาชิกของชุมชนทุกคนสามารถที่จะได้ประโยชน์จากข้อมูลดังกล่าว นักเรียนสามารถเรียกใช้ข้อมูลที่ตนต้องการเชื่อมโครงงานต่าง ๆ ในรายวิชาที่เรียน ผู้ปกครองสามารถเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับงานของโรงเรียนได้เป็นวัน ๆ ส่วนสมาชิกในชุมชนที่ไม่มีบุตรก็จะได้รับทราบเกี่ยวกับกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆภายในโรงเรียน
9. การพัฒนาทางด้านวิชาการของครู ปัจจุบันครูจำนวนมากยังขาดความรู้ด้านเทคโนโลยี การนำอินเทอร์เน็ตมาใช้ในการเรียนการสอนนั้นจึงไม่ใช่เฉพาะนักเรียนเท่านั้นที่เป็นผู้เรียนแต่ครูก็เป็นผู้เรียนด้วย อินเทอร์เน็ตช่วยให้ครูมีประสบการณ์มากขึ้น โดยครูสามารถที่จะติดต่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับครู ๆ คนอื่น ทำให้ครูได้เรียนรู้วิธีการสอนใหม่ ๆ และสะท้อนให้เห็นถึงวิธีการสอนของตัวครูเอง สำหรับครูจำนวนมากแล้วการใช้อินเทอร์เน็ตหมายถึงการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และสิ่งที่ครูไม่เคยรู้มาก่อน การพัฒนาบุคลากรและการพัฒนาวิชาชีพของครูสามารถได้มาจากประสบการณ์เหล่านี้ เป็นการสร้างโอกาสใหม่ ๆ สำหรับกระบวนการเรียนรู้ซึ่งมีอยู่มากมายในอินเทอร์เน็ต
จากที่กล่าวมาทำให้สรุปได้ว่า ครู นักเรียนหรือผู้สนใจสามารถเข้าไปค้นคว้าหาความรู้มากมายได้จากแหล่งข้อมูลขนาดมหึมาบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งเว็บไซต์บางแห่งออกแบบมาเพื่อการศึกษาโดยเฉพาะ กล่าวคือ มีเนื้อหาและแบบฝึกหัดเสริมบทเรียน มีครูผู้เชี่ยวชาญมาคอยตอบข้อซักถามในหัวข้อทางด้านการเรียน ครู นักเรียนและผู้ปกครองสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างสะดวก อินเทอร์เน็ตช่วยเปิดโลกการเรียนรู้ไม่ให้จำกัดอยู่ที่ห้องเรียนและตำราเรียน
ไม่มีความเห็น