บทความเรื่องที่ ๓
คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านบทความและทำแบบฝึกที่ ๗ – ๘
เรื่อง รักผูกพัน วันครอบครัว
โดย จินดารัตน์ สินเจริญกุล
๑๓ เมษายน วันครอบครัว เป็นโอกาสสำคัญที่สมาชิกทุกคนต่างเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนามาพบปะกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และได้มาเยี่ยมเยือนกราบไหว้บุพการีและญาติผู้ใหญ่ผู้สูงอายุที่ตนเคารพนับถือ ซึ่งยึดถือเป็นวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามอย่างหนึ่งของไทยที่สืบทอดมาช้านาน
การที่ลูกหลานมากันอย่างพร้อมหน้าเพื่อแสดงความเคารพรัก ความห่วงใยและเอาใจใส่ต่อผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นบุพการีหรือผู้มีพระคุณ เป็นสิ่งที่มีความหมายอย่างยิ่ง นับเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางใจต่อผู้สูงอายุ มากกว่าการให้สิ่งของใด ๆ เพราะเป็นการแสดงให้เห็นว่าลูกหลานยังคงให้ความสำคัญแก่ท่าน สิ่งนี้นำมาซึ่งความสุขความปลาบปลื้มใจเป็นเสมือนน้ำทิพย์ที่หล่อเลี้ยงให้ผู้สูงอายุมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับสังขารที่เสื่อมถอยเพื่ออยู่ดูความเจริญก้าวหน้าของลูกหลาน
ปกติคนเราเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ สุขภาพและกำลังวังชาจะเสื่อมถอย การเดินเหินไปมา ก็ไม่สะดวกดังใจ มักห่างเหินจากสังคมภายนอกและเพื่อนๆ ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่แต่บ้าน หากไม่มีงานอดิเรก หรือไม่มีผู้ดูแลเอาใจใส่ใกล้ชิด จะรู้สึกเหงาและด้อยคุณค่า การที่ลูกหลานมากันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เพื่อแสดงออกซึ่งความระลึกถึง ความเคารพยกย่องเอาใจใส่ เป็นการแสดงความกตัญญูรู้คุณ ผู้เป็นลูกหลานควรใช้โอกาสนี้แสดงให้ผู้สูงอายุเห็นว่า ถึงท่านจะแก่ชรา แต่ก็ยังคงมีความสำคัญ เป็นผู้ชี้แนะทางที่ถูกที่ควรในการดำเนินชีวิตให้แก่ลูกหลานได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังควรจะเชื่อมความสัมพันธ์ให้เด็ก ๆ มีโอกาสใกล้ชิดปู่ ย่า ตา ยาย และสอนให้เขามีความผูกพันเข้าใจ และซาบซึ้งถึงพระคุณของท่านเช่นเดียวกับเราด้วย ความมีชีวิตชีวา และความรักใคร่สนิทสนมของเด็ก ๆ ซึ่งผู้เป็นลูกหลานเปรียบเสมือนยาอายุวัฒนะ ที่สร้างความชุ่มฉ่ำใจให้แก่ผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี
ความจริงแล้ว การแสดงความห่วงใย และความเอาใจใส่ต่อผู้สูงอายุ ไม่ใช่จะพึงกระทำเฉพาะวันใดวันหนึ่งเท่านั้น แต่ควรจะหมั่นคอยไต่ถามความเป็นอยู่ สารทุกข์สุขดิบของท่าน อยู่เสมอและต้องให้ท่านมีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย เพราะเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่สำคัญยิ่งของลูกหลานที่มีโอกาสอยู่ปรนนิบัติดูแลใกล้ชิดผู้สูงอายุ ก็ควรจะภูมิใจ แม้ว่าจะเป็นงานที่ต้องเสียสละและอดทนอย่างยิ่ง การที่เราจะพยายามทำความเข้าใจถึงความต้องการ และภาวะ การเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของผู้สูงอายุ จะช่วยให้การดูแลและใกล้ชิดท่าน ทำได้อย่าง มีความสุข และไม่เบื่อหน่าย การที่ผู้สูงอายุช่วยเหลือตนเองได้น้อยลง กลับกลายเป็นเหมือนเด็กๆ ที่ไม่มีเหตุผล น้อยใจง่ายและติดอยู่กับความคิดเดิมๆ ที่แตกต่างจากเรามาก การเข้าใจธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงตามวัย จะช่วยให้เราเข้าใจท่านและหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความขัดแย้งกับท่าน พูดด้วยวาจาไพเราะ ไม่รุนแรง ผู้สูงอายุมักชอบที่จะเล่าเรื่องในอดีตให้ลูกหลานฟังซึ่งซ้ำซากจนบางครั้งเราอาจจะรู้สึกเบื่อหน่าย แต่หากยอมรับว่าโอกาสที่จะได้รับฟังท่านมีเหลือเพียงไม่นานนัก เราก็จะทำใจ และเปิดใจที่จะรับฟังด้วยความสนใจได้รวมทั้ง ร่วม บทสนทนาด้วยบ้าง ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีอารมณ์เบิกบานและมีความสุขมากที่ลูกหลานให้ความสนใจ
พึงปฏิบัติต่อพ่อแม่ บุพการี ผู้สูงอายุ ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อท่าน เพื่อภายภาคหน้าลูกหลานของเราเองก็จะได้มีแบบอย่างที่ดีในการยึดถือปฏิบัติต่อเรา ให้เราได้ชื่นใจในช่วงบั้นปลายของชีวิต เช่นเดียวกัน
(ที่มา : สนิท สัตโยภาส ภาษาไทยเพื่อการสื่อสารและสืบค้น)
เป็นกำลังใจให้ครับ..สู้ ๆ ครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ
บทความนี้เนื้อหาดีมากค่ะ เหมาะแก่การนำมาประกอบการเรียนการสอน สู้ๆค่ะ
บทความนี้เนื้อหาดีมากค่ะ เหมาะแก่การนำมาประกอบการเรียนการสอน สู้ๆค่ะ