การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ทางการศึกษาที่สำคัญ 7 ประการ
1. จากการศึกษาในระบบโรงเรียน ไปสู่การศึกษาตลอดชีวิต (อย่าคาดหวังว่าจะต้องสอนทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อชีวิตนักเรียน)
2. จากการสอน ไปสู่การเรียนรู้ (พัฒนาสมรรถภาพเพื่อนำไปสู่หลักสูตรที่ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้)
3. จากความพยายามที่จะให้เกิดความเสมอภาคไปสู่คุณภาพของการศึกษา จากการจัดการศึกษาที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เก่งที่สุดไปสู่การจัดการศึกษาที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน (ความต้องการเร่งด่วนก็คือ การปรับปรุงคุณภาพของการสอนและคุณภาพของครู)
4. จากการเน้นที่ปัจจัยเรื่องเงินงบประมาณและวัสดุครุภัณฑ์ ไปสู่กระบวนการและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทั้งคุณภาพและปริมาณ
5. จากหลักสูตรความรู้เดียวๆในแนวลึกไปสู่หลักสูตรแบบบูรณาการและการเรียนรู้แบบสหวิทยาการ
6. จากการประเมินผลปริมาณของการเรียนรู้ความรู้ความจำ เพียงอย่างเดียวไปสู่การประเมินผลทั้งคุณภาพและปริมาณของทุกมิติของผลลัพธ์การเรียนรู้ ได้แก่ด้านความรู้ความสามารถ เจตคติ ค่านิยม และทางด้านร่างกาย
7. จากการประเมินผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนแต่ละบุคคลไปสู่การประเมินความสำเร็จของโรงเรียนหรือของระบบ
การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ ทำให้จุดหมายของการศึกษาเปลี่ยนจาก การศึกษาที่เป็นเครื่องมือในการผลิต ไปเป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ในทุกด้านและมีบุคลิกภาพดี และจากการพัฒนาการในส่วนของสติปัญญาของคน ไปเป็นการพัฒนาเพื่อการเติมเต็มในทุกส่วนของความสามารถพิเศษและศักยภาพที่อยู่ภายในของทุกคน
ชื่นชม และรู้สึกเป็นสุขที่ได้อ่านบันทึกของอาจารย์ ถ้าปรับกระบวนทัศน์ครูไทยให้เป็นเหมือนอาจารย์ ได้ (โดยเฉพาะบรรดาผู้มีอำนาจทางการศึกษาทั้งหลาย)การศึกษาของไทยคงไม่ไร้ทิศทางเหมือนทุกวันนี้ ขอบคุณที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ
ได้นำ blog ของอาจารย์ไปโชว์ในการประชุมปฏิบัติการที่อุดร และสงขลาแล้วค่ะ เป็นตัวอย่างที่ดีนะคะ ขณะนี้ดิฉันก็เริ่ม blog ของตนเองบ้างแล้วค่ะ แต่ยัง
ไม่ได้ใส่อะไรเข้าไปมาก
วันนี้คณะนักวิจัยจะประชุมกันที่ สกศ. เพื่อสรุปรายงานการจัดประชุมปฏิบัติการทีมแกนนำการจัดการความรู้ และจะได้จัดทำตารางเยี่ยม สพท.และโรงเรียน
website ของโครงการวิจัยจะเปิดตัววันแม่ค่ะ
กระบวนการเรียนรู้ที่สู้อุส่าห์บรรจุไว้ในหลักสูตรทุกระดับมุ่งหวังไว้ให้แต่ผู้เรียน..ต้องรู้...ยกเว้นผู้มีอำนาจทางการศึกษา