วาสนาสร้างกันได้ โดยอาจารย์ไตรพิตรา


วันนี้คืออดีตของพรุ่งนี้ และพรุ่งนี้ก็คืออนาคตของวันนี้

ovember 3, 2005 4:57 am

โดย ไตรพิตรา วิสิษฐยุทธศาสตร์

 

 

เช้าวันจันทร์ที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๓๖ ดิฉันนั่งแท็กซี่จะไปสนามบินดอนเมือง การจราจรยังไม่ทันจะติด รถแล่นไปเรื่อยๆ นอกจากเสียงเพลงสากลเบาๆจากวิทยุ คนขับได้ทำลายความเงียบ ถามดิฉันว่าจะไปประเทศไหน ดิฉันตอบว่าจะไปแค่เชียงใหม่นี่เอง และพูดต่อว่าถ้าจะไปต่างประเทศ (อเมริกา) เครื่องบินออกหมดแล้ว จะต้องถึงสนามบินก่อนตีสี่ คนขับแท็กซี่ตอบว่าผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะวาสนาน้อยไม่เคยได้นั่งเครื่องบิน ดิฉันจึงตอบว่าวาสนาสร้างกันได้ แล้วถามต่อว่าโชเฟอร์เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมหรือเปล่า วันนี้คืออดีตของพรุ่งนี้ และพรุ่งนี้ก็คืออนาคตของวันนี้ ผลที่เราได้รับวันนี้มาจากการกระทำของเมื่อวาน อาทิตย์ที่แล้ว เดือนที่แล้ว ปีที่แล้ว หรือชาติที่แล้ว

ถ้าเราไม่พอใจกับสิ่งที่เราได้รับในวันนี้ ก็จงสร้างเหตุเสียใหม่ เพื่ออนาคตจะได้รับผลดีกว่านี้


คราวนี้เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังสร้างเหตุที่ดีหรือไม่ เช่นคนที่เขามาว่าเรา ถ้าเราว่าเขาตอบ เราจะรู้สึกสบายใจ แต่อันที่จริง เราเลวกว่าเขาเสียอีก เลวกว่าสองเท่าด้วย เพราะเราว่าเขาไม่ดีที่พูดเช่นนั้น แต่เรากลับพูดเช่นนั้นเหมือนกัน อันนี้มิใช่เป็นการสร้างวาสนา

วิธีการฝึกก็คือให้มาดูที่ใจ ใจมันจะบีบคั้นกล้ามเนื้อมันจะเกร็ง แต่ถ้าไม่เคยฝึกมาเลยจะไม่ทัน เพราะใจมันไวมาก ก่อนที่จะดูที่ใจได้ ควรจะฝึกทำสมาธิเสียก่อน ด้วยการนั่งเอามือไว้เหนือขอบเข็มขัด หายใจธรรมดา นั่งสบายๆแต่ตัวตรง มือที่สัมผัสท้องนั้นจะรู้สึกอาการพองยุบของท้อง หายใจเข้านับหนึ่ง หายใจออกนับสอง จนกระทั่งได้สิบก็พอ ทำเป็นอุปนิสัยให้ได้ทุกวัน เวลานอนก็ทำได้ มิใช่ว่าหัวถึงหมอนแล้วจะหลับเลย วิธีการก็เช่นกัน เอามือวางบนท้อง ดูอาการเคลื่อนของท้อง พองยุบจนหลับไป

โชเฟอร์ท่าทางสนใจ ดิฉันบอกว่าอันนี้แหละที่จะเป็นการสร้างวาสนา ให้นำความรู้สึกที่ได้จากการนั่งสบายๆ ด้วยการดูพองยุบมาไว้กับตัวเองในทุกอิริยาบถ ความคิดที่จะเกิดขึ้นท่ามกลางความสบายนี้จะช่วยแก้ปัญหาให้ เพราะเวลามีความไม่สบายใจ เกิดอาการบีบคั้นหัวใจ ถ้าพูดและทำอะไรออกมานั่นคือได้สร้างเหตุที่ไม่ดี ผลที่เราจะได้รับในวันพรุ่งนี้ หรืออนาคต คือความไม่สบายใจ เมื่อผลเกิดมาสาวหาสาเหตุไม่พบ เราก็น้อยใจว่าเราไม่มีวาสนา

โชเฟอร์ได้เล่าถึงความอับโชคของตัวเองหลายครั้งว่าจะได้ดี ก็มีอันเป็นไป คนที่รับจะช่วยเรื่องต่างๆถึงเวลาก็เปลี่ยนแปลง ดิฉันจึงบอกว่า นั่นเกิดจากในอดีตชาติเวลาคนทำความดี โชเฟอร์ก็ไปขัดความดีของคนอื่น ฉะนั้นเมื่อเห็นเจ้าหนี (กรรมเก่ามาทวง) ก็อย่าไปมีปฏิกิริยาโต้ตอบ การมีปฏิกิริยาโต้ตอบ เป็นการสร้างเหตุใหม่ ที่จะทำให้ผลลัพธ์ไม่ดี

ดิฉันได้พูดต่อว่า เวลารถติดก็ทำได้ เอามือไว้ที่ท้อง ทำความรู้สึกกับอาการพองยุบสบายๆ เมื่อพองยุบชัด ก็ไม่ต้องเอามือจับก็ได้ โชเฟอร์จึงถามดิฉันว่า การทำทานเป็นอย่างไร ดีไหม มีคนว่าผมจนเพราะไม่รู้จักทำทาน ดิฉันตอบว่า ใช่ แต่ว่า ถ้าทำบุญทำทานแล้วเบียดเบียนตัวเอง เงินไม่พอใช้อยู่แล้ว ก็จะยิ่งทำให้ไม่สบายใจใหญ่ ฉะนั้นให้ฝึกทำสมาธิก่อน แล้วจะมีความนึกคิดบอกตัวเองว่า เมื่อไหร่ควรจะทำบุญทำทาน

ดิฉันอธิบายต่อว่า คนเราทำไมจึงเกิดมาไม่เหมือนกัน เพราะในอดีตชาติสร้างเหตุมาไม่เหมือนกัน ปัจจุบันก็กำลังสร้างเหตุมาไม่เหมือนกัน ผลที่ได้รับจึงทำให้คนมีสภาพความเป็นอยู่และสติปัญญาต่างกัน

เมื่อเกิดมาเป็นคนพิการหรือคนสวย ก็จะมีสภาพอย่างนั้นไปตลอดชาติ ชาตินี้สวยถ้าไม่สร้างเหตุที่ดีต่อ ชาติหน้าคงจะไม่สวยเช่นนี้ เหตุที่จะทำให้สวยคือไม่ละเมิดศีล

 


เหตุที่จะทำให้มีสติปัญญาดี คือ การฝึกสมาธิ

เหตุที่จะทำให้มีเงินใช้ไม่ขาดมือ คือ การทำบุญทำทาน

ฉะนั้นวาสนาบารมีจึงสร้างกันได้ โชเฟอร์บอกว่า แล้วผมจะพยายาม

14/02/47

 


ที่มา  ธรรมภาคภาษาไทยของอาจารย์ไตรพิตรา

ได้รับอนุญาตอาจารย์แล้ว

หมายเลขบันทึก: 410013เขียนเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2010 10:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม 2012 22:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท