แม้ลมมิอาจหวน.....หากอบอวลรอยคิดถึง


ขอบคุณภาพจาก http://www.212cafe.com/freewebboard/user_board/chomthailand/picture/00436_25.jpg

            “พี่ ฝากบอกเขาด้วยนะ  ดูแลตัวเองบ้าง”   เขาเดินกลับมาหลังจากการสนทนาทักทายตามประสาผู้ร่วมงานกับ  หญิงสาวรุ่นพี่ผู้เคยเป็นสักขีพยานรักในครั้งก่อน   นัยน์ตายังเปี่ยมไปด้วยความจริงใจ ห่วงใยสะท้อนให้เห็น  สีหน้าปิติอิ่มเอม   “เขาค่อนข้างดื้อ เตือนไม่ค่อยจะฟัง  พี่เองเจอกันก็เตือนทุกครั้ง ”  คู่สนทนารุ่นพี่เอ่ยตอบ  เขาหยุดนิ่ง เหมือนคิดอะไรสักพัก  ก็เอ่ยต่อ  “ก่อนนี้พบกันทุกครั้ง  ผมจะเตือนเขาด้วยถ้อยคำที่แรงๆ  เพื่อกระตุ้นเขา  แต่ไม่เชื่อกันบ้างเลย”  เขาพูดพร้อมกับยิ้มให้คู่สนทนาด้วยใบหน้าแห้ง ๆ คล้ายกับผู้สำนึกผิด  “ค่ะ แล้วพี่จะเตือนให้ และบอกว่ามีใครคนหนึ่งเป็นห่วง....”  หญิงสาวยิ้ม  เอ่ยก่อนจากกัน
 
                                    ...............................................
 
            เสียงหนุ่มสาวที่มาร่วมกิจกรรมส่งเสียงหยอกเย้ากันอย่างสนุกสนาน   ทุกคนมีความสุขที่จะได้ร่วมกันสร้างโลกสีเขียวในครั้งนี้   แต่ละคนเป็นตัวแทนจากหลายองค์กรที่สมัครเป็นตัวแทนมาร่วมทำกิจกรรม  เพียงเวลาไม่นานทุกคนก็สนิทสนมกลมเกลียวกันเหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน  “อ้าว ! น้อง ๆ ดึงถุงปลาสติกออกก่อนสิครับ  เอา ดูนี่ ทำอย่างนี้ก่อนนะครับ” สิ้นเสียงพี่ผู้เป็นหัวหน้าโครงการ  ทุกคนหันมาดูหน้าน้องที่ถูกกล่าวถึง   หญิงสาวหน้าแดงซ่าน   อายที่พี่พูดดังและทุกคนต่างหันมา   ใครบอกว่าเธอไม่รู้ล่ะ  เธอรู้  แต่เธอเพลินกับการดูการทำงานของพี่ชายคนนี้ต่างหาก  จนกระทั่งลืมดึงถุงออก  หลุมอื่นๆ เธอก็ทำมาถูกต้องนี่นา  “โฮ้ย! แล้วนี่ยิ่งพี่เขามาสาธิตใกล้ ๆ อีก  ฉันจะปลูกได้มั้ยนี่?”  เธอคิดหวั่นไหวในใจ
 
           
            “กิจกรรมต่อไปเป็นกิจกรรมนันทนาการ  เล่นแชร์บอล สานสัมพันธ์  เชิญตัวแทนจับฉลากแบ่งฝ่ายนะครับ ใครจะเชียร์ ใครจะลงแข่งเชิญครับ”  พี่คนเดิมนั่นล่ะเป็นคนดำเนินการ   “ยีน  น้องเด็กที่สุดลงแข่งด้วยนะ  สู้ๆ”  “ค่ะ สู้ๆ”  หญิงสาวไม่อยากบอกเลยว่า  กิจกรรมไหนมีพี่สุดหล่ออยู่ด้วย  ยีนยินดีทุกกิจกรรม
           
            เสียงเป่านกหวีดเป่า ปรี๊ด  การโยนการแย่งก็เริ่มชุลมุน   ต่างฝ่ายต่างแย่งรับลูก ขว้างลูก  เสียงเชียร์ดังสนั่น ลุ้นทุกทีที่มีโอกาสโยนบอล   ฝ่ายถือตะกร้าก็เอียงตัวเอียงมือไปตามทิศทางของลูกบอล  หลายครั้งที่ผู้ถือตะกร้า หล่นลงมาจากเก้าอี้   ยีนตั้งใจจะแสดงฝีมือให้พี่ประทับใจให้ได้กระโดดยื้อแย่งเต็มที่ลูกบอลหลุดมือ  ยีนพุ่งตัวตามไป  นั่นไง !เห็นแล้วลูกบอลกลิ้งไป   ยีนหลับตาพุ่งไปเต็มที่ พลั่ก ! เสียงหัวคนปะทะกับสิ่งที่แข็งแรงเช่นกัน  “โอ๊ย! ว้าย!”  เสียงดังไล่ติดตามมา    โอ๊ยก็คือเสียงของพี่สุดหล่อนั่นเอง  ส่วนว้าย! ไม่ใช่ใครที่ไหน  เสียงของยีนหญิงสาวแสนเฉิ่ม  กองเชียร์หัวเราะชี้มือชี้ไม้ด้วยความตลกขบขัน  เพราะภาพสุดท้ายเมื่อทุกอย่างสงบคือสาวยีนหน้าคว่ำอยู่บนรองเท้าของหัวหน้าโครงการ   ชายหนุ่มช่วยยกตัวหญิงสาวขึ้นมาปัดฝุ่นให้  หญิงสาวรู้จักสัจธรรม “ทั้งเจ็บและอาย”  วันนี้นี่เอง   และนี่คือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของทั้งสอง
 
            ทุกๆ เย็นหลังเลิกงาน  ชาวบ้านในแถบนี้จะเห็นชายหนุ่มปั่นจักรยานซ้อนสาวน้อย  และเพื่อนๆ อีกกลุ่มหนึ่งมาชมดอกหญ้าสองข้างทาง   บางวันก็เก็บกระเจี๊ยบป่าไปทำไวน์แบบลูกทุ่ง   ยามเย็นแสงอาทิตย์ที่สะท้อนผ่านดงหญ้าขจรจบสวยยิ่งนัก   มีมนตร์ขลังพอที่จะสร้างความประทับใจให้กับหนุ่มสาว    เพื่อนๆ กลุ่มที่มาด้วยลุ้นความรักของทั้งสอง  ด้วยการนำดอกหญ้ามาร้อยเป็นมงกุฎดอกไม้ให้ชายหนุ่มมอบให้หญิงสาว  พร้อมเสียงตะโกน “คุกเข่า ๆ บอกรักเลย”  เป็นความรักที่บริสุทธิ์ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเพื่อน
 
            “ไปหาหมอ  เป็นอย่างไรบ้าง”  เขารีบมาทักเธอ  ทันทีที่เธอกลับจากการฟังผลการตรวจชิ้นเนื้อ  เธอมีสีหน้าซีดปากสั่น คลี่ผลการตรวจให้อ่าน “CA 3  หรือ  ไม่เป็นไรหรอก  เดี๋ยวนี้ วิทยาการทันสมัย   เขาเป็นกันเยอะแยะไป”   มีคำปลอบอีกมากมายจากเขาและเพื่อนผู้ร่วมงาน  เมื่อต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล   เขานั่นเองที่เป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด   ก่อนเข้าห้องผ่าตัด  เขาจับมือเธอแนบแก้ม  “ไม่เป็นไรนะ  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  พี่จะอยู่เคียงข้างเสมอ”  และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เขาอยู่เคียงข้างตลอดจนเสร็จสิ้นการรักษา  ไม่ว่าเธอจะอาเจียนเพราะแพ้ยา และผ่ายผอมลงไปตามปริมาณของคีโมที่ฉีดไป   เขายังมาดูแลอย่างเสมอต้นเสมอปลาย  จนกระทั่งเธอหายเป็นปกติ
 
            หลังจากนั้นไม่นานยีนได้รับทราบว่า   รุ่นพี่ที่เป็นมะเร็งเต้านมหลังจากรักษาหายขาดแล้ว  เธอแต่งงานและมีบุตร  พอมีคนที่ ๒ เธอก็เสียชีวิต   และมีข่าวของคนอื่นๆ อีกหลายคนที่หลังจากแต่งงานไปโรคร้ายก็กลับมาอีก  เธอใจเสียมาก  เป้าหมายที่วางไว้เรื่องการแต่งงานถูกปฏิเสธออกไปทุกครั้งที่ชายหนุ่มพูดถึง  “รักกันอย่างนี้ก็พอนะคะ” นั่นคือความรู้สึกของฝ่ายหญิง    ชายหนุ่มก็ได้แต่บอกว่า “ไม่เป็นไร พี่รอได้   ไม่ต้องกังวลถึงพี่  พี่ขอให้น้องดูแลตัวเองให้ดีอย่างเดียวก็พอ”    ส่วนหญิงสาวขอชายหนุ่มเพียงประการเดียวคือ  “หากพี่จะมีรักกับใครก็ตาม  น้องยินดีเพียงแต่ขอให้บอกน้องเป็นคนแรก”  ความรักของทั้งสองดูท่ามั่นคงยิ่งนักไม่น่าจะมีอะไรมาสั่นคลอนได้
 
            “พี่ต้องไปศึกษาต่อนะ  น้องดูแลตัวเองให้ดี พี่จะพยายามลงมาเยี่ยม  โทรศัพท์มาบ่อยๆ”  แม้จะห่วงและกังวล  แต่เพื่อความก้าวหน้าหญิงสาวก็ยินดีกับภารกิจของเขา    หกเดือนแรกเขามาทุกเดือน  จดหมายมาทุกอาทิตย์    โทรศัพท์เกือบทุกวัน  ที่สำคัญจดหมายทุกฉบับเขียนด้วยลายมือและภาษาที่ประณีตบรรจง ยิ่งนัก  ตอนจบของจดหมายทุกฉบับก็คือ
 
                                                ไม่ต้องห่วงพี่นะ    ดูแลตัวเองให้ดี    
                                                 ความสุขของพี่คือน้องปลอดภัย แข็งแรง
                                                            รักและห่วงใย
 
          หลังจากนั้นการมาเยี่ยมเยียน  จดหมาย  และโทรศัพท์ก็เริ่มค่อย ๆ ห่างออกไป  ห่างออกไป  แต่ยังไม่ถึงกับหายเสียทีเดียว     เพื่อนๆ พยายามจะบอกใบ้อะไรสักอย่างหนึ่งแก่หญิงสาว   แต่ทว่าหญิงสาวก็หาได้ระแวงใด ๆ ไม่   จนกระทั่งถึงเวลาจบการศึกษาของเขาแล้ว    เขายังไม่กลับมา    และพยายามวิ่งเต้นย้ายไปทำงานยังสถานที่ที่ศึกษาต่อ 
 
         ทุก ๆ เดือน เพื่อน ๆ กลุ่มเดิมของเธอจะต้องมาพบปะสังสรรค์ ก่อนนี้เขาก็มาร่วมด้วยทุกครั้ง  หลังจากที่เขาเริ่มทิ้งช่วงห่างออกไป   เพิ่งจะครั้งนี้ที่เขามาพร้อมกับกลุ่มเพื่อน ๆ กลุ่มเดิมอีกครั้ง   หญิงสาวได้ยินเพื่อนรุ่นพี่อีกคนพูดว่า “มีอะไรก็พูดเลย” แล้วพวกเขาทิ้งให้เขาและเธออยู่ด้วยกันในห้างสรรพสินค้านั้น   หญิงสาวซึ่งไม่ได้ระแวงสิ่งใดมาก่อน ก็เดินชมสินค้าเครื่องเรือนต่าง ๆ  ซึ่งเธอคิดว่า เธอจะตัดสินใจยอมแต่งงานเสียที  “ตายเป็นตาย” 
 
          “พี่ขอโทษนะ”  เสียงเขาพูดขึ้นและหยุดเงียบ....   “พี่ไม่พร้อมจะแต่งงานกับน้องแล้ว”   หญิงสาวชาไปนิดหนึ่ง น้ำตารื้นขึ้นมาปริ่ม ๆ  เธอพยายามกลืนมันลงไป  แต่มันกลับฝืดยิ่งนัก  เธอพยายามเสแสร้งชมโน่นชมนี่  ทำเป็นปรึกษาโน่นนี่เพื่อปกปิดผู้คนที่เดินขวักไขว่ในมุมสินค้านั้น   นาน...กว่าเธอจะพูดออกมาได้    “มันเริ่มเปลี่ยนไปนานแล้วใช่มั้ย?”    เขาไม่มองหน้า  “พี่สงสารเขา  เขาเป็นม่าย ถูกแฟนทิ้ง ลูกยังเล็ก  เราใกล้ชิดกัน....”  เหตุผลและเรื่องราวที่เขาเล่า    หญิงสาวพยายามประคองตัวเอง  ทำจิตใจเข้มแข็ง   และต้องเข้มแข็งให้ได้  เพราะเขากำลังทำตามสัญญาที่เธอเคยขอไว้   หากมีคนรักใหม่ขอให้บอกเธอเป็นคนแรก     เธอกดความรู้สึกเจ็บปวดไว้   เขาทำตามสัญญาแล้ว    เธอก็ต้องรักษาสัญญานั้น    “ค่ะเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”   หญิงสาวยิ้มให้ ทั้ง ๆ ที่หัวใจเธฮขื่นข้นยิ่งนัก
          
            คืนนั้น  หากใครสามารถมองเห็นเข้าไปในห้องนอนนั้นได้  จะเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังคลี่จดหมายเก่า ๆ ออกมาอ่านทีละฉบับ ๆ  หลายครั้งที่น้ำตาหยดแหมะลงบนจดหมาย   ฉบับที่ ๑ อ่านผ่านไป มันจะถูกพับเก็บตามรอยเดิมแล้วบรรจุลงกล่องที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม   ตามด้วยฉบับต่อ ๆ มา    ภาพถ่ายภาพแล้วภาพเล่าเธอมอง ยิ้มเศร้า ๆ แล้ววางเรียงทับซ้อนกันลงไป    ชิ้นสุดท้ายที่วางซ้อนลงไปคือมงกุฏดอกหญ้าแห้ง  ซึ่งยังคงสภาพให้เห็นว่าครั้งหนึ่งมันเคยมีความสดชื่น   เธอนำเทปกาวพันปิดทับขอบกล่องอีกครั้ง  ราวกับว่าเธอจะไม่เปิดดูมันอีกแล้ว   เธอนำกล่องนั้นไปวางในห้องเก็บของในส่วนที่ลึกที่สุด    กลับมานอนลืมตาโพลงขณะที่ดวงตาบวมเป่ง    เสียงไก่ขันแว่วมาหลายครั้ง  แต่เธอก็หาสามารถข่มตาหลับได้ไม่
 
            “พี่ พี่ .. . ยีนมันขออาสาไปทำงานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นะพี่   ไปห้ามมันหน่อยสิ”  นั่นคือความห่วงใยของเพื่อน  “มันป่วยนะพี่”  เพื่อนและเขาไม่สามารถดึงหญิงสาวไว้ได้อีกเลย   เธอตัดสินใจแล้ว    ขอทำงานเพื่อผู้ขาดโอกาส   แม้ว่าหลังจากเธอไปได้ไม่นาน  เธอก็เป็นเนื้อร้ายอีกครั้งแต่เธอก็ผ่านมันไปได้อีกครั้งเช่นกัน    การทุ่มเทของเธอในภาวะที่ร่างกายอ่อนแอแต่จิตใจเข้มแข็ง  ด้วยปณิธาน  ด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า ทำให้เธอทำงานอย่างมีความสุข เป็นที่รักของผู้ร่วมงานและชาวบ้าน   ขณะที่เขาก็ย้ายกลับมาที่ทำงานเดิม มีครอบครัวอบอุ่น  มีการงานที่ก้าวหน้ามั่นคง 
 
            ทุกครั้งที่เธอกลับมา   จะมีโอกาสพบเขา  ไม่ว่าจะยืนอยู่ห่างไกลแค่ไหน   หากมองกลับไปจะเห็นสายตาเขามองตามเธออยู่เสมอ      เขาจะพยายามหาโอกาสเข้ามาใกล้  ถามข่าวสารทุกข์สุข  มองเธอด้วยความปรารถนาดี    เตือนเธอเรื่องการดูแลตัวเอง  แฝงสายตาที่สำนึกผิด   และทุกครั้งที่เขาพบกับกลุ่มเพื่อน ๆ กลุ่มเดิม เขาก็จะฝากความระลึกถึง ความห่วงใย  "ฝากบอกยีนให้ดูแลตัวเองด้วยนะ"    หญิงสาวยิ้มรับรู้ทุกครั้งและรับมันไว้เป็นกำลังใจเติมเต็มความว่างเปล่า   เขาไม่ได้ห่างหายไปไหน  หากเขายังอยู่ในใจเสมอมา   แม้ว่า.......

 

                                           “แม้ลมมิอาจหวน.....หากอบอวลรอยคิดถึง”

 

 

หมายเลขบันทึก: 409941เขียนเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2010 20:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:17 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)
  • สวัสดีค่ะ
  • บุษราแวะมาเรียนรู้แนวการเขียนของนักเขียนมืออาชีพ  บุษราอ่านแล้วชอบมาก ๆ เลยค่ะ กับรูปแบบ และวิธีการเขียนแบบนี้ ขออนุญาตมาเรียนรู้เพิ่มเติมนะค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

                              

สวัสดีค่ะ หนูบุษ  ป้าก็เขียนไปเรื่อยเปื่อยค่ะ  หากชอบก็เชิญแวะมานะคะ

ขอบคุณค่ะ

สำนวนภาษาเยี่ยมจริงๆครับ นำเสนอเรื่องได้ดี อ่านเรื่องแล้วเห็นภาพชัดเจน

ว่าแต่ ศน.เคยปั่นจักรยานพาสาว ๆ นั่งซ้อนท้ายรึเปล่าล่ะคะ ... รึว่ารุ่นนี้ต้อง ฟอร์จูนเนอร์....

อ่านแล้วเศร้าจัง...สงสารผู้หญิง

ถึงลมหวลก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมันสายเกินไป..

สวัสดีค่ะ คุณkrugui Chutima

    ป้าว่า ไม่หวนเป็นดีที่สุดค่ะ  เพื่อความสงบสุขของชาวโลกค่ะ อิอิ เกี่ยวกันมั้ยนี่

ขอบคุณที่แวะมาค่ะ

มาชื่นชอบ การปรุงแต่งภาษา ที่เห็นภาพชัด ๆ

ขอบคุณค่ะ ผอ. จะพยายามพัฒนาฝีมือค่ะ

สวัสดีค่ะ

เพิ่งสมัครเข้ามาค่ะ พบป้าพธูเป็นคนที่ 2 ขอทำความรู้จักค่ะ

ชอบอ่านงานเขียนค่ะ แบบนี้หรือเปล่าที่เรียกว่า 3 วันจากนารี เป็นอื่น แต่กรณีนี้ ไม่ใช่นารี แต่เป็นบุรุษ

สวัสดีค่ะ หนูดุจดาว  ขอบคุณที่แวะมาค่ะ  ใช่ค่ะ ๓ วันจากนารีเป็นอื่น  เขียนบันทึกบ้างรึยังคะ ป้าจะได้ไปอ่านบ้าง

 

ป้ามีบันทึกใหม่อีกแล้วนะคะ  ที่นี่ค่ะ 

เพียงเพลงรักที่ถักทอ......ก็พออุ่น

สวัสดีค่ะ..

อ่านแล้วประทับใจจังค่ะ

ทั้งพล็อตเรื่องเรียบง่ายแต่กินใจ ทั้งภาษาที่ง่ายๆแต่บรรยายได้มองเห็นภาพชัดเจน...ยอดเยี่ยมค่ะ

สวัสดีค่ะ หนูกิ่งไผ่  ภาพไหนคะที่ประทับใจ

อย่าบอกนะว่าเป็นภาพซ้อนท้ายจักรยาน  กับใครคนหนึ่ง

รุ่นป้าสาว ๆ มีแต่ปั่นจักรยาน นี่ล่ะค่ะ  ปั่นจักรยานจนน่องทู่กันเทียว

ขอบคุณที่แวะมาค่ะ

ยังเลยค่ะ ป้าพธู

หนูงานเยอะน่ะค่ะ ส่วนใหญ่งานก็จะเครียด งานเกี่ยวกับตัวเลขน่ะค่ะ วัน ๆ นั่งแก้ปัญหาให้คนอื่น ก็เลยชอบอ่านมากว่าชอบเขียน เอาไว้ข้อมูลเยอะ ๆ แล้วค่อยบรรยายออกมาให้เป็นตัวหนังสือค่ะ

จะตามอ่านงานของป้าก่อนนะคะ

เครียดเมื่อไหร่แวะมาที่นี่นะคะ

ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท