การวินิจฉัยโรคจากการทำงาน


การวินิจฉัยโรคจากการทำงาน

การวินิจฉัยโรคจากการทำงาน

                เมื่อเร็วๆนี้มีโอกาสไปสัมมนา และเป็นวิทยากรร่วมหลายครั้ง ต่างกรรมต่างวาระ ทั้งภาคกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงแรงงาน ในภาคกระทรวงสาธารณสุขคงไม่ต้องกล่าวถึง เนื่องจากดูแลเกี่ยวกับโรคและสุขภาพอยู่แล้ว คงจะพูดถึงภาคกระทรวงแรงงานจะดีกว่า

                ปัญหาเดิมที่พบในหมู่ผู้ใช้แรงงานก็คือต้องการให้แพทย์วินิจฉัยว่าใช่หรือไม่ใช่โรคจากการทำงาน ปัญหาเดิมของแพทย์ก็คือวินิจฉัยโรคจากการทำงานแล้วจะมีอะไรตามมาหรือไม่ ในการวินิจฉัยโรคทั่วไปนั้นแพทย์จะวินิจฉัยตามลักษณะพยาธิสภาพ หรือตามสาเหตุ เช่น โรคเส้นเลือดสมองแตก หรือ โรคเลือดออกในสมองส่วนหน้า ซึ่งจำเพาะลงไป และสาเหตุนั้นจะทราบหรือไม่ทราบก็ได้ เช่น อาจจะเกิดจากโรคความดันโลหิตสูงทำให้เกิดหลอดเลือดแดงโป่งพองออกทำให้ผนังเส้นเลือดบริเวณนั้นอ่อนแอ หรือมีโรคไขมันในเส้นเลือดร่วมด้วย ทำให้ผนังเส้นเลือดในบริเวณนั้นมีการซ่อมแซมตัวไม่ดีจึงพองและแตกออกเป็นต้น อย่างไรก็ตามการรักษานั้นเป็นการรักษาภาวะเฉียบพลันและรักษาภาวะเรื้อรัง

                ในการวินิจฉัยโรคจากการทำงานนั้น เมื่อผู้ใช้แรงงานมีโรค และไปพบแพทย์ไม่ว่าจะเป็นอาการอะไรก็ตามก็จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนั้น เช่น โรคหอบหืด โรคประสาทส่วนปลายอักเสบ โรคหูตึง แต่จะเกิดจากการทำงานหรือไม่นั้น จะต้องระบุจากข้อมูลที่มีอยู่ ข้อมูลที่มีอยู่นั้นได้จาก

  1. การที่ผู้ใช้แรงงานตระหนักว่างานที่ตนเองทำนั้นมีอะไรเป็นสิ่งคุกคาม มีอะไรเป็นปัจจัยเสี่ยง บ้าง และจะทำอย่างไรเพื่อการป้องกัน สิ่งคุกคามและปัจจัยเสี่ยงนี้จะมีผลต่อสุขภาพอย่างไร อาการและอาการแสดงเบื้องต้นเป็นอย่างไร ในการนี้จะต้องได้รับความรู้เกี่ยวกับงานที่ตนเองทำ การป้องกันตนเอง จะต้องทราบข้อมูลการตรวจวัดสิ่งแวดล้อมเพื่อจะได้เฝ้าระวังตนเอง ถ้าขาดสิ่งเหล่านี้ไปข้อใด ข้อหนึ่งจึงค่อยสงสัยว่าตนเองน่าจะเป็นโรคจากการทำงาน หรือถ้าสงสัย ให้สอบถามสิ่งเหล่านี้เป็นเบื้องต้นก่อน และถ้าสงสัย ก็ให้บอกแพทย์ไปเลยว่าสงสัยว่าจะเป็นโรคจากการทำงานเพราะอะไร?
  2. นายจ้างตระหนักว่ามีโรคจากการทำงาน นายจ้างจะต้องรู้ว่างานที่ให้คนทำงานทำนั้นมีปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้าง มีการตรวจวัดสิ่งแวดล้อม มีระบบการเฝ้าระวังที่ดี มีระบบอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่เหมาะสมหรือไม่ นายจ้างจะต้องคิดตลอดว่าคนทำงานเป็นทรัพย์สินที่มีค่ามากกว่าเครื่องจักรหรือสินค้าต่างๆที่ผลิตได้เสียอีก และระบบอาชีวอนามัยและความปลอดภัยก็เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารงานของบริษัท  เมื่อคนทำงานเจ็บป่วยก็จะต้องมีระบบตอบสนองที่เหมาะสม
  3. แพทย์จะต้องตระหนักว่ามีโรคจากการทำงาน จะต้องมีการซักประวัติอาชีพในผู้ป่วยทุกคนที่มาพบ การวินิจฉัยโรคจากการทำงานนั้นไม่ใช่เรื่องลำบาก ถ้ามีข้อมูลเพียงพอ ในประเทศไทยยังมีระบบกองทุนเงินทดแทนที่จะให้เงินชดเชยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคจากการทำงาน แต่ไม่ชดเชยให้ผู้ที่เป็นโรคที่เกี่ยวเนื่องจากการทำงาน ซึ่งไม่ยุติธรรมเท่าไร  เนื่องจากเมื่อพิสูจน์ลึกลงไปแล้วโรคเกือบทุกโรคนั้นเป็นโรคที่เกี่ยวเนื่องจากการทำงานเกือบทั้งสิ้น ประเด็นสำคัญกว่านั้นคือเมื่อเป็นโรคจากการทำงานต้องรีบให้การวินิจฉัยเพื่อจะได้ไปค้นหาเพื่อนคนทำงานที่เป็นโรค หรือ ปรับปรุงสภาพการทำงานให้ดีขึ้น ซึ่งยังไม่มีกฏหมายบังคับ หรือมีกฎหมายบังคับแต่ก็ไม่มีบทลงโทษที่รุนแรง
  4. ประเด็นการวินิจฉัยโรคจากการทำงานนั้น ค่อนข้างยากเนื่องจากไม่ใช่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ทำให้มีอาการและอาการแสดงเลย แต่เป็นการสะสมในการทำงานมาหลายปี มีการสัมผัสมากบ้างน้อยบ้าง การตรวจวัดสิ่งแวดล้อมบางครั้งก็ไม่บอกอะไรมาก เนื่องจากตรวจวัดในขณะปกติ อย่างไรก็ดีกระทรวงแรงงานและกระทรวงสาธารณสุขได้พยายามจัดตั้งคลินิกโรคจากการทำงานขึ้นเพื่อช่วยเหลือในด้านนี้ แต่ปรากฏว่าคลินิกโรคจากการทำงานนั้นทำงานหลงประเด็นไปพอสมควร ในการประเมินมีการประเมินเรื่องอาชีวอนามัยในโรงพยาบาล ประเมินเรื่องการส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งจุดเริ่มของคลินิกคงเป็นเรื่องการวินิจฉัยโรคมากกว่า เมื่อไม่มีโรคเกิดขึ้น การป้องกันก็ไม่มีใครมองเห็น

เร็วๆนี้มีประเด็นร้อนในเรื่องโรคจากแอสเบสตอส มีกรณีผู้ป่วยมะเร็งเยื่อหุ้มปอดเข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แพทย์ซักประวัติอาชีพ และให้การวินิจฉัยว่าเกิดจากแอสเบสตอส เป็นที่ฮือฮา เนื่องจากไม่เคยมีผู้ป่วยโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจากแอสเบสตอสในประเทศไทยเลย ทั้งที่มีการใช้เป็นจำนวนมาก  มีการอ้างอิงกรณีนี้หลายครั้ง หลังจากนั้นมีแพทย์มหาวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่งได้อ่านบทความที่มีคนตีพิมพ์กรณีนี้ลงในวารสารวิชาการ แล้วเขียนค้านเนื่องจากยังขาดหลักฐานที่เน้นชัดลงไป ปรากฏว่า บริษัทที่มีการใช้แอสเบสตอสมาก นำไปอ้างอิง ว่าแม้แต่แพทย์ด้วยกันเองยังไม่เห็นด้วย เรื่องนี้เป็นอุทธาหรณ์ ในการวินิจฉัยทางอาชีวเวชศาสตร์นั้นมีสองแบบ เป็นการวินิจฉัยรายกรณี คือการวินิจฉัยโรคแบบคลาสิก คือต้องมีอาการของโรค มีการตรวจที่เข้าได้กับโรค และมีการวินิจฉัยแยกโรค และการวินิจฉัยทางสาธารณสุข หรือ public health diagnosis ซึ่งใช้ข้อมูลทางระบาดวิทยา โดยใช้การวิจัยในกลุ่มคน มีการเปรียบเทียบ มีการสืบค้นประวัติการสัมผัส แต่เป็นรายกลุ่ม จะเห็นว่าในแวดวงวิชาการนั้นไม่ยอมรับการวินิจฉัยรายกลุ่มแบบนี้ แต่การวินิจฉัยรายกลุ่มนี้สามารถนำไปใช้ในการเฝ้าระวังและป้องกันได้ ดังนั้นจึงยากที่จะให้การวินิจฉัยรายบุคคลได้อย่างถูกต้อง

        อาชีวเวชศาสตร์เป็นเช่นนี้ โรคจากการทำงานยังไม่มีรายงานออกมามาก เนื่องจากยังไม่มีการเก็บข้อมูลตามความเป็นจริง ส่วนใหญ่เป็นการเก็บข้อมูลในทางระบาดวิทยา เป็นการประมาณการณ์ จึงไม่มีโรคให้เห็น ถ้าดูการป้องกันโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคมะเร็งปอด โรคเหล่านี้มีตัวเลขคนที่เป็นชัดเจน มีหลักฐาน มีการศึกษา ลึกลงไปถึงระดับโมเลกุล จนย้อนกลับมาป้องกัน  ดังนั้นในอีกมุมหนึ่งการวินิจฉัยโรคจากการทำงานก็มีความสำคัญ จำนวนของคนที่เป็นโรคจากการทำงานนั้นถ้ามีมากขึ้น จากการวินิจฉัยและรายงานโรคที่เป็นจริง ก็สามารถนำมาวางแผนได้อย่างแท้จริง แต่ถ้าเป็นการประมาณการณ์อยู่ตลอดเวลา ก็จะถูกเหตุการณ์อื่นๆที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเจนกว่า มาแย่งงบประมาณ แย่งความสำคัญไปหมดสิ้น

หมายเลขบันทึก: 409530เขียนเมื่อ 21 พฤศจิกายน 2010 19:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 15:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

" อาชีวเวชศาสตร์เป็นเช่นนี้ โรคจากการทำงานยังไม่มีรายงานออกมามาก เนื่องจากยังไม่มีการเก็บข้อมูลตามความเป็นจริง ส่วนใหญ่เป็นการเก็บข้อมูลในทางระบาดวิทยา เป็นการประมาณการณ์ จึงไม่มีโรคให้เห็น ถ้าดูการป้องกันโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคมะเร็งปอด โรคเหล่านี้มีตัวเลขคนที่เป็นชัดเจน มีหลักฐาน มีการศึกษา ลึกลงไปถึงระดับโมเลกุล จนย้อนกลับมาป้องกัน ดังนั้นในอีกมุมหนึ่งการวินิจฉัยโรคจากการทำงานก็มีความสำคัญ จำนวนของคนที่เป็นโรคจากการทำงานนั้นถ้ามีมากขึ้น จากการวินิจฉัยและรายงานโรคที่เป็นจริง ก็สามารถนำมาวางแผนได้อย่างแท้จริง แต่ถ้าเป็นการประมาณการณ์อยู่ตลอดเวลา ก็จะถูกเหตุการณ์อื่นๆที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเจนกว่า มาแย่งงบประมาณ แย่งความสำคัญไปหมดสิ้น"

เห็นด้วยกับคุณหมอมากเลยค่ะ และได้ข้อมูลความรู้จากบล็อกของคุณหมอเป็นอย่างดีเลยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท