ฉันเป็นครูครั้งแรกที่โรงเรียนผักไห่ "สุทธาประมุข" เป็นโรงเรียนขนาดกลาง มีเอกลักษณ์ก็คือ เป็นโรงเรียนที่อยู่ในบ่อน้ำ อยู่ไกลจากตัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 40 กิโลเมตร ต้องขับรถไปโรงเรียนวันละเกือบ 1 ชั่วโมง ซึ่งเหนื่อยมากๆ และเปลื้องน้ำมันด้วย เมื่อนักเรียนสอบกลางภาคเรียนที่ 1 เรียบร้อยแล้ว ตั้งใจว่าครูจะได้หยุดพักบ้าง แต่ก็ต้องผิดหวัง เนื่องจากโรงเรียนต้องประสบกับเหตุการณ์น้ำท่วม เหมือนกับหลายๆที่ประสบ เมื่อทราบข่าวนี้ฉันจึงรีบไปโรงเรียนทันที ทำให้ดิฉันได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน ก็คือครูทุกคนในโรงเรียนมาร่วมด้วยช่วยกันในการบรรจุทรายลงถุง และเรียงเป็นคันกั้นน้ำ ถึงแม้แต่ละคนจะอายุมากแล้ว และมีเพียงแค่ 20 กว่าคนเท่านั้น ฉันจึงเต็มใจที่จะร่วมด้วยในทันที ไม่นานนักก็มีนักเรียนที่ทราบข่าวประมาณสัก 10 คน ตามมาช่วย ด้วยความสามัคคีเหล่านนี้ทำให้งานดำเนินไปอย่างรวดเร็ว แต่วันรุ่งขึ้นก็ต้องได้ยินข่าวร้ายว่าคันทรายที่ร่วมมือกันทำพังทลายลง ทุกคนเสียใจมาและน้ำก็เข้าท่วมโรงเรียน แต่ด้วยความสามัคคีของบุคลากรในโรงเรียน และยังได้รับความช่วยเหลือจากพี่ๆตชด. ที่ขยันขันแข็งและมีวินัยมากๆ ทำให้คันทรายของโรงเรียนแล้วเสร็จอย่างรวดเร็ว แต่การที่คันทรายพังลงมา ทำให้โรงเรียนของเราเปิดเรียนไม่ได้ตามกำหนด คือวันที่ 1 พฤศจิกายน ต้องเลื่อนไปเปิดในวันที่ 15 พฤศจิกายนเลยทีเดียว แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ฉันได้เห็นถึงความเข้มแข็งของชุมชนชนบท ความสามัคคีของคนไทยที่ไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว หากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้คนไทยรักกันได้ ฉันก็คิดว่ามันก็มีส่วนดีเช่นกัน
มาชื่นชมกับความเข้มแข็งในการแก้ปัญหาครับ
ว่างไง