หอมกลิ่นแกง....


         กลิ่นไหม้ของเนื้อสดโชยมา  พร้อมเสียงประทุดังเปรี๊ยะ ๆ เป็นระยะๆ  ข้างๆกองไฟ   ชายวัยกลางคนนั่งสุมไฟ  พลิกกลับสิ่งที่กำลังเผาไปมา  สลับกับการเขี่ยไฟ
        "โอ้โฮ! วันนี้ได้ของดีอีกแล้วนะ  ได้มากี่ขา  วัวหรือควาย"  เพื่อนบ้านที่ผ่านมาทำท่าน้ำลายไหล  ร้องถาม
        "สองขา  ควาย  ค่อนข้างแก่แล้วล่ะ  มันไถนาไม่ไหว  เขาเลยมาขายดาหรา"  เจ้าบ้านอธิบายยืดยาว  ดาหรา คือแขกเนปาล คนทำเนื้อขายในตลาด
        "มีอีกมั้ย  ฉันจะเอาไปทำบ้าง" ผู้มาเยือนถามต่อ  "หมดแล้ว  นี่ก็ขอแบ่งจากไอ้มนคนชำแหละมา"  เจ้าบ้านตอบ พร้อมขยายความต่อ   "วันนี้ดีหน่อยเขาชำแหละหนังออกไปไม่มาก  ได้หนังเหนือเข่ามาหน่อย   จะนำไปตากแห้งทำรองเท้าใส่ไปไร่สักคู่"
 
       ชายผู้นั้นนำหนังผืนเล็กๆ ๒ ผืน มาผึ่งแดด    แล้วกลับไปจัดการกับตีนควายที่เผาต่อ    เมื่อมันไหม้ได้ที่  นำตีนควายที่เผานั้นมาแช่ในน้ำที่ปริ่มกาละมังเสียงฉ่าของความร้อนกระทบกับน้ำเย็น   กลิ่นไหม้ยิ่งฟุ้งรุนแรง   แต่สำหรับคนที่เคยลิ้มตีนควายแล้ว  กลับหอมหวนยิ่งนัก  ลูกๆ ของแก รอคอยด้วยใจจดจ่อ  นั่นหมายถึงเย็นนี้จะมีกับข้าวที่แสนอร่อยอย่างน้อย ๒ อย่าง  คือ เอ็นตีนควายต้มจิ้มน้ำจิ้มรสจัดจ้าน   และแกงเผ็ดตีนควายกรุบๆ  หอมกลิ่นเครื่องแกงสดๆ และความร้อนแรงของใบส้มแป้น
 
                               .....................
 
       "เที่ยวนี้พ่อขึ้นไปไร่หลายวันนะ   ฝนตกมาหลายวันแล้วว่าจะหว่านข้าวและหว่านพริกไว้ขายสักหน่อย    ชะอมก็คงจะกำลังแตกยอด"  ชายกลางคนสาละวนกับการเตรียมของใส่เข่งสองใบ   มีไม้คานสอดรับสาแหรกไว้พร้อมหาบได้  ในนั้นบรรจุเสบียงอาหาร ข้าวสาร  กะปิ  เกลือ   น้ำปลา น้ำตาล   เนื้อแห้ง  แยกส่วนกับ  พันธุ์พืชต่างๆ 
       
         ชุดที่พร้อมเดินป่าของเขาก็คือ เสื้อกุยเฮงหรือเสื้อม่อฮ่อม  กางเกงขายาวมีรอยปะ  ผ้าขาวม้าผืนหนึ่งพันรอบเอวแทนเข็มขัด  อีกผืนหนึ่งพันอยู่รอบศีรษะ เหมือนจะเป็นหมวกกันน็อค  รองเท้าก็คือรองเท้าคู่ใหม่ หนังแท้ ที่ทำด้วยมือ  คือนำแผ่นหนังที่ตากไว้จากวันก่อนมาขูดแล้วเจาะรู ร้อยด้วยเชือกคล้ายรองเท้าฟองน้ำ  แต่มันคงจะทนทานกว่า  และที่สำคัญคือไม่ต้องซื้อ   
        "อาทิตย์หน้า  โรงเรียนปิดแล้ว  บอกลูกๆ ขึ้นไปช่วยถางป่าปลูกผักบนไร่กันนะ   ให้เขามาขึ้นมะพร้าวไปขาย หาเงินมาใช้ไปพลางก่อน"  เขาหันมากล่าวกับภรรยา
 
        เด็กๆ ดีใจที่จะได้ไปไร่  เพราะหมายถึงการได้อาบน้ำตก ระหว่างทางที่เดินไป   กว่าจะถึงไร่เด็กๆจะต้องขึ้นรถประจำทางไปประมาณ ๒๐ นาที   แล้วเดินต่อไปบนรอยทางเกวียน  อีก ๗-๘ กิโลเมตร  ความเหนื่อยที่อบอวลด้วยความสนุก  เดินไปส่งเสียงหยอกเย้ากับ ค่างชะนีที่โหนตัวเกาะกิ่งไม้ใหญ่สองข้างทาง   ผ่านห้วยน้ำใสที่ไหลมาจากภูเขาด้านหน้า   เหนื่อยนักก็ลงแช่น้ำหยอกเย้ากับฝูงปลา  ตัวเล็ก ๆ  สองเท้าคอยปิดตาน้ำเล็กๆ  ที่ผุดขึ้นมาบ้าง
 
         "ทำไมเงียบจัง"   น้องร้องทักขึ้น  เมื่อมาถึงขนำในไร่ที่พ่ออยู่  ขนำสร้างด้วยไม้หมากผ่าทำเป็นซี่ ยกพื้นสูง มีบันไดไม้ไผ่พาดหลายขั้น   ด้านล่างมุมหนึ่งเป็นครัวง่ายๆ และที่เก็บของ
         ที่บริเวณครัว  มีไออุ่นของควันไฟจากเตาที่ทำอย่างง่ายๆ ด้วยหิน ๓ ก้อน ที่สามารถสอดเติมไม้ฟืนเข้าไปได้สะดวก   แสดงร่องรอยว่าเพิ่งผ่านการใช้งาน  เหนือเตาไฟ มีเข่งสานใบหนึ่งแขวนไว้  ด้านในมีหม้อใบเล็กก้นดำด้วยหมิ่นหม้อ บุบบี้ ๒ ใบ 
    
         "อุ๊ย! หอม    พ่อแกงอะไรไม่รู้ หอมจังเลยพี่"  คนน้องเปิดฝาหม้อแกง  คนพี่หันไปเปิดฝาหม้ออีกใบ ข้าวสวยร้อนๆ พร้อมรับที่จะกินได้  "พ่อคงรู้ว่าเราจะมาวันนี้ก็เลยเตรียมไว้ให้พวกเรา  แต่กับข้าวของพ่อน่าจะหมดแล้วนี่นา  หรือว่าจะเป็นของป่าที่พ่อหาได้"  พี่สาวบรรยายต่อ 
 
        "แกงอะไรก็ไม่รู้  แต่มันหอมมาก  กินกันก่อนดีกว่านะ  หิวจังเลย"  คนน้องว่า    "เอาเลย กินก็กิน"  ทั้งสองตักข้าวกินกันอย่างเอร็ดอร่อย
 
       สักครู่เสียงสวบสาบดังมา  พร้อมกับเจ้าปากดำ  หมาที่เฝ้าไร่นำหน้าเจ้าของมา   บนบ่าของเขามีไม้ไผ่ลำยาวแบกไว้สองลำ  เขาถือมีดพร้าสอดรับเพื่อคานไม้ไผ่ให้อยู่ในระดับที่เสมอกัน  วางมีดลงและนำไม้ไผ่ตั้งลำให้ปลายสูงขึ้น  
       "มาถึงกันนานแล้วหรือ"  เสียงผู้เป็นพ่อทัก " ค่ะ  มาถึงก็กินข้าวกันเลย  แกงพ่อหอมมาก  อร่อยจังเลยค่ะ  พ่อดักเม่นมาหรือคะ?"   คนพี่ถาม
 
       พ่อทำหน้ายิ้มๆแล้วตอบ " เปล่า  พ่อก็เอาที่มีๆ นั่นล่ะมาแกง   น้ำหมดพ่อจึงเอาไม้ไผ่ไปรองน้ำมาจากห้วยข้างเขา   เป็นไงอร่อยมากเลยหรือ"   คนน้องมองไปเห็นหยดเลือดเป็นหย่อมตามรอยเท้าที่พ่อเดิน   
 
       "พ่อ  พ่อถูกไม้ตำมาหรือ  เห็นเลือดออก"  "ฮื่อ!  เดี๋ยวเอาน้ำมันก๊าดราดก็จะหาย"    "แล้วทำไมพ่อไม่ใส่รองเท้าที่พ่อทำมาล่ะ?"   คนน้องช่างสงสัยซักต่อ
 
       คนพี่มองตามแล้วเหมือนจะคิดได้  หรือว่า....  "พ่อ เอามันไปทำอย่างอื่นแล้วใช่มั้ยคะ?"   คนพี่ถาม   พ่อยิ้มแบบอายๆ แล้วตอบมา " ฮื่อ! กับข้าวมันหมด  ฝนตกหนักพ่อไม่ได้ออกไปดักสัตว์    จึงต้องอาศัยมัน"
 
       สองพี่น้องหันมายิ้มให้แก่กัน แล้วพูดกับพ่อว่า  "แกงวันนี้หอมและอร่อยที่สุดเลยค่ะพ่อ"         
 
หมายเลขบันทึก: 408114เขียนเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2010 12:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม 2012 10:26 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ขอบคุณค่ะ สำหรับเรื่องราวดีๆ กับความรัก ความอบอุ่นในครอบครัว

ขอบคุณครูเอมากค่ะ  ที่แวะมาลงชื่ออ่านเป็นคนแรกของงานเขียนของป้า

เพิ่งเป็นสมาชิกค่ะ มีต่อหรือไม่คะ

สวัสดีค่ะ  รออ่าน เรื่องต่อไปนะคะ  ขอบคุณค่ะ

ค่ะครูหยุย   น่าเสียดายที่....วิถีนี้เหลือเพียงเรื่องเล่าเสียแล้ว

ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ

เพิ่งสมัครค่ะ จะติดตามอ่านต่อไปนะคะ

สวัสดีค่ะคุณดุจดาว  แวะไปเยี่ยมมายังไม่เจอบันทึก 

มีโอกาสก็แวะมานะคะ ยินดีต้อนรับค่ะ  ขอบคุณค่ะ

  • สวัสดีค่ะ 
  • สุขสันต์วันลอยกระทงนะคะ...ป้าพธู
  • ขอบคุณค่ะ
     
                                  ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง
  • สวัสดีค่ะ คุณบุษรา   ขอให้มีความสุขในวันลอนกระทงเช่นเดียวกันค่ะ

    อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท