ความเป็นมา


หลังจากได้ครอบครองผืนดินแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2533 จากของเดิมที่เป็น "สวนสมรม" มีมะพร้าวเป็นพืชหลัก แต่เมื่อต้องเจอกับแรงกระหน่ำของ "พายุเกย์" เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2532 สภาพที่เกิดขึ้นจึงเป็นความยับเยินจากซากต้นไม้ที่หัก ล้ม ต้นมะพร้าวถูกแรงลมพัด หมุนและเหวี่ยง จนบิดงอเป็นเส้นโค้งรูปตัว S เจ้าของเดิมไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับขึ้นมาเป็นที่อยู่ ที่ทำกินขึ้นมาเหมือนเดิมได้จึงจำเป็นต้องขายทิ้ง
ภาพเปรียบเทียบจาก http://th.wikipedia.org
หลังจากได้เห็นพื้นที่ครั้งแรกเราก็ห่างหายไปนาน 4 - 5 ปี เพราะชีวิตช่วงนั้นต้องไปทำงานต่างจังหวัด แต่งงาน สร้างครอบครัว และกลับมา จ.ชุมพร อีกครั้งเมื่อปี 2535 "สวนสมรม" ในอดีตบัดนี้ได้คืนกลับสู่สภาพธรรมชาติกลายเป็น "สวนป่า" ที่สารพัดพันธุ์ไม้ขึ้นทดแทน แน่นขนัดจนไม่สามารถเดินเข้าไปได้ง่าย ๆ
ช่วงกลางปี 2537 ความตั้งใจเข้าไปสำรวจเพื่อหาทางฟื้นฟู "สวนป่า" แห่งนี้ก็กลับมาใหม่ สภาพที่เห็นเต็มไปด้วยหญ้าคาขึ้นสูงท่วมหัวปกคลุมเศษซากต้นไม้ล้ม มีทางเดินเล็ก ๆ เป็นรอยหญ้าแหวก ลัดเลาะขึ้นไปบน "เขาตะแคง" ซึ่งเป็นเขาหินปูนเล็ก ๆ ตั้งอยู่เป็นกำแพงธรรมชาติด้านทิศเหนือของพื้นที่ เราเดินไปตามเส้นทางนั้นจนขึ้นไปถึงชายเขาจึงได้พบกับกระท่อมเล็ก ๆ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของ 3 ชีวิต พ่อ-แม่-และลูกสาวตัวน้อย สอบถามดูได้ความว่าเป็นชาวบ้านที่มาจากถิ่นอื่น มารับจ้างทำมาหากินอยู่แถวนี้โดยไม่มีที่ทำกินเป็นของตัวเอง มาอาศัยอยู่ชายเขาในพื้นที่ที่เรียกกันว่า "หัวไร่ปลายนา" หลีกเลี่ยงจากกฎเกณฑ์เรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน รอบกระท่อมชายเขาปลูกต้นไม้ พืชผักสวนครัว โดยเฉพาะต้นกล้วยไว้มากพอสมควร นี่คงจะเป็นภูมิปัญญาของคนอยู่บ้านป่า ต้องปลูกกล้วยไว้เป็นพืชเอนกประสงค์ก่อนปลูกอย่างอื่นตามมา
เมื่อกลับมาเยี่ยมเป็นครั้งที่สอง เราจึงนำเสื้อผ้า อาหาร และของใช้จำเป็นมาฝาก และออกปากเชื้อเชิญให้ลงมาอยู่ข้างล่างทำหน้าที่ดูแลสวนป่าให้เราด้วย งานหลักมีเพียงอย่างเดียวคือช่วยกันรักษาไม้ยืนต้น ที่เริ่มขึ้นให้เห็นหนาตาหลังจากผ่านพายุเกย์มา 5 ปี โดยเฉพาะต้นยางนา เราสังเกตว่ามีมากเป็นพิเศษเพราะมียางนาต้นใหญ่อยู่รอดจากพายุในครั้งนั้นออกลูกปลิวกระจายไปทั่วบริเวณจนเกิดเป็นต้นยางนาเล็ก ๆ อายุ 3-5 ปี ผสมผสานไปกับไม้ป่าสารพัดชนิดที่นก หนู กระรอก ฯลฯ ช่วยนำมาปลูก
เมื่อต้นไม้เริ่มโตพอใช้ประโยชน์ได้ เป็นธรรมดาที่ชาวบ้านใกล้เรือนเคียงพูดต่อ ๆ กันไปตามที่คิดเอาเองว่า อีกไม่นานเถ้าแก่เขาก็จะไถที่ ล้มต้นไม้ เพื่อปลูกสวนยาง สวนปาล์ม ตามสมัยนิยม กลายเป็นเหตุผลที่ชอบธรรมให้เข้ามาตัดไม้ไปใช้ก่อนได้ แต่สำหรับเรานั้นได้เคยเรียนรู้เรื่องราวของ "ป่า" ในช่วงที่เรียนปริญญาโทจากคณะสิ่งแวดล้อมฯ ม.มหิดล รู้สึกตัวแล้วว่า เรา "รัก" ป่าผืนนี้ และเกิดความฝันที่จะเข้ามาสร้างให้เป็น "สวนป่า" ที่อุดมสมบูรณ์ จะว่าไปแล้วความคิดฝันวันนั้นเป็นความคิดฝันของ "คนโง่" คนหนึ่งแท้ ๆ เพราะเราไม่มีทั้งความรู้ ทักษะ ความชำนาญ ในการปลูกสร้างสวนป่า มีแต่เพียงหัวใจที่ประกาศก้องว่า "ที่นี่คือพื้นที่ชีวิต" ของเรา เราจะช่วยกันสร้างวิถีชีวิตพึ่งตนเองบนพื้นฐานของธรรมชาติให้เข้าสู่ความเป็นมนุษย์ที่แท้...และนี่คืออุดมคติของเรา

 

หมายเลขบันทึก: 406619เขียนเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2010 11:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน 2012 13:00 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • มาเชียร์ด้วยครับพี่
  • สวนสมรม สวนป่าเป็นทางออกที่ดี
  • ทางชุมพรเป้นอย่างไรบ้าง
  • เอาที่ไร่พนมทวนมาฝากด้วย
  • http://gotoknow.org/blog/yahoo/401726
  • แถมสวนป่าบ้านครูบา
  • http://gotoknow.org/blog/yahoo/241087
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท