๑. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ (๒๕๔๒:๑๓-๑๕) หมวด ๔ แนวทางจัดการศึกษา มาตรา ๒๒ กล่าวว่า การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และ พัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ ในมาตรา ๒๔ การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้สถาน ศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการดังนี้
๑. จัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผู้เรียน โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
๒. ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์และการประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา
๓. จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ทำได้คิดเป็นทำเป็นรักการอ่านและเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
๔. จัดการเรียนการสอนโดยผสมผสานความรู้ด้านต่างๆอย่างได้สัดส่วนสมดุลกัน รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรม ค่านิยมที่ดีงามและลักษณะที่พึงประสงค์ไว้ในทุกวิชา
๕. ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียนและอำนวย ความสะดวก เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และมีความรอบรู้รวมทั้งสามารถใช้การวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ ทั้งนี้ผู้สอนและผู้เรียนอาจเรียนรู้ไปพร้อมกัน จากสื่อการเรียนการสอนและแหล่งวิทยาการประเภทต่างๆ
๖. จัดการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นได้ทุกเวลาทุกสถานที่ มีการประสานความร่วมมือกับบิดามารดา ผู้ปก ครองและบุคคลในชุมชนทุกฝ่าย เพื่อร่วมกันพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดให้มีสาระการเรียนรู้ ๘ สาระและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ซึ่งกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นกิจกรมที่จัดให้ผู้เรียนได้พัฒนาตามความสามารถของตนเองตามศักยภาพ มุ่งเพิ่มเติมจากกิจกรรมที่ได้จัดให้เรียนรู้ตามกลุ่มสาระทั้ง ๘ กลุ่ม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนผู้เรียนเข้าร่วมและปฏิบัติกิจกรรมที่เหมาะสมร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข เป็นกิจกรรมที่เลือกเองตามความสนใจอย่างแท้จริง
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนหมายถึงกิจกรรมที่จัดอย่างมีรูปแบบด้วยวิธีการที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์จากการปฏิบัติจริง เพื่อพัฒนาผู้เรียนทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์และสังคม และสามรถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข
เป้าหมายของกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมีวัตถุประสงค์เพื่อ ผู้เรียนได้รับประสบการณ์หลากหลาย เกิดความรู้ ( knowledge ) ความรู้ชำนาญทั้งวิชาการ ( Academic ) และ
( Professional ) ผู้เรียนค้นพบความสนใจ ( Interest )และความถนัดของตนเอง ( aptitude )เห็นช่องการในการสร้างงานอาชีพในอนาคต ผู้เรียนเห็นคุณค่าของความรู้ สามารถนำเอาประสบการณ์
( Experience ) เพื่อการพัฒนาตนเองและการประกอบอาชีพ ผู้เรียนพัฒนาบุคลิก เจตคติ ค่านิยมในการดำเนินชีวิต เสริมสร้างศีลธรรมและจริยธรรม ผู้เรียนมีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ ทำประโยชน์เพื่อสังคมและประเทศชาติ
การจัดการศึกษาในปัจจุบันส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพตามพระราชบัญญัติการศึกษา พุทธศักราช ๒๕๔๒ ตลอดจนการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ไม่จำกัดสถานที่ในการศึกษาหาความรู้ ตามมาตรฐานการศึกษา มาตรฐานที่ ๑๒ “สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมและการเรียนการสอน โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ” และ “ตัวบ่งชี้ที่ ๑๒.๑ สถานศึกษามีการจัดสภาพแวดล้อมและการบริการที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาตามธรรมชาติเต็มศักยภาพ (๑๖)”
โรงเรียนวีรวัฒน์โยธินตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เป็นโรงเรียนที่มีการจัดหลักสูตรโดยเน้นนักเรียนเป็นสำคัญ เพื่อเป็นการพัฒนาและเพิ่มความรู้นอกห้องเรียนให้กับโรงเรียนและนักเรียน โรงเรียนจึงมีความจำเป็นต้องปรับปรุงสภาพพื้นที่ของโรงเรียนให้เป็นแหล่งการเรียนรู้และเป็นสถานที่ที่นักเรียนใช้เป็นแหล่งการศึกษาค้นคว้าความรู้เพิ่มเติม และเป็นการส่งเสริมกระบวนการสร้างให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ มีความสนใจในการศึกษาค้นคว้า เสมือนเป็นห้องสมุดเคลื่อนที่ เพื่อบริการแก่นักเรียนอีกทางหนึ่ง
ดังนั้นคณะนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู โรงเรียนวีรวัฒน์โยธิน ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๓ ได้เล็งเห็นความสำคัญของแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนเพื่อเป็นการเสริมสร้างองค์ความรู้ที่จะเกิดขึ้นแก่นักเรียน จึงได้จัดทำโครงการ “พัฒนาแหล่งเรียนรู้สู่กลุ่มสาระ” ภายในโรงเรียนให้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับนักเรียนขึ้น
๒. วัตถุประสงค์
๑. เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนรักการอ่านและรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
๒. เพื่อเป็นการส่งเสริมการอ่านและการเขียนให้แก่นักเรียน
๓. เพื่อส่งเสริมกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
๔. เสริมสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้
๕. นักเรียนเห็นความสำคัญของการอ่านหนังสือ
๖. ให้นักเรียนได้สัมผัสและใกล้ชิดกับธรรมชาติ
๗. เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนให้แก่นักเรียน
๓. เป้าหมาย
๓.๑. เป้าหมายเชิงปริมาณ
- นักเรียนโรงเรียนวีรวัฒน์โยธิน มีแหล่งการเรียนรู้เพื่อการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม โดยมีป้ายความรู้จำนวน ๙๐ ป้าย ติดตามต้นไม้ อุทยานรักการอ่าน และบริเวณโรงเรียน
- นักเรียนโรงเรียนวีรวัฒน์โยธิน จำนวน ๑,๓๔๕ คน ใช้ธรรมชาติสร้างความรู้สู่กลุ่มสาระเป็นแหล่งเรียนรู้
๓.๒ เป้าหมายเชิงคุณภาพ
- นักเรียนโรงเรียนวีรวัฒน์โยธิน ร้อยละ ๘๐ ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด มีความสนใจใช้ พัฒนาแหล่งเรียนรู้สู่กลุ่มสาระ เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้
- นักเรียนโรงเรียนวีรวัฒน์โยธิน ร้อยละ ๘๐ ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด มีนิสัยรักการอ่านและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
- เป็นการสอนหรือการให้ความรู้นอกห้องเรียนแก่นักเรียนทุกระดับชั้น
- เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อค้นคว้าหาความรู้ที่หลากหลายแก่นักเรียน
๔. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
๑. มีป้ายความรู้จำนวน ๙๐ ป้าย ติดตามต้นไม้ อุทยานรักการอ่าน และบริเวณโรงเรียนวีรวัฒน์โยธิน
๒. นักเรียนโรงเรียนวีรวัฒน์โยธิน ศึกษาแหล่งเรียนรู้จากป้ายความรู้ ซึ่งเป็นแหล่งพัฒนาการอ่านได้ ร้อยละ ๘๐
๓. นักเรียนโรงเรียนวีรวัฒน์โยธิน มีนิสัยรักการอ่านและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์มากขึ้นร้อยละ ๘๐
๔. นักเรียนได้สัมผัสและใกล้ชิดกับธรรมชาติ
๕. เพิ่มแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายให้แก่นักเรียน
๖. นักเรียนได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตนเองจากแหล่งเรียนรู้ที่มีภายในโรงเรียน
นางสาวนวนละออง สีดา นักศึกษาสาขาคอมพิวเตอร์ศึกษา (หัวหน้ากลุ่มฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู โรงเรียนวีรวัฒน์โยธิน อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์)
มีโอกาสได้กลับสุรินทร์ คงต้องหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนโรงเรียนนี้บ้าง