เมื่อสัปดาห์ที่แล้วระหว่างมีภาระกิจทางวิชาการ ที่ กทม. และที่ มข. นั้นน้องที่ทำงานก็โทรมาบอกว่า โรงเรียนอนุบาลจังหวัดยโสธรได้จัดทำโครงการ "คาราวานเสริมสร้างเด็ก" ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายโสธร เขต 1 ได้เชิญให้ไปเป็นวิทยากรเชิงบรรยายในเรื่อง "กระบวนการพัฒนาการของสมองและพัฒนาการด้านอื่นๆ" ในเด็กวัยเรียน ในวันที่ 24 กรกฏาคม 2549 ระหว่างนั้นดิฉันก็มัวแต่ยุ่งๆ..กับเรื่องวิชาการที่ตนเองติดภาระกิจอยู่ จนได้มามีเวลาเตรียมการบรรยายในภาระกิจเมื่อคืน อาศัยว่าพอมีความรู้เก็บสะสมไว้ในคลังสมองส่วนตัวอยู่บ้าง ที่พอจะนำไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคณะครูและผู้ปกครองที่เข้าร่วมในโครงการนี้...ก็น่าจะพอไปได้บ้างๆ
และเมื่อไปถึงจอดรถไว้ที่หน้าโรงเรียนและเดินเข้าไป พบว่าท่านผู้อำนวยการโรงเรียนท่านยืนคอยอยู่ ได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่งจากท่าน จากนั้นหลังจากท่าน ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายโสธร เขต 1 บรรยายพิเศษจบไปแล้วชั่วโมงที่เหลือก็เป็นในส่วนที่ดิฉันจะต้องเหมาหมดทั้งวัน ในหัวข้อต่างๆ ดังนี้
- พัฒนาการเด็กวัยเรียน
- การเป็นพ่อแม่ที่ดี
- เลี้ยงลูกให้เป็นเด็กดีและฉลาด
- IQ และ EQ คืออะไร ทำอย่างไรเด็กจึงจะมีทั้งสองอย่าง
หัวข้อแรกและหัวข้อสุดท้ายดิฉันพอนำไปได้ แต่หัวข้อที่สองและที่สามนั้น ขำตัวเองมาก (เพราะเรายังไม่มีประสบการณ์การเลี้ยงลูก) แต่ก็อาศัยและออกตัวว่าเรามีทฤษฎีนะมาขอแลกประสบการณ์กับของพ่อแม่แล้วกัน ก็พอที่จะทำให้ตนเองรู้สึก Happy ขึ้นได้บ้าง บอกตรงๆ ว่าเขิลเขินเหมือนเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน แต่พอบรรยายไปได้เรื่อยๆ ก็พอผ่านไปได้ ท่านผู้ปกครองทั้งหลายท่านก็ให้ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างดี ประเด็นหนึ่งที่เรามีการ ลปรร.บนโต๊ะอาหาร คือ การสร้างความรู้และการจัดการสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ก็มีผู้ปกครองท่านหนึ่งเสนอว่า โรงเรียนน่าจะมีโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านของจริง เช่น ที่เรามักเรียกว่า Learning by doing พอมาตรงนี้เข้าทางดิฉันเลยคะว่า "สิ่งสำคัญเรา..ผู้ปกครอง ครู" จะจัดสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ได้อย่างไรบ้าง ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน เหมือนเป็นโจทย์ที่เราต้องมาคิดร่วมกัน ในฐานะที่ดิฉันเรียนสาขาเทคโนโลยีการศึกษา และสนใจในเรื่องการออกแบบสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้นั้น ดิฉันจะทำเพียงลำพังคนเดียวไม่ได้ แต่จะต้องสอดประสานสอดรับกับทั้งทางโรงเรียน ผู้ปกครอง และที่สำคัญ คือ ตัวเด็กเอง
สิ่งหนึ่งที่ดิฉันได้เรียนรู้ และเก็บเกี่ยวเป็นกระประสบการณ์ของตนเองนั้น คือ ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสถานศึกษาที่ครูและผู้บริหารมีความมุ่งมั่นที่อยากจะพัฒนาโรงเรียนของตนเองจริงๆ มากกว่าที่จะทำเพียงสนองตอบต่อนโยบายภาครัฐเพียงอย่างเดียว แต่ที่ชอบมากคือแนวคิดของผู้บริหาร ที่ท่านมองว่าการเปลี่ยนแปลงเราต้องค่อยเป็นค่อยไป หักโหมเปลี่ยนแปลงไปเลยก็ไม่ได้..ในเมื่อฐานไม่แน่น..ก็ยากที่ยอดจะมั่นคงได้ ดิฉันเชื่อว่าไม่นานลูกหลานเมืองยศ..จะเต็มไปด้วยบุคคลที่ผ่านการเอื้ออำนวยให้เกิดการเรียนรู้ต่อชีวิต เก่ง-มี-สุข ในทุกๆ เรื่องของชีวิตได้ หากมีการสานต่อและเล็งความสำคัญในการเรียนรู้ของเด็กอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง
พบว่าท่านผู้นวยการ/เขิลเหมือน/กระสบการณ์
ด้วยความเคารพจากแผนกพิสูจน์อักษร ครับผม
คุณ"ขจิต"
นานๆ ที B2B กันนะคะ...
ช่วงนี้ดิฉันก็นานๆ ครั้งโฉบมาที
ไม่ทันได้ทักกัน...
ขอบพระคุณนะคะ...ที่แวะมาทักทาย
คุณ"บวร"
ดิฉันทันได้มาพบ คห. ของท่านบวรตั้งแต่เมื่อวาน
ขอบพระคุณนะคะ...สำหรับการพิสูจน์อักษร...แก้ไขแล้วคะ
มาพบ..ว่าท่านแอบ..แซว..เรื่องสะพายลอย..ก็ชักเขินคะ..
เลยหยุดตั้งหลัก..แล้วค่อยมาตอบ คห. นี่แหละคะ...(ยิ้มๆๆ)
บ่รู้จักครูบวช