แม่ผมเอง


รักแม่มะ คำว่ารักมีความหมายโดยเฉพาะกับพ่อแม่

คุณแม่หรือคำๆนี้สำหรับผมคงมีความหมายมากมายในเวลาที่ไม่มีใครคิดถึงและเป็นห่วง แม่มีค่าเสมอในเวลาที่ไม่มีใครต้องการเรา นี่คงเป็นคำนิยามสำวัยรุ่นที่มักผิดหวังเสมอจากความหวังในรักที่ถูกสร้างขึ้นด้วยภาพลวง เวลาที่ผมได้เห็นหน้าแม่แล้วความหมาย ความหวัง หรือภาพลวงต่างๆย่อมหมดสิ้นไปโดยพลัน ภาพใบหน้าของคุณแม่ย่อมมาปรากฏแทนที่โดยไม่มีคำอธิบายใดๆ

จะอธิบายไปใยถ้าหากปากไม่ตรงกับใจ หลังจากคณะของเราได้ยลโฉมผาแต้มภาพเขียนแห่งประวัติศาตร์แล้วก็ยังได้ยลพระสุรีย์สีเรืองๆก่อนจะลับของฟ้า งดงามเหมือนกัน พูดถึงภาพแ่ห่งประวัติศาตร์แล้วให้นึกถึงคุณโยมณัฐ นักวาด นักฝัน นักธรรม

ถึงเวลา ๒ ทุ่มพวกเราก็ตกลงกันว่าจะกลับไปนอนค้างคืนที่บ้านโยมพ่อผม ม่วงสามสิบนะเอง อุตส่าห์ด้นมาตั้งไกลยังจะกลับไปอีกตั้งเกือบร้อยกิโลเมตร พวกเด็กๆอยากค้างคืนแถวๆนั้นเพื่อพรุ่งนี้จะได้เที่ยวต่อ แต่สู้เสียงคนแก่ไม่ได้เลยต้องพากันกลับไปที่ม่วงสามสิบ ก็นั่งรถประมาณสัก ๒ ชั่วโมง พอบอกถึงเวลากลับเท่านั้นเองเด็กพากันประท้วง พวกเราก็เลยต้องโอ๋หน่อยด้วยการพาไปทานข้าวน้ำเอาใจเดี๋ยวเด็กร้องขึ้นมาจะแย่

อ้อ.....ลืมเล่าถึงห้วงแห่งแม่น้ำโขง-มูล วันที่ไปก็แรม ๑ ค่ำ ออกพรรษาใหม่ๆยังมีรอยแห่งพยานาคให้ได้เห็นกันตามรายทางเลาะลุ่มน้ำ รอยที่บอกก็ไม่ใช่อะไรดอกมีป้ายโฆษนาบอกจุดพักชมบั้งไฟพยานาคกันเป็นระยะๆ พยานาคนี่ก็กระไรอุตส่าห์จุดบั้งฟังตั้งแต่อีสานตอนบนจนถึงตอนล่างเลยหรือ ที่โขงเจียมมีป้ายบอกจุดชมบั้งไฟหลายที่มาก แต่พวกเราก็ไม่สนใจที่จะชมกันเพราะไม่แน่ใจมีมากน้อยแค่ไหน  พูดถึงบั้งไฟพยานาคก็มีตำนานน่าสนใจอยู่ไม่น้อย หาอ่านในเว๊บต่างๆนะครับ

 คิดๆ.....พยานาคไม่กลัวน้ำท่วมหรือไงนะ หรือพากันเล่นน้ำเพลินจนทำให้น้ำท่วมเดือดร้อนพวกมนุษย์ตลอดเหนือจรดใต้เลย โคราชก็มีแม่ย่าโมสงสารลูกหลานท่านต้องเดือดร้อน ทั้งที่โคราชเป็นที่ราบสูงน้ำยังท่วมเลยสงสัยหนังเรื่อง ๒๐๑๒ จะเข้าเค้า ขนาดที่ราบสูงยังท่วมที่ราบลุ่มอย่างเราคงต้องเตรียมตัวไว้บ้าง นี่ข่าวก็บอกว่าอีสานตอนลุ่ม(ล่าง) มีอุบลฯ ศรีษะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ก็เป็นพื้นที่แห่งทางน้ำไหล แต่ตอนที่ผมไปก็ยังปกติดีอยู่ขอรับ

ข่าวน้ำท่วมปีนี้เป็นอะไรที่ตกอกตกใจขนาดประชาชนแถวๆบ้านระหารเป็นกระต่ายน้อย พากันรีบเกี่ยวข้าวเป็นการใหญ่เพราะกลัวน้ำไหลหลาก ข่าวว่าผู้ว่าฯหลายจังหวัดมีคำสั่งให้เปิดประตูระบายน้ำออกให้หมด เดือดร้อนชาวบ้านต้องช่วยกันไปเปิดประตูกั้นน้ำตามอ่างต่างๆ นี่ขนาดน้ำยังไม่มายังเดือดร้อนขนาดนี้ แต่คิดอีกทีถ้าน้ำไม่มาท่วมอย่างที่เป็นข่าวแล้วจะเหลือน้ำไว้ทำนาปังทำไร่หรือเปล่าเพราะเปิดออกหมดแล้ว อย่าลืมว่าสายน้ำไ่ม่เคยไหลกลับนะครับ...

เห็นแล้วก็อยากบอกญาติโยมว่าการระวังคือความไม่ประมาทนะดี แต่การระวังจนกลายเป็นความกลัวเป็นกระต่ายตื่นตูมนะไม่ดีแน่นอน ทำอะไรท่านจึงบอกว่าให้คิดให้ดีเสียก่อนไง พูดถึงข่าวน้ำท่วมเสียจนยืดยาว ตอนที่ไปก็กลัวอยู่เหมือนกันว่าน้ำจะท่วมตรงที่เราจะไปหรือเปล่าแต่ก็ไม่มีอะไร (แต่ตอนนี้อาจจะมี)

ก็ไปถึงบ้าน(ฝังใส้แฮ่ แผ่ใส้บือ)เอาเมื่อประมาณเกือบ ๕ ทุ่ม เห็นหน้าแม่แล้วก็สบายใจ แม่ก็ยังนั่งคอยครับ ดึกดื่นเที่ยงคืนก็ออกมาต้อนรับพี่น้องที่ไปด้วย เห็นแกยิ้มแล้วก็สบายใจ คงนอนหลับสบายหลังจากนั่งรถเหนื่อยมาทั้งวัน ก่อนไปนอนที่วัดก็บอกแม่ว่า พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน แม่ก็บอกว่านิมนต์ไปจำวัดก่อนค่ะไม่ต้องเป็นห่วงทางบ้านเดี๋ยวจัดการต้อนรับญาติโยมเอง

มองเห็นพ่อกับแม่กุลีกุจอออกมาต้อนรับญาติโยมที่ไปด้วยกันแกคงดีใจเต็มใจต้อนรับขับสู้ มองหน้าแกอีกทีเห็นมีแต่รอยยิ้ม ยิ้ม ..... แค่นี้ก็นอนหลับสบาย ดีกว่าคำพูดหวานๆที่ไม่จริงใจของใครหลายคนอีกว่ามะ........ 

หมายเลขบันทึก: 405215เขียนเมื่อ 28 ตุลาคม 2010 21:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน 2012 00:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท