การพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยกลยุทธ์
ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลำพูน เขต 1
นายประสิทธิ์ กะตะศิลา ศึกษานิเทศก์ สพท.ลำพูน เขต 1
ความสำคัญ
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาจึงได้กำหนดสาระบัญญัติเรื่องนี้ไว้ในหมวด 6 มาตรา 47, 48 โดยสรุปให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาทุกระดับ ประกอบด้วยระบบการประกันคุณภาพภายในและระบบการประกันคุณภาพภายนอก ให้หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษา จัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา และได้ถือว่าการประกันคุณภาพภายในเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษาที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดทำรายงานประจำปีเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา และเพื่อรองรับการประกันคุณภาพภายนอก และกฎกระทรวง ว่าด้วย ระบบหลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2546 ออกตาพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 หมวด 1 และหมวด 2 ให้สถานศึกษาจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา เพื่อสร้าง ความมั่นใจแก่ผู้เกี่ยวข้องว่า ผู้เรียนทุกคนจะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพจากสถานศึกษา เพื่อการพัฒนาความรู้ ความสามารถ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตามมาตรฐานการศึกษาที่กำหนดในหลักสูตรการศึกษา ขั้นพื้นฐานอย่างเต็มศักยภาพหมวด 2 หลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณการศึกษาภายในสถานศึกษา ข้อ 12 ให้หน่วยงานต้นสังกัดและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ส่งเสริม สนับสนุนและร่วมดำเนินงานตามระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาโดยจัดระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาให้มีประสิทธิภาพ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลำพูน เขต 1 ได้ศึกษาและค้นคว้าทดลองใช้ กลยุทธ์ในการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษาด้วยกลยุทธ์ ซึ่งประกอบด้วย กลยุทธ์ที่ 1 การสร้างความรู้ความเข้าใจ กลยุทธ์ที่ 2 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กลยุทธ์ที่ 3 การประเมินตนเองและรายงาน และกลยุทธ์ที่ 4 การประเมินภายในโดยหน่วยงานต้นสังกัด ดำเนินการศึกษา 3 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 การสร้างคู่มือการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยกลยุทธ์ ระยะที่ 2 การใช้คู่มือการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยกลยุทธ์
ระยะที่ 3 การประเมินการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ด้วยกลยุทธ์
ผลการศึกษา พบว่า
ตอนที่ 1 ผลการสร้างคู่มือ การพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยกลยุทธ์
ผลการสร้างคู่มือ การพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยกลยุทธ์ พบว่า ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นว่าคู่มือการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยกลยุทธ์ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
ตอนที่ 2 ผลการใช้การพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยกลยุทธ์ พบว่า
จากการทดสอบคะแนนทดสอบความรู้ความเข้าใจเกี่ยวการประกันคุณภาพการศึกษา หลังการอบรมปฏิบัติการการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา หลังการประชุมปฏิบัติการ การประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาสูงกว่าก่อนประชุมปฏิบัติการและมีความก้าวหน้าสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
ความคิดเห็นของครูและผู้บริหารที่มีต่อการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยกลยุทธ์ ทุกกิจกรรมอยู่ในระดับมาก เรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้การประเมินตนเองและรายงาน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การประชุมปฏิบัติการและการประเมินภายในโดยหน่วยงานต้นสังกัด
ผลการประเมินการจัดนิทรรศการและการนำเสนอผลงาน โดยรวมอยู่ในระดับคุณภาพดีมาก มากที่สุด คือ เนื้อหาการนำเล่าถูกต้อง และ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ น้อยที่สุด มี 3 รายการ คือ รูปแบบการจัดนิทรรศการ มีความเหมาะสม ดึงดูดน่าสนใจ การเล่าแสดงถึงลำดับของ การดำเนินงานได้อย่าง ชัดเจน เข้าใจง่าย และ กระตุ้นและเปิดโอกาสให้ผู้ฟังทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งอยู่ในระดับดี
ผลการประเมินรายงานการพัฒนาคุณภาพการศึกษาประจำปีการศึกษา (รายงานการประเมินตนเอง SAR) โดยรวม ส่วนมากอยู่ในระดับดี มากที่สุด คือ รูปเล่มมีขนาดพอเหมาะ อ่านง่ายและสวยงาม ขนาดตัวอักษรมีขนาดเหมาะสม อ่านง่ายและสวยงาม น้อยที่สุด คือ การรายงานผลการดำเนินโครงการ/งาน/กิจกรรม/ตามกลยุทธ์ได้สอดคล้องกับมาตรฐาน ตัวชี้วัด กำหนดเกณฑ์ที่คาดหวัง ครอบคลุมมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งอยู่ในระดับดี
ผลการประเมินภายในของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน : การศึกษาปฐมวัย จำนวน 13 โรงเรียน ได้มาตรฐานทุกโรงเรียน เมื่อพิจารณารายมาตรฐาน โรงเรียนได้มาตรฐาน (ระดับดีขึ้นไป) ร้อยละ 100 ทุกมาตรฐาน ระดับคุณภาพดีมาก มากที่สุด 2 มาตรฐาน คือมาตรฐานที่ 9 ครูมีคุณธรรม จริยธรรม มีวุฒิ/ความรู้ความสามารถตรงกับงานที่รับผิดชอบเข้ากับชุมชนได้ดีและมีครูเพียงพอ และมาตรฐานที่ 11 ผู้บริหารมีคุณธรรม จริยธรรมมีภาวะผู้นำและมีความสามารถในการบริหารจัดการศึกษา น้อยที่สุด คือ มาตรฐานที่ 4 เด็กสามารถคิดรวบยอด คิดแก้ปัญหา และคิดริเริ่มสร้างสรรค์
ผลการประเมินภายในของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน : ประถมและมัธยม จำนวน 15 โรงเรียนได้มาตรฐานทุกโรงเรียน เมื่อพิจารณารายมาตรฐาน ส่วนมากได้มาตรฐานทุกโรงเรียน (ระดับดีขึ้นไป) ที่ยังไม่ได้มาตรฐานทุกโรงเรียน คือ มาตรฐานที่ 4 ผู้เรียน มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ มีวิจารณญาณ มีความคิดสร้างสรรค์คิดไตร่ตรองและมีวิสัยทัศน์ และมาตรฐานที่ 5 คือ ผู้เรียนมีความรู้และทักษะที่จำเป็นตามหลักสูตร ได้มาตรฐานคิดเป็นร้อยละ 88.67 ทั้ง 2 มาตรฐาน
ผลการสนทนากลุ่ม ครูและผู้บริหารที่มีความคิดเห็นต่อการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ด้วยกลยุทธ์ พบว่า ด้านดี บุคลากรมีความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันคุณภาพการศึกษาที่ชัดเจนขึ้น มีแนวทางในการทำงานเป็นรูปธรรม สามารถจัดระบบงานอย่างเป็นระบบ มีการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา วางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา พัฒนาคุณภาพตามแผนที่วางไว้ มีระบบการตรวจสอบ มีความโปร่งใส่ ประเมินตนเอง ตลอดจนการเขียนรายงานประเมินตนเอง บุคลากรทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกันทุกคนมีความกระตือรือร้นในการทำงาน สถานศึกษามีความพร้อมที่จะรับการประเมินทั้งภายในและภายนอก ไม่กลัวการประเมิน ส่งผลให้โรงเรียนได้รับมาตรฐานการศึกษาจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาในการประเมินคุณภาพภายนอกรอบที่ 2 ชุมชน ผู้ปกครองและนักเรียนมีความพึงพอใจ ด้านที่ควรพัฒนา ควรมีการทำความเข้าใจให้กับบุคคลกรเข้ามาใหม่ จัดอบรมให้กับบุคลกรในสถานศึกษาศึกษาทั้งหมดจะได้เข้าใจตรงกัน ติดตามอย่างต่อเนื่อง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาควรมีการสนับสนุนด้านงบประมาณ ด้านแนวทางการพัฒนา จัดให้มีโครงการพัฒนาบุคลากรในโรงเรียน ให้มีความรู้ความเข้าใจทุกคน นิเทศติดตามอย่างต่อเนื่อง และเปิดโอกาสให้ภาคีเข้ามามีส่วนร่วมในการประชุม และการประเมิน
ตอนที่ 3 ผลการประเมินการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยกลยุทธ์
ผลการประเมินระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา พบว่า ระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา 8 ด้าน ผ่านเกณฑ์การประเมิน และอยู่ในระดับดีทั้งหมดทุกด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านที่ 6 การประเมินคุณภาพการศึกษา ด้านที่ 3 การจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพของสถานศึกษา ด้านที่ 4 การดำเนินงานตามแผนพัฒนาคุณภาพาการศึกษา ด้านที่ 5 การตรวจสอบและทบทวนคุณภาพภายใน ด้านที่ 1 การจัดระบบบริหารและสารสนเทศ ด้านที่ 2 การพัฒนามาตรฐานระดับสถานศึกษา ด้านที่ 7 การจัดทำรายงานคุณภาพการศึกษา และด้านที่ 8 การผดุงระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา
ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา พบว่า ความพึงพอใจของครู และผู้บริหารที่มีต่อการพัฒนาการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยกลยุทธ์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมิน ทุกกลยุทธ์ อยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การประเมิน เมื่อพิจารณารายกลยุทธ์ มากที่สุด คือ กลยุทธ์ที่ 1 การสร้างความรู้ความความเข้าใจ รองลงไป คือ กลยุทธ์ที่ 2 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ น้อยที่สุด คือ ด้าน อื่น ๆ ทุกกลยุทธ์ความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ ทุกรายการอยู่ในระดับมากรายการที่มากที่สุด คือ เอกสาร/สื่อที่ใช้ในการประชุมปฏิบัติการ รองลงไปคือ เอกสารแนวทางการประเมินตนเองและรายงาน และประโยชน์ได้รับจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ น้อยที่สุด คือการให้การสนับสนุนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาซึ่งอยู่ในระดับมาก
เป็นงานวิจัยที่มีประโยชน์ต่อวงการศึกษา ขอชื่นชมในความเพียรพยายามในการพัฒนางานมากค่ะ
สวัสดีค่ะ ท่าน ศ.น ประสิทธิ์ กะตะศิลา
ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภาย
ในสถานศึกษา พบว่า ความพึงพอใจของครู และผู้บริหารที่มีต่อการพัฒนาการ
ประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาด้วยกลยุทธ์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก และ
ผ่านเกณฑ์การประเมิน ทุกกลยุทธ์ อยู่ในระดับมาก และผ่านเกณฑ์การ
ประเมิน...
ขอบคุณค่ะ
มีภาพการไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ ของนักเรียนมาฝากค่ะ
เป็นงานวิจัยที่อ่านแล้วเข้าใจ สามารถนำไปปรับใช้ในสถานศึกษาได้ง่าย