บุนนาค
ดร. วรนันท์ มุฮัมมัด รอมฎอน บุนนาค

มูลนิธิมุสลิมสำคัญอย่างไร


มีการดำเนินงานจัดตั้งมูลนิธิมุสลิมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือขึ้นมา เป็นที่น่าจับตามองขององค์กร ภาคประชาสังคมมุสลิมจำนวนมาก ถึงบทบาทภาระหน้าที่ขององค์กรเหล่านี้ที่เกิดขึ้นว่าทำอะไร อย่างไร ที่ไหน ใช้งบประมาณในการดำเนินงานอย่างไร มุสลิมหลายคนเห็นว่าการเกิดขึ้นมาของมูลนิธิ สมาคมขององค์กรมุสลิมเป็นสิ่งดี ที่จะเข้ามาดูแลสังคมองค์กร แก้ปัญหาให้กับพี่น้องมุสลิมทั้งที่เป็นการสงเสริม สงเคราะห์ และพัฒนา ให้กับพี่น้องทั้งที่เป็นมุสลิมใหม่ เก่า ที่ขาดแคลนขัดสนและต้องการการส่งเสริม สนับสนุนและต้องการได้รับความช่วยเหลือ แต่ที่เห็นและเป็นอยู่มีบางองค์กร อ้างตัวว่าเป็นมูลนิธิ พยายามหารายได้เข้าองค์กรจากหลายแห่ง โดยเฉพาะทางตะวันออกกลาง นำเงินทั้งก้อนใหญ่ ก้อนเล็กมาดำเนินงาน แอบอ้าง สังคม ชุมชนมุสลิมโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อไปหาเงินเข้ากระเป๋า ดำเนินงานหาเลี้ยงครอบครัว โรงเรียน ที่แอบอ้างว่าเป็นต้นแบบเพื่อไปหาเงินมาดำเนินการ การกล่าวอ้างดังกล่าวนอกจากเป็นการสร้างภาพแล้ว ยังเป็นการแอบอ้าง สังคม องค์กร ชุมชนมุสลิมไปหาอยู่หากิน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ และม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งเรื่องการบริจาคเงินที่มุสลิมเรียกว่า เงินซะกาต ที่ต้องรีบดำเนินการนำส่งกลุ่มเป้าหมายที่เงินซะกาตควรจะไปถึงโดยเร็ว กลับกักเก็บไว้ไม่ดำเนินการเป็นเวลามากกว่า 2 ปีขึ้นไปถือว่าเลวร้าย หมกเม็ด และที่สำคัญเงินนี้เป็นเงินร้อนที่เก็บกักไว้ไม่ได้ หากเป็นองค์กรมุสลิมอาทิมูลนิธิหรือสมาคมทำเช่นนี้ถือว่าองค์กรนั้นเลวร้ายที่สุด หลอกลวงและสัปปรับ ซึ่งสมควรได้รับการประนาม ปัญหาอยู่ที่ว่าองค์กรดังกล่าวคณะกรรมการมีหรือไม่ หากมี คณะกรรมการปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร เป็นคณะกรรมการหรือเป็นตัวอะไรจึงปล่อยปละละเลยให้เกิดเรื่องเช่นนี้ และให้ผู้บริหารของคุณทำเยี่ยงนี้ได้อย่างไร ถือเป็นเรื่องเลวร้าย เสื่อมเสีย และต้องรีบจัดการให้คลี่คลายโดยเร็ว ส่วนมากที่เขาดำเนินการคือไล่ให้ออกไป ปลดออก หรือสุดท้ายหากนำเอาองค์กรไปแอบอ้างต้องไล่ให้พ้นจากองค์กรและรีบกอบกู้สร้างภาพลักษณ์ขององค์กรขึ้นมาใหม่โดยเร็ว หากทำเช่นนี้ไม่ได่ยุบ ยกเลิก องค์กรเสีย ดีกว่านิ่งเฉย ปล่อยให้แอบอ้างองค์กร และสร้างความเสียหายทั้งโลกนี้และโลกหน้า

มีการดำเนินงานเพื่อรับใช้ ช่วยเหลือ ดูแล สังคม ชุมชนมุสลิมเกิดขึ้นมามาก ล่าสุดมีการจัดตั้งเป็นมูลนิธิ สมาคม ขึ้นมาเพื่อแก้ไข สร้างสรรค์ และพัฒนาความเป็นอยู่ของพี่น้องมุสลิม โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลายแห่ง  ที่ผมรับผิดชอบและดำเนินการอยู่ชื่อมูลนิธิสร้างสรรค์สังคมมุสลิม Muslim Social Development Foundation เราดำเนินการมาเข้าเดือนที่ 4 มีเป้าหมาย เพื่อส่งเสริมการศึกษาศาสนา สามัญ อาชีพ ,สนับสนุนการดำเนินชีวิตบนพื้นฐานคุณธรรมจริยธรรมอันดีงาม ,ให้เกิดการพัฒนาร่วมมือในการพัฒนาสังคม,การบรรยายศาสนาอิสลามในหน่วยงานต่างๆที่ให้ความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้อง ในการดำเนินงานเราตั้งใจที่จะทำงานรับใช้สังคมชุมชนมุสลิมและผู้ด้อยโอกาสอย่างสร้างสรรค์ มีการจัดทำเอกสารรายรับ รายจ่ายอย่างถูกต้องที่สามารถตรวจสอบที่ไปที่มาของเงินทุนได้อย่างโปร่งใส ทั้งนี้เพราะการดำเนินงานของเรามีภาระงานทั้งภาคอีสานและในภาคอื่นๆ ซึ่งได้รับเงินบริจาคทั้งในและต่างประเทศ มูลนิธินี้มีองค์กรเครือข่าย ได้แก่มูลนิธิส่งเสริมจริยธรรมปัตตานี ซึ่งเป็นองค์กรที่พี่น้องประชาชนภาคใต้รู้จักและให้การสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่ง เราชวนมาจัดตั้งมูลนิธิฯที่ขอนแก่น เพราะอดรนทนไม่ไหวกับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดที่เลว(ทุจริตคอร์รัปชั่นเงินฮาลาล ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินการจัดตั้งกรรมการมัสยิดฯ ไม่ทำอะไรเลย 3-4ปีแล้ว ประชุมเพื่อกินเบี้ยประชุม)และเพื่อให้มาทำงานรับใช้ ช่วยเหลือดูแลพี่น้องมุสลิมอีสาน จำนวนมากที่ยังอ่อนแอ ขาดแคลน ที่สำคัญที่ภาคนี้ไม่มีโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามเลย ไม่มีจริงๆ ความพยายามของคนและสังคม ชุมชนก็อ่อนแอจริงๆในเรื่องนี้ อดถามถึงมุสลิมชาวใต้ว่าปล่อยให้สังคม ชุมชนมุสลิมอีสานเป็นอยู่อย่างนี้ได้อย่างไร ถามผู้รู้ อุสตาส ครู และคนที่สามารถสอนอัลกุรอานได้ ทราบมาว่าผู้รู้แทบจะเดินชนกันในภาคใต้ ขึ้นมาสิครับ ขึ้นมาทำงานในหนทางของอัลลอฮ(ซบ)  ล่าสุดนี้(อัลฮัมดุลิลลาห์)เรามีโอกาสที่จัดซื้อที่ดินจำนวนกว่า 11 ไร่เพื่อเร่งดำเนินการจัดสร้างที่ทำการมูลนิธิฯ โรงเรียน สถานที่สงเคราะห์เด็กกำพร้า มุสลิมที่เดือดร้อน ด้อยโอกาสและจัดสร้างมัสยิดภายในนั้น ในเร็ววันนี้ ในขณะที่พี่น้องมุสลิมบริจาคที่ดิน กว่า 40 ไร่เช่นกันที่อำเภอมัญจาคีรี ที่บ้านท่าศาลา เพื่อให้มูลนิธิฯจัดสร้างชุมชนมุสลิมต้นแบบให้เกิดขึ้นอย่างจริงจังบนเนื้อที่นี้ ซึ่งเรากำลังดำเนินการอยู่ในนามมูลนิธิฯ หากท่านอยากติดต่อกับเรา โทรมาที่ 089 4229747 สอบถามได้ทุกเรื่อง เราและคณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการดำเนินงานทุกคนตั้งใจไว้ว่าจะเร่งดำเนินงานให้ก้าวหน้า สร้างสรรค์ และทำให้องค์กรได้รับการยอมรับและมีผู้เข้ามาร่วมงานกับมูลนิธิมากขึ้นอย่างเต็มประสิทธิภาพ ที่สำคัญต้องทำให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ในองค์กร คือคนทำงานต้องนำหลักการ วิธีการดำเนินงานองค์กรตามแบบอย่างท่านศาสดามูฮัมมัด(ศ็อล)มาทำและชี้นำการทำงานด้วยพระวจนะจากเอกองค์อัลลอฮ(ซุบ)อย่างสุดความสามารถ ดังนั้นการดำรงอยู่ขององค์กรก็จะเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการสามารถพูดคุยตรวจสอบการบริหารจัดการได้ และที่สำคัญที่นี่ทำงานเป็นทีม ไม่ได้ทำงานโดยประธานมูลนิธิ คิดและตัดสินใจลำพัง เรามั่นใจว่าเราเป็นที่พึ่งของประชาชนมุสลิมที่ยากไร้ ขาดแคลน และเดือดร้อนได้ ซึ่งเราเองก็ไม่สบายใจหากมีองค์กรในลักษณะเดียวกัน ดำเนินงานไม่โปร่งใส ตรวจสอบไม่ได้ แอบอ้างองค์กรไปหาอยู่หากิน ซึ่งเท่ากับทำลายสังคม องค์กรมุสลิม ทั้งๆที่มีความรู้ศาสนาดี แต่ก็ยังกระทำ ตรงนี้ต้องจัดการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กรรมกรองค์กรต้องเข้มแข็ง กล้าที่จะตรวจสอบ กล้าที่จะสะสางให้มันเป็นองค์กรที่ทำประโยชน์ให้กับพี่น้องจริงๆ ไม่ใช่แอบอ้าง หาประโยชน์เฉพาะครอบครัวฯ ทั้งนี้เพราะองค์กรมุสลิมที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดขอนแก่นก็ไม่สามารถเป็นที่พึ่งของมุสลิมในจังหวัดได้ เพราะ3ปีมานี่ไม่ทำงาน หากินกับเบี้ยประชุม ไม่ทำงานจริงๆ คนจังหวัดขอนแก่นเขาเอือมระอามาก ประธานจังหวัดนายเสรี  ปาทาน เหลือบในองค์กรมุสลิม คนของนายพิเชษฐ สถิรชวาล เลขาธิการ คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยที่ถูกปลดออก มันปล่อยให้นายเสรี ปาทาน ทำงานได้อย่างไรไม่รู้ พรบ อิสลาม2540 ก็เป็นเสือกระดาษ ทำอะไรไม่ได้ ที่สังคมองค์กรมุสลิมล้าหลัง ดำรงอยู่แบบไม่ทำอะไร มีคนชั่วมาทำงานองค์มุสลิมจำนวนมากเพราะ 1.พรบ อิสลาม 2540 ไม่มีบทลงโทษ 2.มูลนิธิ สมาคมมุสลิมส่วนใหญ่แสวงหาเงิน แสวงหาประโยชน์มาใช้มากกว่ามุ่งสงเคราะห์มุสลิมจริงๆ พวกนี้แอบอ้างองค์กรไปหาเงินและขาดศักยภาพที่จะรังสรรค์ความถูกต้องในองค์กรทั้งหลายของมุสลิมในอีสาน 3 ประชากรมุสลิมอีสานอ่อนแอเกินไปที่จะรวมตัวกันตรวจสอบพวกชั่วเหล่านี้ จึงปล่อยให้พวกชั่วเหล่านี้ลอยนวล  ให้ระวังไว้ หากปปช.สตง.ตรวจสอบอาจมีคน ที่มีชื่อเสียงติดคุกติดตารางให้เห็น เตือนไว้ว่าอย่าหากินกับองค์กรอิสลาม สักวันกรรมการเขาจะลุกขึ้นมาจัดการ และเปิดโปงเรื่องนี้ 

หมายเลขบันทึก: 402738เขียนเมื่อ 15 ตุลาคม 2010 07:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อัสลามมุอลัยกุมครับ

อ.ครับ กรุณาแก้ไข เรื่องชื่อผู้ถูกพาดพิง หรือคำที่รุนแรง ให้เบากว่านี้ได้มั้ยครับ เรากำลังจะขับเคลื่อนสิ่งเหลานี่เพื่อแนวทางที่ถูกต้อง จำเป็นต้องใช้ถ้อยคำที่เหมาะสมเพราะเราจะต้องเรียกร้องสิ่งเหล่านี้ต่อสื่อต่างๆ และเราจำเป็นต้องใช้บทความ อ. เป็นมูลฐานเพื่อเสนอต่อ พี่น้องของเรา ผมขออนุญาติ อ. ปรับ เรื่องภาษาได้มั้ยครับ เรารู้ว่ามันเป็นสิ่งที่อึดอัดมานาน และปัญหาที่รับไม่ได้จริงๆที่เกิดอยู่ตอนนี้ วันนี้เราจึงต้องออกมา เรานั้นทั้งอึดอัด ทั้งเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เราไม่รู้จะทำอย่างไร

จริงแล้วกรรมการ ไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่เป็นอยู่เลย ทั้งๆที่เสนอไปแล้ว แต่ทำไมผู้นำ ที่ตอนนี้ เราไม่ต้องการ กลับใช้อำนาจสิทธิขาดในการคิด ตัดสิน ใจด้วยตัวเอง หรือฟังแต่ครอบครัวตัวเอง แล้วประชุมให้กรรมการเขาเจ็บปวดใจทำไม

เขาทำลายทุกอย่าง ทำลายจิตใจ ทำลายชุมชน ทำลายความเป็นอยู่แบบพี่น้องมุสลิมหมดเกลี้ยง กรรมการหลายคนต้องลาออกเพราะไม่อยากทำงานกับงานที่ไม่โปร่งใส โดยเพราะงานศาสนา อีกหลายคนต้องอยู่ เพื่อติดตามการทำงานและ เสนอแย้งต่อไปแบบรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ฟัง แต่นั่นคือหน้าที่ ที่กรรมการที่อยู่ทำได้ เพราะหากทิ้งปัญหานี้ไว้ต่อไป เขาก็อาจจัดหาคนที่เป็นแนวคิดของเขาเข้ามาอยู่ในกรรมการ หากเป็นแบบนั้น มันจะแย่มากกว่านี้ กรรมการที่อยู่จึงไม่สามารถออกได้ ได้แต่รอความหวังว่าจะมีใครมาช่วยเหลือการทำงานที่เสียสละของพวกเขา ตอนนี้หลายคนได้จากเราไป อย่าให้กรรมการชุดนี้ได้หายไปหมดเลย

เพราะดูรูปการณ์แล้ว เขาบีบกรรมการให้ออกด้วยซ้ำ ทางอ้อม เหมือนจะบอกว่า ถึงงคุณค้านเราก็จะทำ พวกคุณทำอะไรเราได้

และเขาก็ดำเนินการแบบ ไม่โปรงใสมานานแล้ว กรรมการขอให้ผู้นำลาออกไปทำธุรกิจของตัวเองดีกว่า อะไรที่หามาได้จากองค์กรณ์ก็เอาไปเลย กรรมการจะดำเนินงานศาสนาจริงๆ ต่อ แต่แล้ว ผู้นำท่านนี้ก็ไม่ยอมออก โดยอ้างว่า เขาออกไม่ได้ เพราะเขาได้ไปหาทุนต่างๆ มาในนาม องค์กรณ์

ทุกคนถึงกับอึ่ง เพราะก่อนหน้านี้ ท่านบอกว่า ทุนต่างๆที่ได้มาไม่จำเป็นต้องให้คณะกรรมการรู้ เพราะเขาให้มาทำธุรกิจ ที่อยู่ภายใต้การดูแลขององคกรณ์ แต่องค์กรณ์ที่มีคณะกรรมการไม่เคยได้รู้เรื่องทุนเหล่านี้มาจากไหน มาเท่าไหร่ ม่าเพื่ออะไร มีแต่ท่านผู้นำคนนี้ ได้แต่แถลงการณ์ มันมิใช่การประชุมเหมือนเมื่อก่อนที่เคยมี อัลมัรฮูมฮารุณ ซะมาเด๊ะ อยู่เลย การเสียสละในการทำงานศาสนา มันเป็นไปแบบอบอุ่นมาก แต่ตอนนี้ เราไม่สามาถรทนต่อไปได้แล้ว

เขาขอเวลาสองปี แล้วเขาจะออก ขอเพื่ออะไร ถ้าขอเพื่อสร้างความดีให้พี่น้องมุสลิม ก็น่าจะอภัยได้ แต่นี้สองปีนี้มันกำลังเดินไปในทางที่ เขาเริ่มทำงานหนักเพื่อ เป็นฐานให้เขาในการทำธุรกิจของเขา และในสองปีที่จะถึงนี้ ปฏิเสทธไม่ได้เลยว่า สิ่งที่เขานำไปเสนอต่อสื่อต่างประเทศ และซื่อมุสลิม คือชื่อของเขา และชื่อของชุมชน และชื่อของ มุสลิมอีสาน มันน่าเจ็บปวดยิ่งนักที่ องกรณ์นี้เคยดำเนินการมาดีตลอดทำงานเพื่อศาสนาตลอด แต่เมืออยู่ๆ ผู้นำ เปลี่ยนวิถิการดำเนินงาน มุ่งไปในทางผลตอบแทนทางโลก องกรณ์นี้กำลังจะเสื่อม เพราะเรื่องเหล่านี้เริ่มเป็นที่รู้จักกันกว้างขึ้น ซึ่งกรรมการทั้งหมด ไม่เห็นชอบ ไม่เห็นด้วยใดๆทั้งสินกับการตัดสินใจของท่านผู้นำท่านนนี้ ด้วยความเคารพ เว้นแต่กรรมการยังเห็นท่านเป็นพี่น้องมุสลิมท่านหนึ่ง และเคยทำงานศาสนาในอดีตที่ดีงามมาด้วยกันเท่านั้น

เวลาที่เราคิดว่าท่านคงจะไม่ทำอย่างที่เราคิด แต่เวลาได้เป็นเครื่องพสูจน์แล้ว เพราะการดำเนินงานต่างๆของท่าน

เป็นสิ่งที่พี่น้องและคนส่วนมากไม่เห็นด้วย และเป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์แก่ตัวท่านและครอบครัวมากกว่าชุมชน

3 ปี ท่านทำให้เราเห็นแล้ว ว่าบทบาทการเป็นผู้นำของท่าน นั้น คือผู้นำของใคร หากชุมชนหมดความสรัธาในตัวท่านแล้ว หากท่านดำเนินการตามหลักอิสลาม และวัตถุประสงค์ขององค์กรณ์แต่เดิม ท่านคงมิต้องไปแจ้งเปลี่ยนวัตถุประสงค์ในที่ประชุมเมื่อมีคณะกรรมการแย้ง ท่านเปลี่ยนเพื่ออะไร เพื่อให้งานของท่านตรงตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของท่านกระนั้นหรือ

เราไม่ยอมให้สอง ปีต่อจากนี้ให้ท่านนำชุมชนที่อยู่รอบๆของท่าน นำไปขายเพื่อกระทำในสิ่งที่ชุมชนไม่ต้องการ

เรายังมีความเคารพต่อท่านอยู่เสมอ ขอให้ท่านหยุดดำเนินการ เบียงเบน โปรโมททตอบคำถามคนอื่นเลย เพียงท่านทำให้ชุมชนยอมรับท่าน เขาจะเป็นกระบอกเสียงให้ท่านเอง

ชุมชนต้องการผู้นำตามหลักศาสนาอิสลาม ดำเนินชีวิตแบบตอย่างท่านนบี ตามกีตาบุลลอฮฺ และซุนนะฮฺ มิใช่ดำเนินชีวิตในแบบที่ต้องมาตีความ คำสอนอิสลาม ให้เป็นทรรศนในแบบที่ตนดำเนินชีวิตอยู่

ช่วยเราด้วย

กรุณาซ่อนข้อมูลส่วนตัวเราด้วยครับ อ.

สวัสดีครับ

ยังไม่อ่านไม่หมดน่ะครับ แต่พออ่านนิดหนึ่งก็โดนใจเลย เพราะมันอยู่ในสายเลือดแล้ว คนเราต้องพูดความจริง แม้บางครั้งมันจะดูกระทบไปบ้าง แต่สังคมเรายังมีค่านิยมแบบนี้ ไม่งั้นก็คงไม่มีงานวิจัยออกมาแฉความไม่จริงของบางอย่าง

สาเหตุที่โดนใจเพราะเคยไปสอนที่นั้นแล้ว มีความคิดเดียวกับท่านที่มุ่งหวัง ส่วนเกิดจากปัจจัยอะไรนั้น เดี๋ยวผมจะมาพูดให้ฟังอีกที ตอนนี้ก็แสดงความคิดเห็นสั้นๆและกลับไปอ่านให้หมดอีกครั้ง

ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท