เห็นด้วยค่ะ ว่าการกินเจแล้ว ควรถือศีล อาจไม่นุ่งขาวห่มขาว แต่ทำใจให้บริสุทธิ์ไม่เบียดเบียนทั้งสัตว์และเพื่อนมนุษย์สัก ๙ วัน ถือว่าน่าจะได้บุญค่ะ
สวัสดีครับ คุณมาลีพันธ์ ขอบคุณสำหรับข้อคิดเห็นครับ จะได้บุญหรือไม่ผมคิดว่าไม่สำคัญครับ แต่สำคัญที่เรารู้สึกมีจิตใจที่ปลอดโปร่ง ก็คงน่าจะพอครับ
สวัสดีครับ ครูปู ผมเองก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้สักเท่าไหร่ และก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไรมากหรอกครับ ผมเห็นด้วยในเรื่องของสัจจะอฐิฐาน เมื่อเราตั้งใจจะทำสิ่งใดแล้วก็ต้องทำให้สำเร็จ เช่น ตั้งใจว่าจะถือศีลกินเจ ให้ครบอ 9 วัน ก็ทำให้สำเร็จ ถือเป็นการฝึกเรื่องของความตั้งใจ ส่วนจะได้บุญจากการกระทำหรือไม่ผมก็ไม่แน่ใจ จะว่าไปการนำเรื่องบุญไปเกี่ยวกับการกินผมก็ไม่เคยอ่านเจอในคำสอนของพระพุทธเจ้า หากนำไปเกี่ยวด้วยเราคงไม่ต้องกินอะไร เพราะแม้แต่กินข้าว ชาวนาก็ต้องไถนา เมื่อไถนาก็ต้องมีสัตว์ที่อยู่ในนาตายไปเป็นจำนวนมาก ไม่รวมชาวนาที่ถูกโกงแล้วเราซื้อข้าวมากินต่อ คนปลูกผักก็ต้องใช้ยาฆ่าแมลง ท้ายสุดผมก็ว่าเป็นเรื่องของเจตนา ส่วนเรื่องกรรมเป็นเรื่องอจินไตย อันนี้พระพุทธเจ้าสอนแน่ครับ
กินเจ. อิ่มบุญ หรือ ทรมานชีวิตกันแน่ ฆ่าหมู1ตัว นำเนื้อวางไว้. เนื้อนั้นก็จะเน่าเปื่อยผุพัง ย่อยสลายภายนอกในที่โล่งไปเอง. มิได้เพิ่มหมูขึ้นได้. เพราะ หมูตายแล้ว เด็ดผักแล้ววางไว้. เปลี่ยนใจไม่ผัด เอาไปทิ้งลงดิน. ผักเจริญเติบโตแตกใบแตกยอดขยายพันธิ์ได้ เพราะ พืชยังไม่ตาย. ผักแห้งๆ ผักเก่าๆในตู้เย็นในครัว. ลงดินล้วนเกิดการเจริญเติบโตได้. ปัจจุบันเห็นแล้ว รู้แล้วว่า. พืชยังไม่ตายแม้อยู่ในครอบครองของมนุษย์. แล้วสนุกสนาน อิ่มบุญกันจริงแล้วหรือ ที่โยนสิ่งมีชีวิตที่เติบโตช้า เคลื่อนที่ช้า หนีอันตรายไม่ได้ สมดุลย์ออกซิเจน คารบอนไดออกไซด์ให้มนุษย์ให้บรรยากาศ. ลงในกระทะร้อนๆ ไฟแรงๆ น้ำมันเดือดๆ. มันอิ่มบุญจริงแล้วหรทอนั่น เคยตรองกันบ้างไหม มิได้ยุยงให้เลิกกินผัก. แต่ขอจุดประกายในปัญญาธรรมแก่เพื่อๆธรรมทุกๆคนไว้ในวันนี้ว่า. จะบริโภคผักก็บริโภคเถิด. แต่พ้นจากบันเทิงจากการเสพวรรณกรรมว่าได้บุญ ว่าไม่ต้องฆ่าสัตว์. นั่นคุณทรมานสิ่งมีชี้วิตทั้งเป็นอยู่รู้กันบ้างไหม. แล้วผู้ดีงามที่ท่านว่าเขาแนะนำ. แน่ใจแล้วหรทอว่าแนะให้ท่านได้บุญ(พนัน) มีบารมี(พึ่งพาบารมี) ยังมีอีกหลายเรื่อง. ยิสดีจะนำมากล่าว. เพราะมันคือความจริง ที่ท่านๆถูกปิดกั้น. และหลงกันอยู่.