KM0032 : กินเจกับการได้บุญ


ดังนั้นผมอยากให้เราพูดถึงหลักคิดที่ถูกต้องแก่คนรุ่นหลัง จุดสำคัญของการกินเจ คือ การถือศีล ไม่ใช่เดินไปซื้ออาหารเจ นั่งกินอาหารเจในภัตรคา
ช่วงนี้ไปไหนมาไหนก็เห็นแต่ธงสัญลักษณ์ "กินเจ" พร้อมกับบอกว่า "สร้างบุญกุศลด้วยการกินเจ" หรือ "กินเจได้บุญ" ทำให้ผมเริ่มสงสัยว่าการไม่กินเนื้อสัตว์หันมากินผักแล้วจะได้บุญจริงหรือ หลายคนพยายามอธิบายว่าก็ละเว้นจากการทำลายชีวิตสัตว์ก็ได้บุญไง มันจะง่ายขนาดนี้เลยหรือ? ผมไม่ปฏิเสธว่าการกิจเจหรือมังสวิรัติเป็นเรื่องที่ดี เพราะช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี แต่ก็สำหรับช่วงวัยผู้ใหญ่ขึ้นไป แต่ที่ผมกังวลใจคือ การสร้างกระแสที่ีผมไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือไม่ คำที่พูดกันค่อนข้างคุ้นหูเมื่อก่อนคือ "ถือศีล กินเจ" ค่อยๆ หายไป สำหรับผมแล้วสิ่งที่สำคัญกว่าการกินเจคือการถือศีล ซึ่งปัจจุบันเราไม่ค่อยพูดกัน มักไปเน้นคำหลังมากกว่าคือ กินเจ และสุดท้ายก็กลายเป็นธุรกิจ หรือเชิงพานิชณ์ไป จนคนรุ่นใหม่ๆ อาจไม่เข้าใจ
ที่มาที่ไปของการกินเจก็เริ่มต้นจากประเทศจีน เมื่อประมาณ ๔๐๐ กว่าปีมานี่เอง ผมคงไม่เขียนถึงเพราะหาอ่านได้ในอินเตอร์เนต แต่วัตถุประสงค์เริ่มต้นไม่ได้เพื่อต้องการสร้างบุญแต่อย่างใด เมื่อคนจีนเข้ามาในประเทศไทยก็นำประเพณีนี้เข้ามาด้วย ผสมผสานกับศาสนาพุทธ ซึ่งพูดถึงศีลข้อที่ ๑ ก็เลยกลายเป็นเรื่องบาปบุญคุณโทษไป และกลายเป็นว่ากินเจแล้วจะได้บุญ จนอาจมองได้ว่าคนไม่กินเจทำบาป หากจะว่ากันไปจริงๆ การจะขาดศีลปาณาติบาตหรือไม่นั้น พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้ชัดเจนว่าอยู่ที่เจตนา คือมีความคิดที่จะฆ่า ก็มีคนถามอีกว่าแล้วถ้าเราไม่กินแล้วสัตว์จะถูกฆ่าหรือ ก็ถูกของคนถาม แต่สำหรับผมคิดว่าไม่เกี่ยวกับการสร้างบุญ แต่เป็นการไม่ให้คนอื่นสร้างบาป ก็กลับมาที่ตัวเรา คำถามคือเราอยากทานเนื้อสัตว์เหล่านั้นเพราะเราอยากทาน หรือเราทานเพื่อดำรงชีวิตอยู่ พระท่านสอนให้เราคิดแบบหลัง หากเราทำได้อย่างหลังเราก็ไม่มีเจตนา
ดังนั้นผมอยากให้เราพูดถึงหลักคิดที่ถูกต้องแก่คนรุ่นหลัง จุดสำคัญของการกินเจ คือ การถือศีล ไม่ใช่เดินไปซื้ออาหารเจ นั่งกินอาหารเจในภัตรคาร เดินกินอาหารเจในเทศกาลอาหารเจตามห้างสรรพสินค้าชื่อดัง แล้วบอกว่าได้บุญ ขณะที่กินเสร็จก็นั่งนินทาคนโน้นคนนี้ หรือผิดศีลข้ออื่นๆ ไปด้วย อย่าให้การกินเจกลายเป็นเทศกาลหรือแฟชั่นที่คนกินคิดว่าได้บุญ บุญต้องเกิดจาก "ทาน ศีล ภาวนา" ตามที่พระบรมศาสดาเราสอนครับ
ขอให้สุขภาพดีกับการกินเจครับ
คำสำคัญ (Tags): #km
หมายเลขบันทึก: 402174เขียนเมื่อ 12 ตุลาคม 2010 00:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน 2012 22:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

เห็นด้วยค่ะ ว่าการกินเจแล้ว ควรถือศีล อาจไม่นุ่งขาวห่มขาว แต่ทำใจให้บริสุทธิ์ไม่เบียดเบียนทั้งสัตว์และเพื่อนมนุษย์สัก ๙ วัน ถือว่าน่าจะได้บุญค่ะ

  • เราลืมคำว่าถือศีล ไปแล้วจริงๆ เหลือแต่คำว่ากินเจ
  • แต่...จริงๆแล้วครูปูคิดว่าศีลนั้นยังอยู่  ไม่ได้ไปไหน
  • เพียงแค่เราไม่ได้ไปตั้งปณิธานกับพระหรือเจ้าแม่กวนอิม  ทำให้หมายถึงว่าเราไม่มีศีล
  • มีคนบอกว่ากินเนื้อสัตว์มานับได้ก็หลายชีวิต  หยุดกินไปสัก 10 วันอาจจะทำให้สัตว์ทั้งหลายมีโอกาสรอดชีวิตนานขึ้น  ครูปูถือว่ามีศีลแล้วนะคะ
  • มีคนบอกว่ากินมาก็เยอะแล้ว  กิน(เนื้อ)ให้น้อยลง  เพื่อรักษาสุขภาพและทำให้ร่างกายสะอาดขึ้น  ครูปูถือว่ามีศีลแล้วนะคะ
  • เพราะอะไรคะ...อย่างน้อยๆเลยก็เป็นการฝึกความอดทนอดกลั้น  และที่สำคัญคนที่รู้จักรักตัวเองก็ถือว่ามีศีลได้ใช่หรือไม่คะ
  • ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้  ครูปูต้องเป็นคนมีศีลต่ำแน่ๆเลย  เพราะ "ไม่มังสวิรัติ" ค่ะ

 

สวัสดีครับ คุณมาลีพันธ์ ขอบคุณสำหรับข้อคิดเห็นครับ จะได้บุญหรือไม่ผมคิดว่าไม่สำคัญครับ แต่สำคัญที่เรารู้สึกมีจิตใจที่ปลอดโปร่ง ก็คงน่าจะพอครับ

สวัสดีครับ ครูปู ผมเองก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้สักเท่าไหร่ และก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไรมากหรอกครับ ผมเห็นด้วยในเรื่องของสัจจะอฐิฐาน เมื่อเราตั้งใจจะทำสิ่งใดแล้วก็ต้องทำให้สำเร็จ เช่น ตั้งใจว่าจะถือศีลกินเจ ให้ครบอ 9 วัน ก็ทำให้สำเร็จ ถือเป็นการฝึกเรื่องของความตั้งใจ ส่วนจะได้บุญจากการกระทำหรือไม่ผมก็ไม่แน่ใจ จะว่าไปการนำเรื่องบุญไปเกี่ยวกับการกินผมก็ไม่เคยอ่านเจอในคำสอนของพระพุทธเจ้า หากนำไปเกี่ยวด้วยเราคงไม่ต้องกินอะไร เพราะแม้แต่กินข้าว ชาวนาก็ต้องไถนา เมื่อไถนาก็ต้องมีสัตว์ที่อยู่ในนาตายไปเป็นจำนวนมาก ไม่รวมชาวนาที่ถูกโกงแล้วเราซื้อข้าวมากินต่อ คนปลูกผักก็ต้องใช้ยาฆ่าแมลง ท้ายสุดผมก็ว่าเป็นเรื่องของเจตนา ส่วนเรื่องกรรมเป็นเรื่องอจินไตย อันนี้พระพุทธเจ้าสอนแน่ครับ

กินเจ. อิ่มบุญ หรือ ทรมานชีวิตกันแน่ ฆ่าหมู1ตัว นำเนื้อวางไว้. เนื้อนั้นก็จะเน่าเปื่อยผุพัง ย่อยสลายภายนอกในที่โล่งไปเอง. มิได้เพิ่มหมูขึ้นได้. เพราะ หมูตายแล้ว เด็ดผักแล้ววางไว้. เปลี่ยนใจไม่ผัด เอาไปทิ้งลงดิน. ผักเจริญเติบโตแตกใบแตกยอดขยายพันธิ์ได้ เพราะ พืชยังไม่ตาย. ผักแห้งๆ ผักเก่าๆในตู้เย็นในครัว. ลงดินล้วนเกิดการเจริญเติบโตได้. ปัจจุบันเห็นแล้ว รู้แล้วว่า. พืชยังไม่ตายแม้อยู่ในครอบครองของมนุษย์. แล้วสนุกสนาน อิ่มบุญกันจริงแล้วหรือ ที่โยนสิ่งมีชีวิตที่เติบโตช้า เคลื่อนที่ช้า หนีอันตรายไม่ได้ สมดุลย์ออกซิเจน คารบอนไดออกไซด์ให้มนุษย์ให้บรรยากาศ. ลงในกระทะร้อนๆ ไฟแรงๆ น้ำมันเดือดๆ. มันอิ่มบุญจริงแล้วหรทอนั่น เคยตรองกันบ้างไหม มิได้ยุยงให้เลิกกินผัก. แต่ขอจุดประกายในปัญญาธรรมแก่เพื่อๆธรรมทุกๆคนไว้ในวันนี้ว่า. จะบริโภคผักก็บริโภคเถิด. แต่พ้นจากบันเทิงจากการเสพวรรณกรรมว่าได้บุญ ว่าไม่ต้องฆ่าสัตว์. นั่นคุณทรมานสิ่งมีชี้วิตทั้งเป็นอยู่รู้กันบ้างไหม. แล้วผู้ดีงามที่ท่านว่าเขาแนะนำ. แน่ใจแล้วหรทอว่าแนะให้ท่านได้บุญ(พนัน) มีบารมี(พึ่งพาบารมี) ยังมีอีกหลายเรื่อง. ยิสดีจะนำมากล่าว. เพราะมันคือความจริง ที่ท่านๆถูกปิดกั้น. และหลงกันอยู่.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท