นกกระจาบฝูงนั้น


ช้าๆ เบาๆ สบายๆ
เช้าตรู่วันอังคาร ที่ 18 กค. 2549
บันทึกโดย อ. ดร. ทิพย์สุดา ตั้งตระกูล

ขอบคุณมากค่ะสำหรับสิ่งดีๆ ที่พี่ๆ น้องๆ และเพื่อนๆ ในแม่โจ้ที่ให้ความร่วมมือในกิจกรรม KM ตลอดจนการบอกเล่าความประทับใจที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมKM จากทั้งสองครั้งที่จัดไปแล้ว (เปิดตัว KM มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และสนทียสนทนา) ฟังจากเมื่อวานนี้ก็ปลื้มใจมากแล้วนะคะ พอมาเปิด mail เช้าวันนี้ ก็มีทยอยเล่ามาให้ฟังเรื่อย ๆ เหล่านี้ทำให้พวกเราคณะทำงานมีความปลื้มใจและสิ่งนี้ก็คือกำลังใจที่ทำให้พวกเรายิ่งต้องทำงานให้ดีมากขึ้นค่ะ คณะทำงานนอกจากทิพย์และคณะกรรมการหลายท่านแล้ว คนที่เป็นกำลังสำคัญในการจัดงานในครั้งนี้ก็คือพี่อังกาบ (พี่อ้อย) และพี่นัยนา (พี่นุ้ย) และบุคคลที่มีบทบาทสำคัญ และเป็นผู้ที่สนับสนุนให้เมล็ดพันธุ์ KM หยั่งรากลงในพื้นดินแม่โจ้ ก็คือ รศ. เพ็ญรัตน์ หงษ์วิทยากร และพวกเราขอขอบพระคุณอาจารย์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ

กิจกรรมต่อไปที่จะมีขึ้นก็คือตลาดนัดความรู้, CoP และ Best Practice ซึ่งได้ตั้งประเด็นไว้ว่าจะเน้นเรื่องงานวิจัยเป็นหลัก (แต่ถ้าหน่วยงานใดคิดจะนำเสนอ Best Practice ในหัวข้ออื่นก็ได้นะคะ) ซึ่งงานนี้หน่วยงานต่างๆ ของแม่โจ้ จะมีบทบาทได้มาร่วมกันนำเสนอ Best Practice ของหน่วยงานตนเอง ก็ขอเชิญไว้ล่วงหน้าเลยนะคะสำหรับวันงานจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะคะ แต่คาดว่าจะเป็นกลางเดือนสิงหาคมค่ะสมาชิกท่านใดมีข้อเสนอแนะใด ๆ  ขอเรียนเชิญนะคะ

อ. ทิพย์

บันทึกโดยอาจารย์ชลธิชา  รุ่งสาตรา มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ
 สวัสดีค่ะ อ.ทิพย์
ดิฉัน อ.ชลธิชา รุ่งสาตรา จากแม่โจ้-แพร่ค่ะ 
ดิฉันอยากจะบอกเล่าถึงความรู้สึกถึงการได้เข้าร่วมงาน MJUKM ทั้ง 2 ครั้งค่ะ 
 ครั้งที่ 1 เป็นบรรยากาศงานเปิดตัว 
ครั้งแรกก็ยังไม่เข้าใจหัวข้อตอนที่ได้รับเชิญไป คิดว่าคงเป็นเนื้อหาเครียดๆ 
เชิงวิชาการ แต่เมื่อได้เข้าร่วมกิจกรรมแล้ว รู้สึกว่าไม่เครียดอย่างที่คิด 
รู้สึกว่าในแต่ละบุคคลมีความคิด ความรู้อะไรดีๆ อีกเยอะที่เราไม่ได้นำเอาออกมาใช้ 
สำหรับครั้งที่ 2 คือเรื่อง สุนทรียสนทนา หลังจากเข้าร่วมรู้สึกว่ามีความสุขมาก 
และอยากแบ่งปันความสุขเหล่านี้ให้กับคนรอบข้าง อยากให้ทุกคนตั้งใจฟังด้วยใจ 
อยากพูดทุกๆ อย่างที่ออกมาจากใจ ดังนั้น จึงมีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกิจกรรม
 MJUKM ที่ดีๆ แบบนี้ อีกค่ะ ขอบคุณค่ะ

 อาจารย์ชลธิชา  รุ่งสาตรา  

บันทึกโดย  พี่น้อย (ผศ.ดร.ปฏิภาณ สุทธิกุลบุตร) p12033@yahoo.com 

เมือวานคงต้องบอกว่าได้อะไรมากมายนะ ได้ใจ ได้คน ได้ความรู้ ได้ความรู้สึกดีๆ เเละได้ข้อคิดๆกลับไปบ้านไปเล่าให้พ่อเเม่เมียเเละลูกฟัง(คนสุดท้ายนอนฟัง..คงไม่เข้าใจ) ..ทุกคนฟังเเล้วก็มีความสุขนะ..ตอนเช้าลองทำกิจกรรมก้าวถอยหลังกะนศ.ที่เรียน..จากเมือวาน ปีทีเเล้ว จากบ้าน เเละบ้านหลังเเรก....ดูนศ. มีสมาธิเรียนมากถึงนะ.(คาดว่านะ) จากกิจกรรมเมือวานขอบันทึกว่า..เห็นวิญญานสัตว์ในร่างเรา....ดีใจที่อยู่ในลูกโป่งสีฟ้าอ่อนๆใบเดียวกัน....ช้าๆ เบาๆ..สบายๆ.. 

ขอเป็นกำลังใจทำงานด้วยต่อไปนะ

พีน้อย 

บันทึกโดยพี่นงลักษณ์  ปูระณะพงษ์

สิ่งที่ได้จากการเรียนรู้1. ฟัง --> คิด --พูด2. ควรทำให้ร่างกายผ่อนคลายแบบช้าๆ เบาๆ สบายๆ3. คนทุกคนมีจิตใต้สำนึกที่ดีมีพลัง แต่ยังไม่ดึงพลังที่ดีมาแสดงออก4. เรียนรู้จิตใจตัวเอง นำมาพัฒนาและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น5. พิจารณาตนเองบ่อยๆ ไม่ตัดสินความผิดถูกของผู้อื่น

นงลักษณ์  ปูระณะพงษ์18-07-2549 

บันทึกโดยพี่อ้อมทิพย์

ไม่ค่อยเห็นการประชุม สัมมนา หรืออบรมที่ไหน ที่จบแล้วผู้คนที่เข้าร่วมจะมีความสุขกันถ้วนหน้าอย่างนี้ขอบอกว่าประทับใจที่เห็นทุกคนมีรอยยิ้มให้แก่กันและมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะนำเอาสิ่งที่ได้เรียนรุ้กลับไปใช้ ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน  ทำให้เข้าใจ "สุนทรียสนทนาว่าเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า" ได้ชัดเจนมากขึ้นวันนี้จึงพยายามบอกตัวเองว่า "ช้าๆ เบาๆ และผ่อนคลาย"ขอบคุณทุกคนและ ทุกสิ่งแวดล้อมที่เอื้อให้เกิดความดี ความงามและความสุข 

อ้อมทิพย์    

บันทึกโดย อ. พงษ์ศักดิ์ รวมทรัพย์

สุนทรียสนทนา

นกกระจาบฝูงนั้น

คงจะจำฝูงนกกระจาบที่ติดบ่วงแหนายพรานได้นะครับ ใช่ครับนกกระจาบฝูงนั้นแหละ ฝูงเดียวในประวัติศาสตร์ความทรงจำของพวกเราก็ว่าได้ จำได้ใช่ไหมครับที่พวกมันพร้อมใจพากันบินยกบ่วงแหขึ้นจากพื้นเพื่อพาฝูงให้หลุดพ้นและไปสู่อิสรภาพอีกครั้ง ผมจินตนาการถึงตอนที่ฝูงนกกระจาบติดบ่วงแหอยู่นั้น ในตอนแรกแต่ละตัวต่างตื่นตระหนกตกใจด้วยเกรงว่าจะต้องตกเป็นเหยื่อนายพราน จึงต่างดิ้นรนเพื่อจะเอาตัวรอด กระพือปีกกันคนละทิศละทาง ส่งเสียงเซงแซ่จนฟังไม่ได้ศัพท์ เรียกได้ว่าไม่มีใครฟังใครเลยทีเดียว แต่ความพยายามจะหลุดพ้นจากพันธนาการของแต่ละตัวก็ไม่เป็นผล บ่วงแหยังคงครอบคลุมฝูงนกไว้ อย่างไรก็ตาม อย่างที่พวกเราจำกันได้ ในที่สุดฝูงนกกระจาบก็สามารถผ่านวิกฤตไปได้ พวกมันทำได้อย่างไร น่าสนใจใช่ไหมครับ หลายคนอาจจะรู้คำตอบแล้ว ใช่ครับ บรรดานกกระจาบทั้งหลาย คุย กันครับ คุยกันอย่าง ออกรสออกชาติ เสียด้วย จากใจนกสู่ใจนกเลยทีเดียว พวกมันคงบอกต่อๆ กันไปในฝูงว่าจะต้องขยับปีกกันจังหวะไหน ความเร็วเท่าไร นับหนึ่ง สอง สาม พร้อมกัน นกที่มีชั่วโมงบินมากกว่าก็คงถ่ายทอดประสบการณ์และกลเม็ดเคล็ดลับที่สั่งสมมาที่จะขยับปีกอย่างไรให้ได้แรงลมพยุงปีกมากขึ้นแก่นกที่มีชั่วโมงบินน้อยกว่า จะต้องแปรขบวนบินเป็นแบบไหนตอนที่จะยกแหขึ้นจากพื้นและตอนที่จะออกจากแหระหว่างที่ฝูงกำลังบินอยู่กลางอากาศ ผมคิดว่านกกระจาบทุกตัวในตอนนั้นคงต้องคุยกันอย่างดี มีปุจฉา วิสัชนา รับฟังกันและกันไม่อย่างนั้นพวกมันคงจะไม่ได้อิสรภาพคืนมาเป็นแน่แท้ ผมคิดว่าในช่วงเวลาแห่งวิกฤตนั้น ฝูงนกกระจาบได้เข้าถึงสุนทรียสนทนานั่นเอง 

นายพงษ์ศักดิ์ รวมทรัพย์

อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์

บันทึกโดยพี่อาบทิพย์  มงคลเทพ   

อ่านเรื่องนกกระจาบแล้วอยากคุยแบบนกกระจาบบ้าง เผื่อจะมีนกกระจาบตัวอื่น ๆ มาเข้าฝูงบ้างคุยถึงการอบรมสุนทรียสนทนาได้อะไรเกินกว่าที่คิด ได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง ดูตัวเองย้อยหลังมีโอกาสได้นำประสบการณ์ของตนเองและของเพื่อนพ้อง(ที่บางคนไม่มีโอกาสพูดกัน) ย้อนหลังในวัยเด็กกลับมาคิดและคิดให้ได้ว่าจะเอามาใช้ประโยชน์อย่างไร  ไม่น่าเชื่อว่าการอบรมจะทำให้เรามั่นใจสามารถเล่าเรื่องส่วนตัวให้คนที่เราไม่เคยพูดด้วยฟัง ...แล้วเขาก็ฟังนอกจากนั้นยังมีผู้คนมากมายบอกความสามารถให้เราฟังโดยที่เราอดที่จะภูมิใจกับความสามารถของเขาเหล่านั้นไม่ได้  ช้า ๆ เบา ๆ สบาย ๆ ดีจริง ทดลองใช้การฟังอย่างตั้งใจมา 2 วันแล้ว อยากบอกว่า ดี มาก ๆอยากให้ทุกคนมีโอกาสร่วมกิจกรรม ดี ๆ และดีมาก ๆ แบบนี้อีก ขอบคุณผู้จัดคะ 

อาบทิพย์  มงคลเทพ 

คณะบริหารธุรกิจ

หมายเลขบันทึก: 40149เขียนเมื่อ 21 กรกฎาคม 2006 18:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:49 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อ่านเรื่องราวแล้วมีความสุขค่ะ

ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท