การเก็บรวบรวมข้อมูล
เครื่องมือและการเก็บรวบรวมข้อมูล
ก่อนใช้เครื่องมือและวิธีการใดๆ ในการเก็บรวบรวมข้อมูล สิ่งแรกที่นักวิจัยต้องพิจารณาตอบตนเองให้ได้ คือ ข้อมูลที่จะเก็บรวบรวมมีลักษณะอย่างไร ซึ่งข้อมูลในงานวิจัยนั้นอาจแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ ข้อมูลที่แสดงถึงคุณลักษณะของปรากฏการณ์หรือตัวแปรที่ทำการศึกษาซึ่งเรียกว่า ข้อมูลเชิงคุณภาพ (Qualitative data) ได้แก่ เหตุการณ์ เรื่องราว ขนบธรรมเนียม ประเพณี วิถีชีวิต เป็นต้น ในขณะที่ข้อมูลอีกประเภทหนึ่งจะเป็นข้อมูลที่แสดงถึงปริมาณหรือจำนวนของปรากฏการณ์หรือตัวแปรที่ต้องการศึกษา เรียกว่า ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative data) ข้อมูลประเภทนี้ได้แก่ จำนวนหรือตัวเลขที่กำหนดขึ้นแทนค่าของตัวแปร เช่น น้ำหนัก อายุ ส่วนสูง รายได้ อุณหภูมิ เป็นต้น
ซึ่งลักษณะข้อมูลเหล่านี้เป็นสิ่งที่นักวิจัยจำเป็นต้องจำแนกให้ได้ว่าในการดำเนินงานวิจัยของตนนั้นต้องการเก็บรวบรวมข้อมูลใด อันจะนำไปสู่การตัดสินใจเลือกใช้เครื่องมือและวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลได้เหมาะสมกับข้อมูลที่ตองการ ซึ่งเครื่องมือและวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นก็มีหลายประเภทขึ้นอยู่กับการใช้เกณฑ์แบ่ง สำหรับเครื่องมือที่ผู้เขียนจะนำเสนอในวันนี้เป็นความรู้ที่ได้จากการเรียนการสอนในรายวิชาระเบียบวิธีวิจัยขั้นสูง (390611) และการอภิปรายร่วมกันกับเพื่อนในชั้นเรียน โดยแบ่งออก เป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1) ประเภทวัสดุอุปกรณ์ (Material and hardware) เป็นเครื่องมือที่มีลักษณะเป็นวัสดุอุปกรณ์ที่บุคคลสร้างขึ้นเพื่อใช้เก็บข้อมูลเชิงกายภาพ ตัวอย่างเช่น เครื่องชั่ง ตวง และวัด ถ้วยตวง กระบอกตวง ไม้บรรทัด ตลับเมตร เป็นต้น นอกจากเครื่องมือที่กล่าวนี้แล้วเครื่องทางการแพทย์บางอย่าง เช่น เครื่องวัดอัตราการเต้นของชีพจร และความดันโลหิต ก็จัดอยู่ในเครื่องมือการเก็บรวบรวมข้อมูลประเภทนี้ด้วยเช่นกัน
2) ประเภทไม่ใช้ภาษา (Non - verbal) เป็นเครื่องมือที่ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นหรือสิ่งเร้า จะมีลักษณะเป็นภาพหรือชิ้นส่วนวัสดุสิ่งของ ซึ่งจะนำไปให้บุคคลลงมือปฏิบัติหรือพิจารณาแล้วตอบคำถาม เครื่องมือประเภทนี้ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลทางจิตภาพในส่วนที่เป็นทั้งข้อมูลสติปัญญาและข้อมูลทางบุคลิกภาพ เช่น แบบทดสอบประกอบการหรือการปฏิบัติ (Performance test) เพื่อวัดสติปัญญา ซึ่งอาจมีลักษณะเป็นลูกบาศก์ (ทำด้วยไม้หรือพลาสติก) และกระดาษหรือภาพชิ้นส่วน เป็นต้น
3) ประเภทใช้ภาษา (Verbal) เป็นเครื่องมือที่มีลักษณะเป็นเอกสารสิ่งพิมพ์ ทำหน้าที่เป็นสิ่งเร้าโดยให้บุคคลอ่านแล้วตอบคำถามโดยการเขียนหรือทำเครื่องหมายตอบ เครื่องมือประเภทนี้เป็นที่รู้จักและนิยมใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างแพร่หลาย ซึ่งแบ่งเป็นหลายประเภท ได้แก่ แบบสำรวจรายการ มาตราส่วนประมาณค่า แบบสอบถามและแบบทดสอบ เป็นต้น
4) ประเภทเทคนิควิธีการ (Technique or method) นอกเหนือจากเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่กล่าวมา ยังมีข้อมูลบางประเภทที่ไม่เหมาะสมหรือไม่สามารถจะใช้เครื่องมือเหล่านั้นเก็บรวบรวมได้ ข้อมูลที่ว่านี้ได้แก่ เหตุการณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้นตามปกติในชีวิตประจำวันหรือในอดีต ความรู้สึกนึกคิดของบุคคลที่มีต่อสิ่งต่างๆ ข้อมูลเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ตัวนักวิจัยเป็นเครื่องมือเก็บข้อมูล โดยเทคนิควิธีการเก็บข้อมูลต่างๆ ได้แก่ การสังเกต การสัมภาษณ์ และการสนทนากลุ่ม เป็นต้น
สำหรับครั้งต่อไปผู้เขียนจะอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิควิธีการเก็บข้อมูลต่างๆ อันได้แก่ การสังเกต การสัมภาษณ์ และการสนทนากลุ่ม ว่ามีวิธีการดำเนินการอย่างไร แล้วพบกันในชั่วโมงต่อไปนะค่ะ
เอกสารอ้างอิง
รัตนะ บัวสนธ์. (2551). ปรัชญาวิจัย (Philosophy of Research). กรุงเทพฯ. สำนักพิมพ์แห่ง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อรุณี อ่อนสวัสดิ์. (2553). เอกสารประกอบการบรรยาย วิชา ระเบียบวิธีวิจัยขั้นสูง (390611).
พิษณุโลก. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ดีมากครับ จะได้ช่วยให้งานวิจัยมีคุณภาพมากขึ้นเพราะการเก็บข้อมูลที่ดีเช่นนี้