"ดอกแค" ไม่ "แคร์" สื่อ!!!!!!


เก็บภาพ "ต้นแค-ดอกแค"จาก กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรสายใยรักตำบลพรานกระต่าย เมื่อวานนี้เองครับ......

                                    -ช่วงนี้จะได้ยินคำว่า....อย่าได้ "แคร์" ....หรือว่า....ไม่ต้อง "แคร์สื่อ".....ออกมาบ่อย ๆ ครับ.....ชักสงสัย...ว่า.."หมายถึงอะไร???" กันหนอ....55555...ขึ้นต้นเรื่องแบบนี้......แล้วผมจะโยงไปหาเรื่องของ "ดอกแค" แบบไหนดีละครับ..ชัก งง งง......เอาเป็นว่า.... วันนี้...."ดอกแค...ไม่...ต้อง "แคร์สื่อ" อีกต่อไป...ก็แล้วกัน....นะครับ!!!!! 5555

1.เมื่อวานไป"กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรสายใยรักตำบลพรานกระต่าย" มาครับ.....ที่บ้านมี "ต้นแค" ออก "ดอกสีขาว"...อวบ ๆ น่า.....กิน....ก็เลยขอเก็บภาพมาฝากท่านผู้อ่านกันซักหน่อย....บางคนเรียกตามสีที่เห็น เช่น "แคขาว,แคแดง,แคดอกขาว,แคดอกแดง" ครับ....."แค" เป็นพืชยืนต้น  จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง  แต่บางสายพันธุ์จะมีขนาดเล็ก  ต้นเตี้ย  ซึ่งชาวบ้านจะเรียกว่า "แคเตี้ย" หรือบางแห่งเรียกว่า "แคตอแหล"  ใบเป็นใบรวม  ดอกมีสีขาวหรือสีแดง  เปลือกต้นเป็นเกล็ด  ครับ.......

2.ส่วนที่นำมาเป็นอาหารก็คือ "ยอด" และ "ดอก" ครับ....นำมาแกงส้ม  ลวกจิ้มน้ำพริก  ชุบแป้งทอด......ในหนังสือเขาบอกไว้ว่า....."ดอกแค" มีคุณค่าทางโภชนาการ คือ ประกอบด้วย โปรตีน  แคลเชี่ยม  ฟอสฟอรัส  เหล็ก  วิตามินเอ  เบต้าแคโรทีน  วิตามินบี 1  วิตามินซี  ใน"ยอดของแค" จะมีสารอาหารมากกว่า "ดอกแค" ครับ.......

สรรพคุณทางสมุนไพร...เขาบอกว่า....

1."เปลือกแค" ใช้เปลือกต้นสด ๆ ไปต้มใส่น้ำพอท่วมเติมเกลือเล็กน้อย  เมื่อเดือดแล้วทิ้งไว้ประมาณ  15  นาที  นำน้ำต้มไปล้างแผล  แผลจะแห้ง และหายเร็วครับ.....

2. "ยอดแค และดอกแค" ใช้แก้หวัด  ถอนพิษไข้ แก้ปวดศรีษะ  ใช้เป็นยาระบายอ่อน ๆ บำรุงจิตใจให้แจ่มใส  แก้โรคนอนไม่หลับ  และ "บำรุงเลือด" ด้วยหละครับ.......

                       "แค"มีประโยชน์อื่น ๆ อีกมายมาย.....หากใครสนใจต้องติดตามต่อได้ที่นี่ครับ.... http://www.kow-krua.com/herb/kae-kow.html 

                 เป็นยังไงกันบ้างครับ.....สำหรับ..."ดอกแค" ไม่ "แคร์สื่อ" ของผม!!!!...... 5555

                                                                                   สวัสดีครับ.....

                                                                                         เพชรน้ำหนึ่ง

                                                                                          04/10/2553

ปล.ขอขอบคุณข้อมูลเรื่อง "แค" จาก www.kow-krua.com  และ www.panmai.com  ด้วยนะครับ.... 

หมายเลขบันทึก: 400879เขียนเมื่อ 4 ตุลาคม 2010 18:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ขอบคุณค่ะ..แกงส้มดอกแค กำลังขึ้นเมนู แก้หวัดหัวลมนะคะ..

ได้ยินเขาเรียก "แคตอแหล" เหมือนกัน

เรียกซะ ชัดเจนเลยนะคะ เห็นภาพ

  • เข้ามาเรียนเรื่องพืชเพิ่มเติม
  • สองวันก่อนไปเที่ยวสุรินทร์ เห็นหลานๆพากันนั่งล้อมวง ทานกันน่าอร่อยเลยลองทาน เจ้าผลนี้ คือผลอะไรค่ะ

ช่วยตอบทีลองลิ้มชิมรสครั้งแรกก็ติดใจ รสเปรี้ยวคล้ายมะขามค่ะ

สวัสดีค่ะIco64

  เห็นแล้วอยากกินแกงส้มดอกแคค่ะ (คุณยายเนี่ยเรื่องกินเรื่องท่องเที่ยวต้องยกให้เลยค่ะ)

สวัสดีค่ะ

สูตรของยายคิมนะคะ  ดอกแคชุบแป้งโกกิ ทอดกรอบ  เตรียมเครื่องยำ ใส่หมูสับและกุ้งแห้งเล็กน้อย

ย้ำยายไหยป่าว

-สวัสดีครับ...

Ico32
นาง นงนาท สนธิสุวรรณ  "แกงส้มดอกแค" แก้ "ไข้หัวลม" น่าสนใจ....นะครับ....
 
ครู ป.1  ครับ..."แคตอแหล" ตามข้อมูลเขาบอกไว้ว่า "ต้นจะเตี้ย" น่าจะหมายถึงมันออกดอกไวไปหน่อยละมั้งครับ5555
 
Ico32
✿อุ้มบุญ✿  ผลไม้ป่า......ผลนี้...ยังไม่เคยเห็นครับ....อยากรู้เหมือนกันว่า "มันคือผลอะไร??"
Ico32
คุณยาย  เป็นเรื่องธรรมดา..ครับ...เรื่องกิน กับเที่ยว ใคร ๆ ก็ชอบครับ  คุณยาย.......
Ico32
ยายคิม  ยายคิม...คนนี้ชอบ "ยำดอกแค" น่าจะอร่อย...เปรี้ยว ๆ กรอบ ๆ อย่างนี้....คงจะ "อ้วนพี" แล้วหละครับ.....
-ขอบคุณครับ....

สวัสดีค่ะคุณเพชรน้ำหนึ่ง

ไม่ว่าจะแกงส้มดอกแค หรือว่าอกแคชุบแป้งโกกิ ทอดกรอบของพี่ครูคิม ก็น่ากินทั้งนั้นเลยค่ะ ^^

ดอกแคชุบแป้งทอด หรือผัดกับน้ำมัน กินกับน้ำพริกกะปิ อร่อยดีเหมือนกันค่ะ

ปลายฝนต้นหนาว โบร่ำโบราณ บอกให้กินดอกแคมากค่ะ จะได้ไม่เป็นไข้หัวลมพี่ดาก็ยังไม่ได้ซื้อมาทำอาหารเลย เพราะลมหนาวเชียงใหม่มาแล้ว  เป็นภูมิปัญญาไทย ที่ช่วงเวลานี้ควรกินค่ะ แกงส้มแต่ไม่ใช่ปลาที่พี่ดานำมาให้ชมนะ

 

                 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท