ทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จในกิจการงาน
“ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา”
เอาใจรัก
เอาใจสู้
เอาใจใส่
หมั่นไตร่ตรอง
ในชีวิตคนเรานั้น แต่ละช่วงจังหวะของชีวิต เรามีความคิดความหวังมากมายให้หมายปอง บางครั้งบางความคิดบางความหวังเป็นเรื่องสำคัญมาก จึงต้องพยายามอย่างยิ่งในการหาวิถีทางที่จะทำให้ประสบความสำเร็จดังที่คิดดังที่หวังให้ได้ บางคนมุ่งอาศัยการสะเดาะเคราะห์เสริมชะตา ตามหลักโหราศาสตร์ บางคนมุ่งใช้คาถาอาคมและเครื่องรางของขลังต่างๆ ตามหลักไสยศาสตร์ ซึ่งเป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่ทำได้หากไม่เป็นไปเพื่อความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น
ที่สำคัญคาถานี้ มิใช่คาถาท่อง อย่างเวทมนต์คาถา แต่เป็นคาถาธรรม(คาถาทำ) ที่ต้องยึดถือมาเป็นหลักปฏิบัติอย่างจริงจังจึงจะบังเกิดผล หลายผู้หลายคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น แม้ไม่รู้หรือไม่ได้จำคาถานี้ แต่เมื่อลองพิจารณาให้ดี เพราะอาศัยวิถีปฏิบัติตามแนวทางแห่งคาถานี้ทั้งนั้น จึงประสบความสำเร็จได้ ความหมายง่ายๆ ของคาถานี้ คือ หลักปฏิบัติ ๔ ข้อ ได้แก่ “เอาใจรัก เอาใจสู้ เอาใจใส่ หมั่นไตร่ตรอง”
นักกีฬาไม่รักการเล่นกีฬา ก็คงเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ นักเรียนไม่รักการเรียน ก็ยากจะประสบความสำเร็จในการเรียน นักธุรกิจไม่รักธุรกิจที่ทำ ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจนั้นได้ เป็นอะไรก็ตามไม่รักจริงชอบจริงในสิ่งที่เป็น ย่อมยากที่จะประสบความสำเร็จ ในทางที่กลับกันหากมีความรักความชอบในสิ่งนั้นๆ ก็ย่อมมีหวังที่จะประสบความสำเร็จในสิ่งนั้นได้ การทำอะไรด้วยใจรักจึงได้ชื่อว่าปฏิบัติตามหลัก “ฉันทะ”
นักมวยแชมป์โลก กว่าจะก้าวถึงชัยชนะได้ ต้องบากบั่นขยันสู้มามากมาย มหาเศรษฐีทั้งหลายในโลก ลองไปดูเบื้องหลังเถิด กว่าจะได้ชื่อว่ามหาเศรษฐี ต้องต่อสู้พากเพียรมาทั้งนั้น เป็นอะไรก็ตาม หากขาดความพยายามด้วยใจสู้คงยากที่จะประสบความสำเร็จ ในทางที่กลับกันหากมีใจสู้ ในสิ่งนั้นๆ แม้จะหนักหน่อย เหนื่อยนิดก็ไม่คิดท้อ ต่อสู้ไป ด้วยใจเด็ดเดี่ยว ก็ย่อมมีหวังที่จะเก็บเกี่ยวความสำเร็จไว้ได้ การทำอะไรด้วยใจสู้จึงได้ชื่อว่าปฏิบัติตามหลัก “วิริยะ”
นักกีฬาหลายคน มีใจรัก มีใจสู้ แต่พลาดชัยชนะ เพราะใจฟุ้งซ่าน ไม่มั่นคงหรือไม่ใส่ใจอย่างจดจ่อในเกมการแข่งขัน นักเรียนบางคนเริ่มต้นมาดี มีใจรัก มีใจสู้กับการเรียน แต่ขาดการใส่ใจจดจ่อ บางครั้งในการสอบเสียหลักตอบผิดตอบพลาด เพราะขาดสติ จะทำสิ่งใด หรือจะเป็นอะไร หากไม่ใส่ใจ จดจ่อใจกับสิ่งที่ทำ สิ่งที่เป็น ทั้งในระยะสั้น คือ ขณะทำ ขณะประกอบกิจนั้นๆ และในระยะยาว คือ การยึดถือสิ่งนั้นเป็นงานเป็นอาชีพ ย่อมเป็นการง่ายที่จะเผลอพลาดจากเป้าหมาย ยิ่งถ้ามีสิ่งใดมาชวนใจให้ไขว่เขวด้วยแล้ว ยิ่งง่ายที่จะพลาด ในทางที่กลับกันหากใส่ใจหรือเอาใจใส่อย่างมั่นคง ย่อมมีหวังที่จะมุ่งตรงไปสู่ความสำเร็จได้ การทำอะไรอย่างใส่ใจจึงได้ชื่อว่าปฏิบัติตามหลัก“จิตตะ”
แม้มีใจรัก ใจสู้ ใส่ใจ แต่ถ้าขาดการส่องใจไตร่ตรอง โอกาสพลาดเป้าหมายหรือไม่ประสบความสำเร็จก็ยังมีได้ บางครั้งอาจรักในสิ่งที่ผิด บางครั้งอาจสู้จนเกินกำลังความสามารถ บางครั้งอาจอุทิศใจหรือใส่ใจจนยึดมั่นเกินไป การส่องใจไตร่ตรองอยู่เสมอๆ จะช่วยปรับให้เกิดความพอดีและเสริมสร้างจุดด้อยให้พัฒนาขึ้นได้ การส่องใจไตร่ตรองจึงเป็นประดุจเครื่องหล่อเลี้ยงที่ช่วยให้การทำกิจต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น ต่อเนื่อง เหมาะสม ผู้มุ่งมาดสู่ความสำเร็จจึงควรหมั่นไตร่ตรอง ส่องใจ ในสิ่งที่ทำที่คิดอยู่เนืองๆ ถ้าทำได้อย่างนี้ ชื่อว่าปฏิบัติตามหลัก “วิมังสา”
อ.ญาณภัทร ยอดแก้ว : ผู้เขียน
ขอบคุณมากค่ะ