หน้าแรก
สมาชิก
ส่างนันตา
สมุด
สตรีล้านนา
เจ้านางยวงแก้ว
ส่างนันตา
นาย ณัฐปคัลภ์ ไชยุมติ
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
เจ้านางยวงแก้ว
สตรีผู้รักประเพณียิ่งชีพ
เจ้าหญิงฟองแก้ว ณ เชียงใหม่
เจ้าหญิงฟองแก้ว เป็นธิดาในเจ้าน้อยบัวละวงษ์ ณ เชียงใหม่ พระบิดาถวายให้ตามเสด็จพระราชชายา เจ้าดารารัศมีตั้งแต่ยังเล็ก จึงใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในตำหนักของพระราชชายา ในพระราชวังจนเติบโตเป็นสาวรุ่นงดงาม
เมื่อเข้าสู่วัยสาว ด้วยความงามอันเลื่องลือของเหล่าข้าหลวงนางใน ตำหนักพระราชชายา ที่แต่งกายงามแบบชาวล้านนา คือ นุ่งซิ่น ผมยาว เกล้ามวย ทั้งยังเล่นดนตรีและร่ายรำได้งดงามอ่อนช้อย จึงไม่พ้นที่จะมีบุรุษมาสนใจและมอบความรักให้ ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นเหล่ามหาดเล็กน้อยใหญ่ ไปจนถึงเสนาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เจ้าหญิงฟองแก้วเองก็เช่นกัน โดยเริ่มจากเจ้าจอมมารดาชุ่มได้มาสู่ขอเจ้าหญิงให้แก่พี่ชายของท่าน แต่พระราชชายาทรงปฏิเสธ ด้วยทรงมองว่าไม่เหมาะสม
(
คิดว่าพี่ชายของเจ้าจอมคงจะสูงอายุพอสมควร
)
ต่อมากรมหมื่นปราบปรปักษ์ ทรงสู่ของเจ้าหญิงฟองแก้วให้แก่โอรสของพระองค์ คือ ม
.
ร
.
ว
.
ปุ้ม มาลากุล ณ อยุธยา
(
ขณะนั้นรับราชการ กินตำแหน่งจมื่นภักดีจงขวา
)
และพระราชชายาทรงอนุญาต ทั้งสองจึงได้สมรสกัน มีบุตรชายหนึ่งคน คือ มล
.
เทียม มาลากุล ณ อยุธยา
ด้วยทัศนคติของชาวกรุงสมัยนั้น มองว่าเชื้อสายทางฝ่ายเหนือทั้งหมดนั้นเป็น ลาว และค่อนข้างจะมองไปในแง่ลบ คือเหยียดหยามว่าต่างชั้นและต้อยต่ำกว่าชาวสยาม เพราะเป็นเพียงประเทศราชเท่านั้น ผู้ใหญ่ทางฝ่ายสามีจึงไม่ใคร่จะพอใจในการสมรสกันของทั้งสองนัก ด้วยอับอายที่จะต้องตอบคำถามแก่ผู้คนในสังคม ถึงสาเหตุที่มีสะใภ้เป็นลาว จึงบังคับให้เจ้าหญิงฟองแก้วตัดผมแบบชาวสยามทั่วไป คือ ทรงดอกกระทุ่มจอนยาวและแต่งกายแบบชาวสยามทั่วไป เพื่อขจัดคำครหา แทนที่ม
.
ร
.
ว
.
ปุ้มผู้เป็นสามีจะปกป้องภรรยาของตน กลับยื่นคำขาดแก่เจ้าหญิงฟองแก้วให้ตัดผมทิ้งเสียและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายให้เหมือนคนอื่นทั่วไป ไม่เช่นนั้นจะแยกทางกับเจ้าหญิง เพื่อล้างความอับอายที่มี
เจ้าหญิงฟองแก้วนั้น แม้จะรักบุตรมาก แต่ไม่ทรงคิดจะละทิ้งความเป็นล้านนาของตน จึงนำความกราบทูลพระราชชายา ซึ่งพระองค์ทรงกริ้วมาก และให้เจ้าหญิงแยกทางกับสามี มาอยู่ที่ตำหนักกับพระองค์เช่นเดิม โดยรับหน้าที่เป็นต้นห้องแทนคุณหญิงบุญปั๋น เทพสมบัติที่ออกเรือนไป เจ้าหญิงฟองแก้วจึงกลับมารับใช้พระราชชายาอีกครั้ง และพยายามจะนำบุตรชายมาเลี้ยงเอง แต่ ทางม
.
ร
.
ว
.
ปุ้มไม่ยินยอม ท่านจึงใช้ชีวิตอยู่ในตำหนักและตามเสด็จ พระราชชายา ต่อมาได้สมรสกับ เจ้าวุฒิ ณ ลำพูน แต่ก็ได้แยกกันอยู่อีกครั้ง และท่านก็ใช้ชีวิตเพียงลำพังจนกระทั่งท่านเสียชีวิตลง ด้วยวัย
40
เศษๆเท่านั้น
การกระทำของเจ้าหญิงฟองแก้วนั้น แสดงให้เห็นถึงความยึดมั่นในประเพณีของตน ไม่คิดจะละทิ้งตามค่านิยมแห่งยุคสมัยที่กร้ำกรายเข้ามา หากคนไทยคิดได้เหมือนเจ้าหญิงแห่งล้านนาท่านนี้ ขนบธรรมเนียมประเพณีความเป็นล้านนาของเรา คงไม่ถูกค่านิยมแห่งยุคสมัยกลืนกินแบบทุกวันนี้แน่นอน
เขียนใน
GotoKnow
โดย
ส่างนันตา
ใน
สตรีล้านนา
คำสำคัญ (Tags):
#จารีตฮีตฮอย
หมายเลขบันทึก: 400723
เขียนเมื่อ 4 ตุลาคม 2010 02:38 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 12:50 น. (
)
สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
ส่างนันตา
สมุด
สตรีล้านนา
เจ้านางยวงแก้ว
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท