คราวที่แล้วเราเดินทางออกจากกรุงพนมเปญ ไปยังจังหวัดกำปงธม ไปถึงตอนเที่ยงทานอาหารที่ร้าน Arunras เป็นร้านอาหารที่ใหญ่และดีที่สุดในกำปงธม เจ้าของเป็นคนกัมพูชา อาหารก็ปรุงรสให้คล้ายๆ อาหารไทย เนื่องจากบริษัททัวร์ของไทยไปแนะนำไว้ เมนูมีปลาช่อนนึ่ง ผัดผักคะน้า ไข่เจียว ต้มโคล้ง แต่ที่อร่อย มากๆ คือ ปลาเนื้ออ่อนทอด ปลาตัวใหญ่ สด เนื้อหนา มาจากทะเลสาปที่อยู่กลางประเทศ ซึ่งเป็นทะเลสาปน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเป็นแหล่งโปรตีนที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชาด้วย
ตอนบ่ายไปชมวิทยาลัยกำปงเฌอเตียล ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ ได้สร้างพระราชทานเมื่อ พ.ศ. 2548 สอนระดับอาชีวะ ถ้าไม่นับสถานศึกษาใหญ่ๆ ในกรุงพนมเปญ ที่นี่ก็เป็นวิทยาลัยที่ดีและทันสมัยที่สุด ทั้งในด้านอาคาร สถานที่ หลักสูตร และบุคลากร เพราะโรงเรียนส่วนใหญ่ในกัมพูชาก็เก่ามากสร้างมาตั้งแต่สมัยอยู่ใต้การปกครองของฝรั่งเศสโน่นแน่ะ
อาคารต่างๆ ของวิทยาลัยก็เหมือนกับโรงเรียนที่ค่อนข้างใหญ่ ตามต่างจังหวัดของไทย ตอนที่ไปยังปิดเพราะอยู่ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งหยุดนานกว่าของเรา รถจึงพาวนไปตามตึกต่างๆ แล้วแวะถ่ายรูปที่ประตูทางเข้าวิทยาลัย ที่นี่รับนักเรียนพื้นเมืองที่ยากจน บางคนมีเงินติดตัวมาแค่ 5 บาทต่อเดือน ( เดือนนะ…ไม่ใช่วัน ) คิดดูก็แล้วกัน !
จากนั้นเดินทางต่ออีกไม่ไกลก็ถึงปราสาทสมโบร์ ไพรกุก เป็นปราสาทยุคต้นๆ อายุพันกว่าปี จึง ปรักหักพังมาก แต่ก็มีซากพอเหลือให้ชมความสามารถของคนโบราณที่ห้องโถงกลางก่อด้วยหินสกัดก้อนเล็กๆ สูงขึ้นไปเป็นสิบเมตร โดยไม่ต้องใช้เสาเลย อยู่มาได้เป็นพันปี ในห้องนี้มีแท่นหินใหญ่ที่เรี่ยกว่าแท่นโยนี ซึ่งเดิมต้องมีแท่งหินที่สลักเป็นศิวลึงค์ ตั้งอยู่บนแท่นโยนี ตามศาสนาฮินดู แต่ศิวลึงค์ไม่เหลือให้เห็นแล้ว
ที่ปราสาทนี้มีเด็กๆ ชาวพื้นเมืองมาขายผ้าคล้องคอแบบที่ชาวกัมพูชาใช้ ผืนละ 1 ยู.เอส. ดอลล่าร์เด็กๆ มีจำนวนน่าจะถึง 20 คน จะตามล้อมนักท่องเที่ยว ร้องขายเป็นระยะ เดินตามด้วยความอดทนตลอดการชมปราสาท เด็กเหล่านี้พูดภาษาอังกฤษ ได้พอสมควรทั้งเด็กเล็กเด็กโต สุดท้ายเมื่อจะกลับส่วนใหญ่ คณะทัวร์ของเราก็ซื้อกันคนละผืน สองผืน ไม่ได้อยากได้หรอก แต่ด้วยความสงสารในความยากจนของพวกเขา ก็เหมือนคนจนทั่วโลกนั่นแหละ มอมแมม สกปรก ผอมแห้ง แต่รอยยิ้มและแววตาก็ยังไร้เดียงสา ตามวัยบริสุทธิ์นั่นเอง
เดินทางต่อไปยังจังหวัดเสียมเรียบ หรือที่เราเรียกว่าเสียมราฐ ถึงตอนค่ำทานอาหารเย็นภัตตาคารจีน ชื่อ Angkor Souvenir อยู่บนชั้น 3 ของตึก Angkor Shopping Center เป็นอาหารจีนแบบธรรมดาไม่ใช่แบบเหลา เมนูมีเป็ดพะโล้ ผัดผัก เต้าหู้ทรงเครื่อง ปลาช่อนนึ่งซีอิ๊ว แกงจืด ผัดวุ้นเส้น และไข่เจียวอีกแล้วจ้า เขาคงคิดว่าคนไทยต้องมีไข่เจียวเป็นอาหารหลักของมื้อละมั้ง ชั้นสองของอาคารเป็นชั้นขายของที่ระลึกแบบชั้นดี สวยแต่แพงจัง เช่น แท่งแก้วทับกระดาษมีรูปนครวัดสีทองอยู่ข้างใน ขนาดเล็กสุดก็ ราคา 20 ยู.เอส. ดอลล่าร์ เลยต้องบอกศาลากันไป ไปพักที่โรงแรม Angkor Holiday เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว สภาพใหม่และดี รีบพักผ่อนเตรียมตัวสำหรับวันรุ่งขึ้นที่จะไปชม นครวัด นครธม ไฮไลต์ของทริปนี้ อย่าลืมไปชมความอลังการด้วยกันในตอนหน้าอีกนะจ๊ะ.......
วิทยาลัยกำปงเชอเตียล จังหวัดกำปงธม
ปราสาทสมโบร์ไพรกุก
เด็กเขมรรุมล้อมขายผ้าให้นักท่องเที่ยว
เรียน คุณโอ๋...อโณเนะ
การเดินทางนี้ยาวไกล......ต้องแวะกลางทางเพื่อร่วมงานฉลองครองราชย์ 60 ปี ในเดือนมิถุนายนเสียก่อนนะท่าน กว่าการเดินทางจะจบกลับมาเมืองไทยได้อาจกินเวลาอีกหลายเดือน....อย่างไรก็ขอให้
ติดตามต่อไปนะจ๊ะ ขอขอบคุณล่วงหน้า......
เรียน ท่านหน่อย
เรื่องอาหารและความเป็นอยู่ของชาวกัมพูชาจะเล่าตอนไปเที่ยวพนมเปญในวันสุดท้ายของ trip นี้นะเจ้าคะ กรุณาอดใจติดตามชม......
ดีใจครับที่ได้เข้ามาอ่าน จะได้เป็นข้อมูลไว้สำหรับโอกาสหน้า ที่ได้ไปเที่ยวบ้าง ตอนนี้อยากอ่านที่อุไปเที่ยวมา เขียนต่อนะครับ จะติดตามดู