การที่ดอกเห็ดจะเจริญเติบโตได้ดีนั้นจะต้องมีปัจจัยที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโตของเห็ดด้วย ฤดูฝนจะเป็นฤดูกาลที่พบการออกดอกของเห็ดในธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งสามารถแบ่งปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเห็ดโดยกว้างๆได้ 2 ปัจจัยดังนี้
ข้อแรก : พันธุกรรม ก่อนทำการเพาะเห็ดจะต้องมีการคัดเลือกสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงและมีลักษณะตามที่ต้องการ เช่น แข็งแรง ปราศจากศัตรูเห็ด ดอกเห็ดตรงต่อความต้องการของตลาด เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อม ฤดูกาล แหล่งที่เพาะนั้นๆ
ข้อสอง : สิ่งแวดล้อม การที่เห็ดจะให้ผลผลิตดอกเห็ดสูงนั้น สภาพแวดล้อมจุดนั้นๆ จะต้องมีความเหมาะสม ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ สิ่งไม่มีชีวิต และสิ่งมีชีวิต
สำหรับปัจจัยของสิ่งไม่มีชีวิตที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของดอกเห็ด เนื่องจากเห็ดเป็นพืชชั้นต่ำจำพวกราไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้อย่างพืชสีเขียวทั่วไป อาหารของเห็ดได้จากการย่อยสลายของอินทรียวัตถุที่ผุพังและอาหารที่เห็ดย่อยง่ายนั้นคือกลูโคส เห็ดหลายชนิดสามารถเจริญได้ดีบนอาหารจำพวกแป้ง เซลลูโลส ลิกนิน แต่สำหรับเห็ดบางชนิดก็เลือกที่ย่อยไม้ มูลสัตว์ และปุ๋ยหมัก
1.1 วัสดุเพาะที่ใช้เพาะเห็ดจึงมีความแตกต่างกัน เช่น
- เห็ดที่ขึ้นได้ดีบนท่อนไม้ เช่น เห็ดหูหนู เห็ดหอม เห็ดมะม่วง เห็ดขอนขาว
- เห็ดที่ขึ้นได้ดีบนปุ๋ยหมัก เช่น เห็ดกระดุม เห็ดฟาง เห็ดตีนแรด
- เห็ดที่ขึ้นเนื่องจากการทำกิจกรรมของแมลง เช่น เห็นโคนใหญ่ (เห็ดปลวก)
- เห็ดที่ขึ้นบนรากร่วมกับต้นไม้หรือเห็ดไมคอร์ไรซ่า เช่น เห็ดเสม็ด เห็ดตับเต่า เห็ดตีนแรด
สำหรับวัสดุเพาะเห็ดควรเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นนั้นๆ ราคาถูก ใช้ได้สะดวก เห็ดเจริญเติบโตและพัฒนาให้ผลผลิตสูง อันได้แก่ ขี้เลื่อย ฟางข้าว ซังข้าวโพด ชานอ้อย ทะลายปาล์ม เป็นต้น
1.2 อาหารเสริมที่นิยมใช้คลุกผสมในวัสดุเพาะก่อนบรรจุถุงหรือแปลงเพาะเห็ดฟาง อย่างเช่น
- รำละเอียด จะให้อาหารพวกโปรตีน วิตามินบี
- ข้าวโพดป่น จะให้อาหารพวกกลูโคสและแร่ธาตุต่างๆ
- กากถั่ว จะให้อาหารพวกโปรตีน
- ใบกระถิ่น จะให้อาหารพวกโปรตีน (ห้ามใส่มากเนื่องจากจะทำให้ดอกเห็ดกระด้าง)
- กากเหล้า (โรงงานสุรา)จะให้อาหารพวกโปรตีน
- แป้งข้าวเหนียว เป็นอาหารที่ให้พลังงานต่อจุลินทรีย์ ในขบวนการย่อยสลายอินทรีวัตถุ ซึ่งส่วนใหญ่ใส่ในส่วนผสมของเห็ดนางฟ้าภูฐานและเห็ดฟาง
- ไส้นุ่น ช่วยดูดซับความชื้นและมีคุณค่าทางอาหารต่อการเพาะเห็ดฟาง
- ขี้ฝ้าย (สำลีสีเทา) ช่วยดูดซับความชื้นและมีคุณค่าทางอาหารต่อการเพาะเห็ดฟาง
- ทะลายปาล์ม ช่วยดูดซับความชื้นและมีคุณค่าทางอาหารสูง แต่ต้องผ่านขบวนการหมักก่อนนำมาใช้ ส่วนใหญ่ใช้เพาะเห็ดฟาง (กองเตี้ย,โรงเรือน)
1.3อาหารเสริมที่ได้จากแร่ธาตุ (ธาตุอาหาร)จากปุ๋ยหรือสารอนินทรีย์ต่างๆ ประโยชน์ต่อการทำงานของจุลินทรีย์หลังจากการย่อยสลายแล้วเห็ดนำไปใช้ต่อ ซึ่งได้แก่
- ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ให้กรดอะมิโนแก่เห็ด
- ปุ๋ยเคมีสูตรต่างๆ(ขึ้นอยู่กับโรงเรือนหรือท้องถิ่นนั้นๆ)เช่น แอมโมเนี่ยมซัลเฟต(21-0-0)
- ดีเกลือ (MgSo4) เป็นองค์ประกอบของเซลล์เห็ด ช่วยเร่งปฏิกิริยาในการย่อยของเส้นใยเห็ด
- ยิปซั่ม (CaSo4) เป็นองค์ประกอบของผนังเซลล์เห็ด ทำให้ดอกเห็ดแข็งแรง ดอกสมบูรณ์ขึ้น
- ปูนขาวหรือแคลเซี่ยม (CaO) มีฤทธิ์เป็นด่าง ช่วยปรับค่าpH (Potential of Hydrogen ion) ปุ๋ยหมักให้มีสภาพเป็นกลางทำให้เห็ดดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังให้แคลเซี่ยม (Calcium)แก่เห็ด ช่วยป้องกันโรคแมลงศัตรูเห็ด
- ภูไมท์ หรือแร่พัมมิช เป็นสารอาหารที่ได้จากหินแร่ภูเขาไฟ ใช้ปรับสภาพความเป็นกรดด่าง ทำให้โครงสร้างเส้นใยและดอกเห็ดมีความแข็งขึ้น ป้องกันไรศัตรูเห็ด นอกจากนี้ยังให้ธาตุอาหารแก่เส้นใยเห็ดจำพวก แคลเซี่ยม แมกนีเซี่ยม ซิลิก้า เป็นต้น ทำให้ดอกเห็ดมีรสชาติดี กรอบ ยืดอายุหลังการเก็บเกี่ยวได้นานกว่าเดิม (เหี่ยวช้า)
- แร่ม้อนท์ (Montmorillonite) เป็นสารอาหารที่ได้จากเถ้าภูเขาไฟ ที่เกิดจากการระเบิดขึ้นจากปล่องภูเขาท่ามกลางลาวา ถูกผลักดันจนลอยขึ้นระเบิดกลางอากาศต่อ หนึ่ง สอง หรือสามครั้ง ทำให้เกิดรูพรุนโปร่งอุดมไปด้วยธาตุอาหาร เทรซซิลิเม้นท์ต่างๆ ช่วยดูดซับความชื้น ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นใยเห็ดให้มีปริมาณมากขึ้น ยืดอายุการเก็บเกี่ยวดอกเห็ดให้นานกว่าเดิม
1.4 อุณหภูมิ มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเห็ดมาก ทั้งระยะเจริญเติบโตของเส้นใย ออกดอกและการปล่อยสปอร์ ปกติอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเส้นใยจะสูงกว่าช่วงออกดอกประมาร 3-5 องศาเซลเซียส ซึ่งเห็ดแต่ละชนิดมีความต้องการอุณหภูมิแตกต่างกัน ดังนี้ (ตามตารางที่ 1)
ตารางที่1 แสดงอุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ ที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเห็ด
รายการ |
อุณหภูมิช่วงเจริญเติบโตของเส้นใย (องศาเซลเซียส) |
อุณหภูมิช่วงดอกเห็ด (องศาเซลเซียส) |
ความชื้นสัมพัทธ์ต่อการออกดอก (%) (โรงเรือน) |
เห็ดฟาง |
32-38 |
28-32 |
80-85 |
เห็ดนางรม |
28-32 |
25-28 |
70-90 |
เห็ดนางฟ้า |
28-32 |
25-28 |
80-90 |
เห็ดเป๋าฮื้อ |
30-32 |
28-32 |
70-90 |
เห็ดหูหนู |
28-32 |
28-35 |
80-95 |
เห็ดหอม |
20-24 |
12-20 |
70-80 |
เห็ดหลินจือ |
25-35 |
25-28 |
80-90 |
เห็ดแชมปิญอง |
23-25 |
15-20 |
80-85 |
ที่มา : อรัญ ภมร , 2541
1.5 ความชื้นสัมพัทธ์ ในธรรมชาติเห็ดสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพความชื้นสูง แบ่งย่อยออกได้ 2 ประเภท คือ
1.6 ความเป็นกรด-ด่าง (pH ย่อมาจาก Potential of Hydrogen ion) เห็ดเจริญเติบโตได้ดีในอาหารที่มีสภาพเป็นกลาง หรือกรดอ่อนๆ (pH 6.5-7)ถ้าอาหารเป็นกรดเส้นใยเห็ดเจริญเติบโตปกติแต่ไม่ออกดอกหรือออกบ้างเล็กน้อย สำหรับ pH ของน้ำก็เช่นเดียวกันจะต้องมีความเหมาะสมนั้นคือเป็นกลาง (pH 7)หรือน้ำที่ใช้ดื่มกินในชีวิตประจำวันและจะต้องสะอาดปราศจากสารเคมีตกค้าง
ตารางที่ 2 แสดงสภาพแวดล้อมในการเจริญเติบโตของเห็ด
ชนิดเห็ด |
ระยะบ่ม |
ระยะออกดอก |
การเปิดก้อน |
เงื่อนไขการออกดอก |
ระยะห่างระหว่างรุ่น (วัน) |
ผลผลิตกรัม/ถุง |
||||
องศา C |
วัน |
องศา C |
วัน |
ความชื้น |
แสง |
การถ่ายเทอากาศ |
||||
เห็ดนางรม |
28-38 |
25-40 |
28-35 |
90 |
ดึงสำลีออกถอดคอขวดเห็ดขอนขาวและเห็ดลมออก |
70-90% |
น้อย |
ดี |
10-15 |
200-300 |
เห็ดนางฟ้า |
||||||||||
เห็ดขอนขาว |
||||||||||
เห็ดลม |
||||||||||
เห็ดเป๋าฮื้อ |
28-30 |
45-60 |
28-35 |
90 |
ดึงสำลีคอขวดออก |
70-80% |
ปานกลาง |
ดี |
30-40 |
200-300 |
เห็ดหูหนู |
28-38 |
35-40 |
28-35 |
90 |
รัดจุก,กรีดข้าง |
80-90% |
น้อย |
ดี |
15-20 |
200-300 |
เห็ดหอม |
24-32 |
60-70 |
24-30 |
90 |
ปาดเหลือก้น |
70-80% |
ปานกลาง |
ดี |
15-20 |
200-300 |
เห็ดแครง |
28-35 |
15-20 |
32 |
30 |
รัดจุก, กรีดข้าง |
80% |
ปานกลาง |
ดี |
7 |
150-200 |
เห็ดตีนแรด |
30-38 |
30-38 |
35 |
240 |
แกะถุงฝังดิน |
80% |
- |
ดี |
30-45 |
300-400 |
เห็ดฟาง |
35-38 |
7-9 |
30-35 |
3-5 |
- |
80-90% |
น้อย |
ดี |
5 |
1-2 กก./ตร.ม. |
ที่มา : เห็ดไทย 2544 ,สมาคมนักวิจัยเพาะเห็ดแห่งประเทศไทย
1.7 การถ่ายเทอากาศ เห็ดมีความต้องการออกซิเจนโดยเฉพาะระยะออกดอก ซึ่งต้องการออกซิเจนมากกว่าระยะของเส้นใย สำหรับคาร์บอนไดออกไซด์ช่วยทำให้เส้นใยเจริญเติบโตดี แต่ในระยะออกดอกบวกกับโรงเรือนทึบและการถ่ายเทอากาศไม่ดีส่งผลทำให้ดอกเห็ดไม่บาน ดอกเล็ก ก้านยาวผิดปกติ ซึ่งอาการดังกล่าวมักพบเห็นในเห็ดถุง
1.8 แสง มีผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นใย ถ้าแสงน้อยเส้นใยจะเจริญเติบโตได้เร็ว สำหรับระยะออกดอกแสงจะช่วยกระตุ้นการสร้างตุ่มดอกเห็ด ( Primodia ) และการเจริญเติบโตของดอกเห็ด ดังนี้
- เห็ดหูหนู แสงจะช่วยให้สีเข้มขึ้น หากแสงน้อยดอกจะซีด
- เห็ดฟาง แสงจะทำให้ดอกสีคล้ำ หากแสงน้อยดอกเห็ดจะมีสีขาว
- เห็ดนางรม นางฟ้า นางฟ้าภูฐาน แสงจะช่วยให้การปล่อยสปอร์ดีขึ้น โดยเฉพาะแสงแดดตอนสายๆ
เผยแพร่โดย ... นายเอกรินทร์(วัชนะ) ช่วยชู
สนใจเรื่องเห็ดมากๆ ความรู้นี้มีประโยชน์มากๆเลย
ขอบคุณคนโพสมากๆ
ขอบคุณมากครับสำหรับ ความรู้ที่แบ่งปันครับ<p> ผมกำลังทำโรงเรืองจำรองควบคุม อุณหภมิและความชืัน อยู่ครับ</p>