เก็บตกจากกิจกรรม "เปิดบ้านปฐมวัยเมืองย่าพัฒนาสู่สากล" 20 กันยายน 2553 (โดยดร.วรนาถ รักสกุลไทย)
1. เจ็ดหลักการของการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษท่ 21
หลักการที่ 1 เรียนรู้เพื่อหาความหมาย ทำให้ได้ความคิด
หลักการที่ 2 ครูให้โอกาสอำนวยความสะดวกเพื่อให้ค้นพบ
หลักการที่ 3 การเรียนรู้เป็นกิจกรรม สังคมสร้างความร่วมมือ
หลักการที่ 4 เรียนรู้จากการปฏิบัติตามบริบทที่กำหนด
หลักการที่ 5 เรียนรู้คือการร่วมแลกเปลี่ยนระหว่างเพื่อนและครู
หลักการที่ 6 ความผิดพลาดคือบันไดขั้นต่อไปของความสำเร็จ
หลักการที่ 7 เทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือขั้นหนึ่ง
2. นักการปฐมวัยและผู้เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย
ควรให้ความสนใจในเรื่องเหล่านี้คือ ความหมายของการเรียนรู้จากปฏิสัมพันธ์ การเรียนรู้
ด้วยการลองผิดลองถูก
การไม่ยึดติดว่าคอมพิวเตอร์เป็นการเรียนรู้ บทบาทผู้ปกครองในฐานะครูคนแรกของลูก
สถานศึกษาต้องมีนโยบายชัดเจนในการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง
3. หลักการเรียนรู้
เด็กต้องการมีปฏิสัมพันธ์ เด็กต้องการสังคม เด็กต้องเรียนรู้จากสิ่งใกล้ตัวให้มากขึ้น
ครูต้องทบทวนการสอนตลอดเวลา ครูต้องใจกว้างท่จะปรับปรุงการสอนของตัวเอง การ
พัฒนาใด ๆต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการพัฒนาใดเสร็จในครั้งเดียว
4. ตัวอย่างอนุบาลคุณภาพ
ต้องเล่นเสมอภาค ไม่แบ่งแยกเพศ บล็อกเป็นของเล่นปลายเปิด นิทาน ละคร การแสดง เป็นข้อบังคับของอนุบาล
แนวคิดและแนวปฏิบัติจิตตปัญญาศึกษา
จิตตปัญญาศึกษาเป็นการศึกษาที่เน้นและให้ความสำคัญกับการพัฒนาความตระหนักรู้ การเรียนรู้และการรู้เท่าทันมิติ/โลกในด้าน(อารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ความเชื่อ ทัศนะ มุมมองต่อชีวิตและโลก) คือ
- มีความเชื่อมั่นและเคารพในความเป็นมนุษย์
- ยอมรับและเคารพในความแตกต่าง
- การเรียนรู้จะเกิดขึ้นภายในตัวบุคคล
- เชื่อมั่นในความเป็นองค์รวม
กระบวนการของจิตตปัญญาศึกษา
- สุนทรียสนทนา (คุยกันด้วยความรู้สึกปลอดภัย ไร้กังวล)
- ฟังอย่างลึกซึ่ง (ตั้งใจฟัง ไม่สงสัย ไม่ถาม....)
- สะท้อนการเรียนรู้ (ช่วยกันสะท้อนทุกคนที่มีส่วนร่วมในการฟัง)
ห้องเรียนจิตตปัญญาศึกษา
- สื่อสารด้วยภาษาดอกไม้
- คุยกันให้มากขึ้น
- คิดในเชิงบวก
ไม่มีความเห็น