อเทวนิยมคือเครื่องบ่งชี้ความเป็นพุทธ


อเทวนิยม

อเทวนิยมคือเครื่องบ่งชี้ความเป็นพุทธ
      กลุ่มของเทวนิยม ศาสนาที่นับถือพระเจ้าทั้งหลายก็คงลำบากใจเพราะส่วนใหญ่ เขามีกฎเหล็กห้ามนับถือบูชารูปปั้นที่จะใช้เอามาเป็นตัวแทนของศาสดา เพราะคนจะไปติดยึดกันแค่รูปปั้น เลยไม่เข้าถึงพระผู้เป็นเจ้า เหมือนชาวพุทธที่มีความเชื่อ กันว่าพระพุทธรูปทองคำมีความน่าศรัทธามากกว่าพระพุทธรูปที่ทำจากอิฐหินดินปูนธรรมดา 
      เมื่อพระพุทธรูปทองคำดีกว่าพระเนื้อสัมฤทธิ์ พระพุทธรูปรุ่นทวาราวดีเจ๋งกว่าพระพุทธรูปรุ่นศรีอยุธยา หรือพระพุทธรูปที่ปลุกเสกโดยพระอาจารย์ รูปนั้น มีฤทธิ์เดชมากกว่าพระพุทธรูปที่ปลุกเสกโดยหลวงตารูปนี้ เลยก่อให้เกิดการปั่นหุ้นปั่นราคากันขึ้นมา จนเกิดการค้ากำไรเกินควรทำให้เกิดสำนวน "พุทธพาณิชย์" ขึ้น

คำสำคัญ (Tags): #อเทวนิยม
หมายเลขบันทึก: 397200เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2010 02:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 16:29 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

อ่อ

ไม่เคยรู้เรื่องเลยนะเนี่ย

ถ้ามีความรู้เกี่ยวกับศาสนาทั้งหลายแบบดูเปลือกต้นไม้ ก็คงไม่ได้เข้าถึงเลยสักศาสนา

ÄÄ...วันนี้..ยายธี...ก็เป็นอเทวนิยม..กาเขาเหมียนกั้น...เหนื่อยเมื่อเห็นเขาปั้นแลปั่นกัน...อ้ะะๆเป็นว่าเล่น...พระทองคำ(ถูกปั้นแต่งให้มีชีวิต..มี..ทัวริด..มาชมมาเชย..ชาวบ้านวัดวา..หลวงตา..."ไม่อด"..อ้ะะๆๆ...ก็ตรง..พุทธพาณิชย์..เนียะ...ประวัติสาตร์เขาว่าไว้..ทองที่ถูกเผาสมัยอยุธยา..กลายเป็นชเวดากอง...ไปจนทุกวันนี้..เจ๋งตรงที่ว่า...ทองนี้หลอมไหลได้เหมือนใจคน..เนอะ...อะๆ...สวัสดีเจ้าค่ะ

หนูจ๋า

เคยเห็นผีไหม

ผีคืออะไร คือคนที่ตายแล้วมีแต่วิญญาณเท่านั้น วิญญาณนี้มีทั้งวิญญาณที่ดีและไม่ดี

ที่ทำร้ายคนก็มี

หนูเคยคิดไหมว่า วิญญาณเหล่านี้มาจากไหน ทำไมต้องทำร้ายคน

ในต่างประเทศ มีความเชื่อเรื่องนี้กันมาก และเชื่อแล้วว่าผีมีจริง มีการพิสูจน์แล้วว่าผีมีจริง

และที่พบมักเป็นวิญญาณหรือที่เรียกว่าผีของคนตายที่ตายตรงนั้น เคยอยู่ตรงนั้นมาก่อน

บางทีก็เป็นบ้าน บางทีก็เป็นสวนสาธารณะ

ที่เป็นสวนสาธารณะ มักเป็นวิญญาณเด็กเสียส่วนใหญ่

แต่ไม่มีใครเลยที่จะสงสัยว่า ทำไมผีถึงมีจริง แล้วทำไมต้องดุร้ายถึงขนาดทำร้ายคน ทำไมต้องอยู่ตรงนั้น

ทำไมไม่ไปหาพระเจ้า

แต่ถ้าสงสัย ก็มักหาคำตอบไม่ได้ เลยต้องเอาพระคัมภีร์เปิดอ่าน ผีที่ดุร้ายถึงขนาดปัดคัมภีร์ทิ้งแล้วขว้างข้าวของ

ใส่คนอ่านพระคัมภีร์ก็มี

ความจริงทุกเรื่องในโลกนี้มีสาเหตุมาก่อนทั้งสิ้น จึงมีผลปรากฏให้เห็น

สาเหตุของการเป็นผี ไม่มีโอกาสได้เป็นเทวดา ก็เพราะต้องมีสาเหตุมาก่อนที่จะเป็นผี คือตอนที่ยังเป็นคน เขาต้องทำอะไรที่ชั่ว

ที่บาปอย่างแน่นอน เขาจึงเป็นเทวดาไม่ได้ เขาชั่วเรื่องไหนทำบาปเรื่องไหน ก็จะต้องถูกลงโทษให้ทุกข์ทรมานเรื่องนั้น

เช่นเคยเป็นคนรวยแต่ดูถูกคนยากจน ไม่มีการให้อะไรเลยสักอย่าง ตายไปก็เป็นวิญญาณไม่มีที่ให้อยู่ ไม่มีอาหาร มีแต่ความมืด

รอบตัว มีแต่ความหนาวเย็นสุดที่จะบรรยาย จะร้องออกมาเป็นภาษามนุษย์ก็ไม่ได้ เพราะตรงรอบตัวนั้นมันหนาวเย็นสุดจับใจ

วิญญาณประเภทนี้จึงร้องโหยหวน สุนัขเมื่อได้ยินเข้าก็เลยหอนตาม

ยังมีวิญญาณอีกหลายอย่างมาก แต่อย่างหนึ่งที่ปรากฏรูปร่างแปลก ๆ ในทางที่ครึ่งคนครึ่งคล้ายสัตว์ ขี้โกรธ เวลาส่งเสียงจะคำราม

เหมือนเสียงหมี บางทีก็เป็นเสียงสัตว์อื่น แต่ดุร้ายเหมือนสัตว์ร้าย ก็เพราะตอนที่เป็นคนก็มีนิสัยดุร้าย ขี้โกรธ ถ้าตายที่บ้านของเขา ก็อยู่ตรงนั้น ใครเข้าอยู่ก็ไม่ได้ ใครมาอ่านคัมภีร์ก็ถูกทำร้าย

ดังนั้นตอนที่เป็นคน ไม่ว่าทำอะไรไว้ก็ตาม ความประพฤตินั้นมันฝังลงเป็นนิสัยติดตัวอยู่อย่างนั้น

ตายเป็นผีก็มีนิสัยอย่างนั้น

มีบ้านหนึ่ง ผีเป็นเทวดา เวลาเจ้าของบ้านอยู่ในบ้าน เขาบอกได้เลยว่าเขามีความสุข เทวดาก็มักมาให้เขาเห็นบอกว่าเขาเป็นเทวดา

ที่เล่ามานี้มาจากข้อมูลที่มีในต่างประเทศทั้งสิ้น

นี้คือผลของความประพฤติตอนที่มีชีวิตอยู่ เมื่อทำแต่ความดี ขนาดตายแล้วก็มีความสุข ใครได้อยู่ใกล้ก็มีความสข

ตอนนี้หนูมีชีวิตอยู่ ฉันก็ขอให้หนูมีความสุข แต่ความสุขจะมีได้ จะเกิดขึ้นได้จริงนั้น เพียงแค่หนูอธิษฐานหรือขอพรก็เกิดขึ้นไม่ได้

ถ้าหนูไม่มีนิสัยที่ดี ที่จะทำให้หนูมีความสุขได้ ถึงฉันหรือใครต่อใครให้พร หนูก็มีความสุขไม่ได้ เพราะความสุขต้องเกิดที่ตัวของหนูเอง เท่านั้น

ในคัมภีร์ใบเบิ้ลบอกว่าการนินทาเป็นบาป

ดังนั้น ถ้าเชื่อในพระเยซู ก็ต้องไม่นินทา ถ้ายังนินทาอยู่ก็แสดงว่าไม่ได้รักพระเยซู แต่รักที่จะเขื่อใครก็ไม่รู้ที่เอาพระองค์มาอ้างแล้วด่าคนอื่น สอนให้คนโกรธคนอื่น ด่าคนอื่นก็เป็นบาป คนนั้นเองในชีวิตของเขาก็มีความทุกข์มากเหลือหลาย

ใจที่คะนองนั้นเป็นทั้งบาปเป็นทั้งกรรมในทางพระพุทธศาสนา

วันนี้อาจมีความสุขว่าได้ด่าคน แต่กรรมนั้นจะส่งผลในภายหลัง เวลาที่กรรมให้ผลไม่เคยให้ผลแบบที่เรียกว่าเท่ากัน มีแต่ให้ผลแบบทวีคูณอาจเป็นการทวีไม่รู้กี่พันเท่าหมื่นเท่าหรือบางกรณ๊นับล้านเท่า

เช่น ไปด่าเขาหนึ่งครั้งหนึ่งคน เมื่อหนู้โตขึ้น ไปทำงาน ก็จะถูกคนด่าหลายคน หลายครั้ง จนทำงานไม่ได้ต้องออกไป

แม้ออกไปเข้าที่ใหม่ก็ถูกคนนินทา ถูกคนด่าอีก หาความสุขไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น

แม้จะเขียนมามากมายเท่านี้ ใจของฉันก็ยังมีแต่ความปรารถนาอยู่แต่เพียงว่า ขอให้หนูมีความสุข

เหตุของการมีความสุข คือการละความชั่ว ทำดีเท่านั้น และหมั่นชำระจิตใจให้พ้นไปจากกิเลสความบาปทั้งหลายใจก็ผ่องแผ้วสะอาด นี้คือศาสนาของพระพุทธเจ้า

ซึ่งพระองค์ทรงสอนให้เกิดปัญญา ให้หาสาเหตุ ให้รู้ว่าผลข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

จะได้เลือกได้ว่าเมื่อสร้างเหตุแห่งความดีคือความสุข ผลที่ได้คือความสุขไม่หนีไปไหน

ขนาดจะหนี กรรมดีก็ส่งผลให้เป็นเทวดา

จึงเป็นเรื่องที่เล่าสูกันฟัง คงไม่โกรธกันนะจ๊ะ

เอาล่ะ ก็ลองพิจารณาดูนะจ๊ะ ชีวิตเป็นของหนู หนูเลือกทำอะไร พูดอะไร คิดอะไร ล้วนมีผลของความดี ความชั่วอยู่ตรงนั้น

และผลก็มาจากตรงที่หนูทำอะไร พูดอะไร คิดอะไร ซึ่งหนูทำไปแล้ว ก็แปลว่าเลือกแล้วจะเอาผลอย่างนั้นกลับมาหาตัวเอง

จึงต้องใคร่ครวญและคิดก่อนเสมอ ว่าเรากำลังสร้างเหตุอะไร เป็นเหตุของความดี หรือความชั่ว

และเป็นที่เชื่อได้เลยว่า หนูจะเกิดปัญญาฉลาดขึ้นอย่างรวดเร็ว เรียนหนังสือก็เก่งขึ้น มีความสุขมากขึ้น

ทั้งนี้เพราะได้เลือกทำแล้วแต่สิ่งที่ดี ๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท