เมื่ออาจารย์ผู้สอนสั่งงานให้ทำวิจัย นักศึกษามักมีคำถามผุดขึ้นทันทีว่า “จะวิจัยเรื่องอะไรดี” อาจารย์มีคำแนะนำให้ นักวิจัยมือใหม่ คิด พิจารณา ตรวจสอบตนเอง ว่า
1- ตรวจสอบความสนใจของตนเองว่า สนใจเรื่องอะไร
2- เมื่อพบเรื่องที่สนใจ ให้ตรวจสอบความรู้ในเรื่องนั้นๆ ว่ามีความรู้เพียงพอที่จะคิด ทำอะไรหรือไม่
3- หาความรู้เรื่องนั้นเพิ่มเติม แล้วมองหาประเด็นที่จะตั้งคำถาม หรือตั้งโจทย์วิจัยต่อไป
4- ถ้าได้ประเด็นและตั้งคำถามได้แล้ว ลองตอบคำถามดูว่า มีทางได้ข้อมูลมาตอบไหม ถ้าได้ด้วยการอ่านตำราที่มีอยู่หรือ ถามใครที่มีความรู้ก็ได้ไม่ยาก แสดงว่าคำถามนั้นไม่ต้อง วิจัย แต่ถ้าเป็นคำถามที่ต้องใช้ข้อมูลที่จัดหาด้วยการใช้ระเบียบวิธีการที่น่าเชื่อถือ คำถามนั้นน่าจะเป็น คำถามวิจัย ได้
5- คิดต่อไป ถ้าหากคำตอบมาได้ คำตอบนี้เป็นความจริงที่เป็นประโยชน์หรือไม่ เมื่อพิจารณาว่ามีประโยชน์ ก็น่าจะตัดสินใจเริ่มต้นวิจัย จากคำถามนั้น
สรุปได้ว่า คำแนะนำดังกล่าวเป็นหลักการพื้นฐานในการหาคำถามวิจัย .ให้พิจารณาตนเอง 3 ด้าน คือ
1. ความสนใจ
2. ความรู้ และ
3. คาดคะเนคุณค่าที่จะได้จากการตอบคำถามนั้น
สำหรับผู้วิจัยที่มีฐานะเป็นครูหรือผู้บริหารซึ่งมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบและพัฒนาศักยภาพ การเลือกเรื่องที่จะทำวิจัยควรเริ่มต้นจาก
เรื่องที่ใกล้ตัว
เรื่องที่ตรงตัว และ
เรื่องที่ตรงใจที่ปรารถนาการพัฒนาผู้เรียนเป็นสำคัญ
แส้วใช้หลักการพื้นฐาน ค้นหาคำถามวิจัย ให้พบตัวตนของนักวิจัย
กราบเรียนท่านอาจารย์ค่ะ
หนูกำลังศึกษาปริญญาเอกชั้นปีที่ 1 สาขาคณิตศาสตรศึกษา กำลังค้นหาหัวข้อวิจัยของตัวเองพอดี
เมื่อได้มาอ่านงานของท่านอาจารย์แล้วมีแรงบันดาลใจในการทำงานวิจัยมากขึ้นค่ะ
หนูรู้สึกว่าท่านอาจารย์เคยไปบรรยายที่โรงเรียนสาธิต มอ.ปัตตานีด้วย แต่หลายปีแล้วค่ะ
ดีใจที่เคยเจอท่านอาจารย์ค่ะ
กราบสวัสดีค่ะ
รัชดา เชาวน์เสฏฐกุล