เมื่อวานนี้ (18 ก.ค.49) สำนักงานเกษตรจังหวัด
จัดอบรมเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ถูกต้องและเหมาะสม
ณ อำเภอพระพรหมตามโครงการปลูกข้าวครบวงจร
ซึ่งจังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ (แต่ไม่ได้ไปนะครับ)
ให้อำเภอดำเนินการเอง(งงครับ)
เป้าหมายเกษตรกร 200 คน จำนวน 8 กลุ่ม
มีทั้งกลุ่มเก่าและใหม่ จาก 4 ตำบล สถานที่ดำเนินการใช้ศาลาเอนกประสงค์ หมู่ที่ 4 ต.นาพรุ ผมเดินทางมาถึงประมาณ 07.30 น. ก็เจอผู้ใหญ่ วิเชียร หนูศิริ กับทีมงานสาละวนอยู่กับการจัดห้องประชุม
เตรียมเครื่องขยายเสียง เห็นแล้วชื่นใจในความร่วมมือครับ
เมื่อเกษตรกรลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
ผมในฐานะพิธีกรตามที่ได้รับมอบหมาย ทักทายผู้เข้ารับการอบรม และเชิญท่านเกษตรเกษตรอำเภอพระพรหม (วิจิตร นวลพลับ)
ชี้แจงความเป็นมาของโครงการ/รายละเอียด และมอบให้ผมดำเนินการต่อ ในส่วนของการให้ความรู้พื้นฐานการผลิตข้าวที่ถูกต้อง
และเหมาะสม ซึ่งวิทยากรบรรยายโดยนักวิชาการสถานีพัฒนาที่ดิน
จะเรียกว่าชวนคุยดีกว่าเพราะมีเสียงฮาตลอด(เป็นวิทยากรที่เก่งนะครับ)
ภาคบ่ายหลังทานอาหารกลางวันแล้วเป็นการให้ความรู้เรื่องการผลิตข้าวอินทรีย์ โดยนักวิชาการศูนย์วิจัยข้าวนครศรีธรรมราช วิทยากรได้ทำหน้าที่หมดแล้วเนื่องจากว่า
เจ้าของเรื่องจากสนง.เกษตรจังหวัดไม่มีใครไป
ผมเองต้องพาเรือไปให้รอด ก็นึกถึง "การจัดกระบวนการเรียนรู้อีกนะครับ"
ผมก็เริ่มชกแบบมวยวัดนึกเอาตอนนั้นครับ ให้เกษตรกร
ออกไปพักผ่อนเปลี่ยนอริยาบท(ผมได้มีเวลาตั้งสมาธิเอายังไงดี) เมื่อเวลาพอสมควรแล้วตอนกลับมาให้นั่งตามสังกัดกลุ่มตนเอง ผมตั้งโจทย์ให้มีกิจกรรมดังนี้
- กลุ่มใหม่ให้ไปพูดคุยตั้งชื่อกลุ่ม เลือกคณะกรรมการ ปรึกษาหาแนวทางการบริหารจัดการ แล้วให้ผู้แทนกลุ่มออกมานำเสนอ
- กลุ่มเก่าไปพูดคุยเก็บเกี่ยวประสบการณ์การบริหาร
จัดการกลุ่มที่ผ่าน ๆ มา ทำมาอย่างไร เตรียมนำเสนอ เช่นกัน
เปิดโอกาสให้แต่ละกลุ่มหามุมสงบตามร่มเงาสวนมังคุดใกล้ศาลาเอนกประสงค์ได้ตามสะดวก ให้เวลาพูดคุย 20 นาทีครับ
เมื่อครบกำหนดเวลาทุกกลุ่มก็กลับเข้ามาห้องอบรม
ผมขอให้ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ต.นาสาร ช่วยจับประเด็นของทุกกลุ่ม(ลิขิตอ่อน ๆ) และท่านต้องเอาบทสรุปมานำเสนอด้วยครับ
ผมเริ่มเชิญอาสาสมัครกลุ่มแรกมาเล่า
ตามโจทย์กิจกรรมที่ได้ไปพูดคุยกันมาให้กลุ่มอื่นฟัง
บรรยายกาศสนุกเกินความคาดหมายครับ เพราะบางคนพูดเก่ง
บางคนตื่นเต้นนิด ๆ แต่ก็ดำเนินไปได้ด้วยดี
โดยผมสร้างความมั่นใจให้ก่อนนะครับคือ เรามาทำงาน
สิ่งที่เราทำเพื่อเราเอง ทุกคำพูดทุกความคิดถูกทั้งหมด
เมื่อเพื่อนพูดให้เราฟัง เพื่อนจะฟังเมื่อเราพูด
บรรยากาศสนุกสนานมากครับ
ได้เรียนรู้แนวความคิดมากมาย จากสมอง 200 สมอง ในเรื่องการบริหารจัดการกลุ่ม ทั้งการลงแขกช่วยเหลือกัน การสร้างกองทุนหมุนเวียน กลุ่มที่เข้มแข็งต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง การวางแผนการผลิต ผมเองนั้นเพียงนั่งดูเพราะเวทีเริ่มเดินตามธรรมชาติ
โดยผมบอกว่าตัวแทนกลุ่มที่พูดจบแล้วพอใจจะเชิญกลุ่มใดขึ้นมาก็ให้เชิญต่อกันไปเลย เมื่อทุกกลุ่มจบการนำเสนอ
ก็เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ต.นาสาร สรุปประเด็น
แนวคิดของกลุ่มใหม่ และ ประสบการณ์ของกลุ่มเก่า
นาย ปรีชา อุ้ยสั้ว ประธานกลุ่มใหม่จากตำบลช้างซ้าย
เกษตรกรชอบมากครับบอกว่าสนุกดีและได้สาระไม่ง่วงนอน ซึ่งภาระที่ผมต้องรับต่อไปก็คือ เรียบเรียงสรุปบทเรียนคืนกลับให้ทุกกลุ่มเพื่อเป็นแนวทาง ในการบริหารจัดการกลุ่มต่อไป
ผู้ใหญ่วิเชียร หนูศิริ กลุ่มเก่า จากต.นาพรุ และ ผู้แทนกลุ่มใหม่
จาก ต.นาสาร
นายเจริญ หอยสังข์ ประธานกลุ่มเก่า จาก ต.ช้างซ้าย และ นายชิด ประธานกลุ่มเก่าจาก ต.นาพรุ
ผู้ใหญ่ดำรง หมู่ที่ 4 นาสาร ประธานกลุ่มใหม่
และผู้จับประเด็น พร้อมสรุปประเด็น
เมื่อวานนี้ผมได้เรียนรู้เพิ่มเติมอีกหลายอย่างนะครับ โดยที่ผมสังเกตุเห็นคือความเอื้ออาทรของกลุ่มต่าง ๆ ที่อยู่ต่างตำบลจะให้เกียรติซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นเจ้าของพื้นที่ (ตำบลนาพรุ) จะให้เกียรติกลุ่มต่างตำบลที่เดินทางมาไกล และเริ่มพูดคุยถึงเรื่องการแลกเปลี่ยนปัจจัยการผลิตครับ