เมื่อเช้ามืดวันที่ 19 ก.ค.49 ตอนวิ่งออกกำลังฟังวิทยุ FM101 เขาคุยกันเรื่องธุรกิจหลอกเด็กทางอินเทอร์เน็ต มีการพูดกันว่าธุรกิจต้องรู้จักผิดชอบชั่วดี ผมมีความเห็นว่าเรื่องการหลอกลวงกันนี้มีมาทุกยุคทุกสมัยและเปลี่ยนแปลงซับซ้อนมากขึ้นตามโอกาสช่องทางที่มีมากขึ้น ตามความซับซ้อนของสังคมและตามเทคโนโลยี
เรื่องถูกหลอกนี้คนเราเคยโดนกันทุกคน บางทีเราเรียกว่าถูกต้ม ถูกตุ๋น พูดกันว่าถูกตุ๋นจนเปื่อยเละ
ที่จริงคนไทยเรา (รวมทั้งผมด้วย) ก็ถูกตุ๋นทางการเมืองมาตั้ง 5 ปี เป็นการตุ๋นที่ซับซ้อนมาก ยังแก้ไขไม่ได้จนปัจจุบัน
อ้าว! เราพูดกันเรื่องหลอกเด็ก ผมเผลอพูดเรื่องหลอกคนไทยทั้งชาติเสียนี่
การหลอกเด็กมีหลายมิตินะครับ
- หลอกให้กินหวาน ผลคือเป็นโรคอ้วน ติดนิสัยกินหวานไปตลอดชีวิต
- หลอกให้ดูทีวี
- หลอกให้ติดเกม
- ชวน chat แล้วหลอกให้เสียตัว
- พ่อแม่หลอกว่ารัก ปรนเปรอจนเสียคน
- ฯลฯ
ประเด็นเหล่านี้เอามาทำวิจัยระดับปริญญาเอก - โทได้ทั้งนั้น
วิจารณ์ พานิช
19 ก.ค.49
ต้องอ่านเรื่อง พ่อแม่รังแกฉัน
ปัญหาของ "การถูกหลอก" มักจะเกิดจาก "ความอยาก"...อยากกิน...อยากดู...อยากได้เงิน...อยากได้รับความรัก....ขนาดผู้ใหญ่ยังถูกหลอก...นับประสาอะไรกับเด็ก
การที่ครูจัดการเรียนรู้ช่วยฝึกให้เด็กรู้จักคิด โดยเริ่มจาก "คิดวิเคราะห์" แล้วนำไปสู่การฝึก "คิดอย่างมีวิจารณญาณ" ในที่สุด ก็จะสามารถทำให้เด็กรอดพ้นจาก "การถูกหลอก" ได้ด้วยปัญญาของตัวเองค่ะ
การหลอกเด็กมีหลายมิติ จึงขอเพิ่มเติมดังนี้ :-
- หลอกให้ มักง่าย -ไม่สู้สิ่งยาก ด้วยความสะดวกสบาย และความเร็ว ความง่าย ที่มากเกินไป โดยอาศัยเครื่องมือเทคโนโลยีช่วย
- หลอกให้ อ่าน เขียน ท่องจำ เรื่องไร้สาระ ในห้องเรียน ได้คะแนนดี แต่คิด-ทำอะไรไม่เป็น
- หลอกให้เข้าอบรม หาความรู้ใหม่ใส่ตัว ประเภทคนอบรม ได้ตั๋ว และคนจัด ได้ตัง แต่ตอบไม่ได้ว่าจะเอาความรู้นั้นไปใช้อะไรได้บ้าง