บันทึกฝึกใจ
เสาร์ที่ผ่านมาผู้เขียนได้ไปนั่งรอนักเรียนสอบข้อเขียน คปภ. เพื่อคัดเลือกเข้ารอบ ได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งของโครงการผลิตหนังสือธรรมะเพื่อการเจริญสติ กองทุนจิตภาวนาชินวงส์ศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ์ สวนพุทธธรรมเวฬุวัน วัดวังหิน ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก เรื่อง บันทึกฝึกใจ ที่เขียนโดย สุณิตา หอมกลิ่น พยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก เขียนเล่าประสบการณ์ที่มีภาระกิจประจำวันกับคนไข้ที่รับการรักษาทั้งที่มีญาติและไม่มีญาติด้วยสาเหตุต่างๆกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ญาติไม่มี ญาติยากจน แบบไร้ญาติขาดมิตร คุณพยาบาลที่มีใจที่เป็นสุขในการปฏิบัติงาน ก็ปฏิบัติพัดวีกันเสมือนญาติคนหนึ่งนั้นแหละ หากไปพบกับพยาบาลที่ไม่มีใจเป็นสุขกับงาน ก็คงทำไปทำตามหน้าที่รอให้เวลาหมดไปก็หมดหน้าที่ แต่คุณพยาบาลคนนี้ดีจริงๆ ดูแลเอาใจใส่ เอาอกเอาใจพูดจาเล่นหัว ป้อนข้าวป้อนน้ำอาบน้ำเช็คตัวให้ไม่เพียงแค่หน้าที่ แต่มีจิตใจโอบอ้อมอารีจริงๆ วันไหนไม่ได้ขึ้นเวรก็ฝากเงินให้คนอื่นซือ้อาหารไปให้ป้าที่ป่วยได้กิน ผู้เขียนอ่านแล้วมีความรู้สึกว่า อาชีพครูอย่างเราว่าพบเจอลูกร้อยพ่อ พันแม่ อิดระอากับนักเรียนที่มีพฤติกรรมร้ายกาจจากเด็กบางคน บางรุ่น ก็ยังไม่เหนื่อยหนักสักครึ่งหนึ่งของอาชีพพยาบาลเลยนะ อาชีพพยาบาลเป็นอาชีพที่เสียสละ น่ายกย่อง น่าเหน็ดเหนื่อย เป็นอาชีพที่ต้องเผชิญกับสารพัดคน สารพัดโรค เสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อร้ายแรงต่างๆหลายโรค ดังนั้นเวลาที่ใครไปพบพยาบาลที่อารมณ์ไม่ดี หน้าหงิกหน้างอ ก็อภัยให้เขาเสีย เพราะการงานของคุณพยาบาลนั้นไม่ใช่มาบริการแค่คนหนึ่งคนใด แต่มีคนไข้นอนเต็มโรงพยาบาล หนังสือบันทึกฝึกใจเล่มนี้อยากให้ทุกคนได้อ่าน อย่างน้อยประสบการณ์ที่คุณพยาบาลเขียนเล่าให้คนนอกวงการอย่างพวกเราได้รู้ว่า ยังมีคนที่ทำงานหนัก มีสารพัดปัญหาหนักหนากว่าพวกเราอีกมาก แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปหากใจที่มีสุขกับงาน สนุกกับงาน ทำงานด้วยความสุข ทำงานด้วยความรับผิดชอบ เวลาก็จะหมดไปไม่รู้สึกตัว แล้ววันนี้ละคุณเป็นอย่างไรกับชีวิตงานที่คุณทำอยู่ ทุกวันนี้มีความสุขกับงานหรือไม่ ลองถามใจตนเองดู แล้วทำอย่างไรจึงจะสนุกกับงาน
ชอบมากเลยครับประโยคนี้ "ยังมีคนที่ทำงานหนัก มีสารพัดปัญหาหนักหนากว่าพวกเราอีกมาก แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปหากใจที่มีสุขกับงาน สนุกกับงาน ทำงานด้วยความสุข ทำงานด้วยความรับผิดชอบ เวลาก็จะหมดไปไม่รู้สึกตัว แล้ววันนี้ละคุณเป็นอย่างไรกับชีวิตงานที่คุณทำอยู่ ทุกวันนี้มีความสุขกับงานหรือไม่ ลองถามใจตนเองดู แล้วทำอย่างไรจึงจะสนุกกับงาน" อย่างน้อยก็ยังมีคนที่ยังเหนื่อยกว่าเราคือพ่อเเม่
ดีใจที่มีคนคิดแบบนี้ ใครเป็นพ่อแม่ได้ยินได้ฟังคงชื่นใจ ครูอยากให้ทุกคนคิดแบบเธอ อย่างน้อยมันทำให้เรารู้ว่าเด็กๆที่มีความคิดแบบเธอก็มีมากโขอยู่ พ่อแม่จะได้ไม่หนักใจ เหมือนพ่อแม่รายอื่นๆที่ต้องตามล้างตามเช็ด ที่ลูกทำระยำตำบอนไว้