ดาวเสาร์รายงานตัวจ๊ะ
พระจันทร์มอบหมายให้ไปร่วมสังเกตกิจกรรมโรงเรียนพ่อแม่
ที่จัดโครงการนำร่องใน 6เขตของกทม.
เราไม่ได้อยู่ในเขตจ้า
แต่เมื่อประสานบอกความต้องการไปก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี
กะว่าจะนำมาปรับปรุงงานของจันทร์ยิ้มให้ดีขึ้น
เช้าวันเสาร์ก็เลยจูงมือ ดาวหางไปด้วย1ดวง ไปช่วยกันจดช่วยกันจำ
ก้าวแรกที่เข้าไปก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี
ลงทะเบียนแล้วมีอาหารเช้าแถมอีก 1 กล่อง
ในนั้นมี นมและขนมปัง
พออิ่มท้องก็ได้เวลาเข้าห้องประชุมพอดี
ห้องที่ทำกิจกรรมจัดเป็นห้องๆตามวัยของเด็ก
เราแยกกันไปคนละห้อง
ห้องแรกสำหรับผู้ปกครองเด็ก 0-2ปี
จัดกิจกรรมโดยโดยพญ.พรรณพิมล หล่อตระกูล
ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล
และทีมวิทยากรจากสถาบันรักลูก
มีผู้เข้าร่วมฟังวิชาการ ประมาณ 20 คน
บางครอบครัวก็พาลูกจูงหลานมาด้วย
นอกจากเนื้อหาวิชาการที่เป็นแรงจูงใจให้เข้าร่วมฟังแล้ว
ยังมีของขวัญเป็นแรงดึงดูดอีก เช่น หนังสือลอยน้ำ สีเทียน จักรยาน ฯ
พอเริ่มเนื้อหาวิทยากรจากสถาบันรักลูกก็ให้แบ่งกลุ่มเป็น 2 กลุ่ม
โดยนับเลข พอแบ่งกลุ่มได้แล้ว
วิทยากรก็เริ่ม กิจกรรมแรกโดยยิงคำถาม ว่า..
1. มีเรื่องใดที่พ่อแม่รู้สึกกังวลใจในการเลี้ยงดูบุตรวัย 0-2 ปี มากที่สุด
2. มีวิธีแก้ไขความกังวลใจอย่างไร (จากข้อ 1)
วิทยากรแจกกระดาษให้แต่ละกลุ่มเขียนคำตอบ
และนำเสนอโดยตัวแทนแต่ละกลุ่ม
คำตอบของแต่ละกลุ่มไม่แตกต่างกันมากนัก
กิจกรรมที่ 2
6 ความเชื่อในการเลี้ยงดูบุตร
1. เด็กเกิดใหม่ไม่รู้อะไรวันๆมีแต่กินกับนอน
2. อย่าอุ้มเด็กมากไปเดี๋ยวติดมือ
3. ช่วง 5-8 เดือน เด็กท้องเสียบ่อยไม่เป็นไรกำลังยืดตัว
4. เด็ก 2 ขวบไม่พูดไม่เป็นไรโบราณว่าปากหนักเดี๋ยวก็พูดเอง
5. เด็กอ้วนสิดี แข็งแรง น่ารัก น่ากอด
6. ช่วงเด็กเล็กยังไม่สำคัญเท่าไร ใครเลี้ยงก็ได้ เอาไว้โตพ่อแม่ค่อยรับมาดูแล
วิทยากรแจกกระดาษให้แต่ละกลุ่มเขียนคำตอบ และนำเสนอโดยตัวแทนแต่ละกลุ่ม
จากกิจกรรมอาจารย์แพทย์หญิงพรรณพิมล อธิบายสรุปได้ว่า
...การเลี้ยงลูกนั้นไม่มีสูตรสำเร็จ สิ่งที่พ่อแม่ควรคิดถึงคือ...
1. ให้เลี้ยงลูกด้วยตัวเอง เด็กจะมีอะไรติดตัวมาแต่เด็กที่แตกต่างกัน
2. ช่วงอายุ 0-3 ปี เป็นช่วงการปูพื้นฐานเด็ก เหมือนการสร้างบ้าน
3. ระวังเรื่องอุบัติเหตุ
4. ระวังเรื่องการเจ็บป่วย
5. สนันสนุนในเวลาอันควร
6. อย่าสร้างความกังวลใจให้กับลูก
7. อื่นๆที่เปลี่ยนแปลงไปจากปกติ
สิ่งที่พ่อแม่ควรคิดถึงอีกหลายด้าน ก็มี...
ด้านอาหาร - นมแม่ 6 เดือนแรก
- ค่อยๆ ฝึกเด็กให้ช่วยตัวเองในด้านการกิน
ให้รู้ว่าเรื่องการกินเป็นเรื่องของเขา
ด้านอารมณ์ - สำคัญที่สุดคือ ความผูกพันระหว่างพ่อแม่ลูก
การคุยกับลูก(จะเกิดขึ้นที่ 3 ขวบแรก ) การสัมผัส เด็กจะจำกลิ่นได้
อุ้ม โอบกอดแต่พอเหมาะ
- สร้างเงื่อนไขการเล่นที่ทำให้ลูกคิด ยากขึ้นที่ละนิด
เล่นตามลูก (อย่าเบื่อ)
อย่าทำให้ลูกหมดทุกอย่าง
- พยายามสร้างบรรยากาศให้อารมณ์ดีอยู่เสมอ
- ใช้คำพูด “เดี๋ยวนะลูก” กับลูกบ้าง
ลูกจะได้เรียนรู้ว่าไม่มีอะไรสมหวังไปซะหมด
และการไม่ได้อะไรในทันทีทันใดนั้นเป็นอย่างไร
เรื่องที่ต้องขัดใจก็ต้องขัดใจ
- ใช้หนังสือเกี่ยวกับการเรียนรู้สอนลูก
ด้านสังคม - ความสัมพันธ์ทางสังคมกับพ่อแม่
สบตา สัมผัส พูดคุย ฝึกลูก ช่วยเหลือตัวเอง
- การใช้สื่อหนังสือดีที่สุด
พัฒนาการได้ทุกทางจากหนังสือ สื่อชนิดอื่นไม่แนะนำ ยกเว้น เพลง
ถ้าจะดูโทรทัศน์ไม่ควรเกิน15 นาที
- เกมส์คอมพิวเตอร์ ถ้าต้องการให้คุ้นเคยบ้างเล็กน้อยพอจะได้
แต่ให้ลูกอายุ 3 ขวบขึ้นไปก่อน
- มารยาท ให้ลูกรู้จัก สวัสดี บ๊ายบาย ขอโทษ ต้องบอกทุกครั้ง
ด้านคุณธรรม - สำหรับเด็กแค่ให้รู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ
อะไรควรได้ อะไรไม่ควรได้ การแบ่งปัน การเห็นใจคนอื่น
ด้านสติปัญญา - พูดคุยกับลูกบ่อยๆ ลูกถามต้องตอบ ไม่ต้องตอบยาก
ให้คุณพ่อช่วยเล่นกับลูกในเรื่องท้าทายจะได้มุมมองที่แตกต่าง
เด็กจะเริ่มเรียนรู้จากการสังเกต
3 ขวบปีแรกเรียนรู้อะไรบ้าง
- การเคลื่อนไหว
- การใช้กล้ามเนื้อ
- ภาษาและการสื่อสาร
- จินตนาการผ่านกระบวนการเล่น
- ความทรงจำ
* การเล่านิทานให้ลูกฟังโดยใช้ร่างกาย และของที่มีอยู่
หรือจะเล่าสลับกับลูกก็ได้
ห้องที่2 สำหรับผู้ปกครองเด็ก 3-5 ปี
จัดกิจกรรมโดย ผช.ศ.จุฑาพร สุวรรณเปี่ยม
รร.สาธิตจุฬาลงกรณ์ ฝ่ายประถม ห้องนี้คึกคักกว่า
มีผู้ปกครองเต็มความจุห้องทีเดียว
วัตถุประสงค์ของกิจกรรม
1.เกิดความรู้ความเข้าใจพัฒนาการและหลักคิดสำคัญของการเลี้ยงเด็กวัยนี้
2.เกิดความเชื่อมั่นในการเลี้ยงลูกด้วยตนเอง
3.แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการเลี้ยงลูก
4.คลี่คลายกังวลในการเลี้ยงดูลูก
ดำเนินการกิจกรรมการเรียนรู้ดังนี้
กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ดำเนินไปอย่างสนุกสนาน
รวบยอดดังผังนี้
เสร็จกิจกรรม มีการแจกรางวัลแก่ผู้โชคดีและพิธีปิด
และแอบถ่ายรูปกับวิทยากรเหมือนเดิมจ้า
กิจกรรมละเอียดดีมากเลยได้เรียนรู้ไปด้วย ขอบคุณมากๆๆครับ
สวัสดีค่ะ
มาชมกิจกรรมที่มีประโยชน์
ขอบคุณค่ะ