กลไกทางกฎหมายในการส่งเสริมและการคุ้มครองการลงทุน : กลไกทางกฎหมายในระดับภายในประเทศ
การลงทุนมีความสำคัญต่อการสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ประเทศต่างๆจึงสนับสนุน และส่งเสริมให้มีการลงทุนเกิดขึ้นในประเทศของตน ทั้งที่เป็นการลงทุนโดยคนชาติของตนและการลงทุนจากต่างประเทศ แต่การลงทุนในประเทศที่พัฒนาแล้วมีจำกัด ทำให้เกิดการแข่งขันกันระหว่างประเทศกำลังพัฒนาเพื่อชักจูงและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมาสู่ประเทศของตน โดยการสร้างบรรยากาศการลงทุนในประเทศตนให้ดีขึ้น โดการกำหนดเป้าหมาย และให้สิทธิประโยชน์พิเศษบางประการแก่ผู้ลงทุน ในกิจการที่รัฐเห็นว่ามีความสำคัญและจำเป็นต่อเศรษฐกิจของประเทศ
ลักษณะการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนจากต่างประเทศ
ซึ่งจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของรัฐ รวมทั้งมาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของนโยบายของรัฐการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุน ได้แก่
1. การให้ข่าวสารและการกระทำการส่งเสริม กล่าวคือ การให้เงินสนับสนุนการลงทุนยังต่างประเทศเพื่อการสำรวจภาวะตลาดยังต่างประเทศก่อนการลงทุน
2. การให้ประกันการลงทุน การให้ประกันการลงทุนจากรัฐบาล หรือการรับประกันจากบริษัทประกันภัยแก่การลงทุนในต่างประเทศ
3. นโยบายทางการคลัง ระบบการเก็บภาษีของประเทศผู้ลงทุนที่เลือกปฏิบัติต่อผู้ลงทุนจากต่างประเทศ เช่นการยกเว้นภาษีในรายได้จากบริษัทสาขาในต่างประเทศ
4. นโยบายทางการค้า ประเทศผู้ลงทุนมีนโยบายไม่ควบคุมการค้า เช่น เก็บภาษีศุลกากรจากสินค้าที่ผู้ลงทุนส่งมาจากต่างประเทศ และให้หลักประกันว่าสิทธิพิเศษจะไม่ถูกถอด การให้สิทธิพิเศษนี้ทำให้ตลาดของผู้ลงทุนกว้าง และทำให้การลงทุนในประเทศด้อยพัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
5. การอนุญาตให้มีการโยกย้ายเทคนิค ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการขยายตัวทางการลงทุน ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนในประเทศด้อยพัฒนาซึ่งมีเทคนิค และความชำนาญในการบริหารต่ำ สามารถโยกย้ายเทคนิคมาใช้การผลิตได้ง่ายขึ้น จึงเป็นการส่งเสริมการลงทุนอีกประการหนึ่ง
( วิรัช ธเนศวร , การลงทุนระหว่างประเทศ , มหาวิทยาลัยรามคำแหง )
ในด้านรัฐผู้รับการลงทุน มักจะมีนโยบายการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนจากต่างชาติ โดยการออกมาตรการที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการลงทุนที่แน่นอน และน่าเชื่อถือให้แก่คนต่างชาติ โดยอาจจัดให้มีการยกเว้นการเก็บภาษี การให้สิทธิพิเศษการเสียภาษีนำเข้าสำหรับเครื่องมือและวัตถุดิบ การให้ความสะดวกในเรื่องที่ตั้งและสาธารณูปโภคต่างๆ และการขนส่ง การผ่อนปรนในการแลกเปลี่ยนเงินตรา การให้หลักประกันการโอนกิจการและทรัพย์สินไปเป็นของรัฐ การอนุญาตให้นำรายได้ส่งกลับประเทศ ซึ่งนโยบายเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อ รวมทั้งผลต่างของต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ในส่วนที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนโดยกฎหมาย
เป็นวิธีการในการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศที่สำคัญประเภทหนึ่ง กล่าวคือ การออกกฎหมายพิเศษมาเพื่อให้สิทธิประโยชน์ต่างๆแก่คนต่างชาติ ซึ่งแต่ละประเทศนั้นมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน ตามความเหมาะสม ตามความต้องการ และสภาพแวดล้อมของประเทศนั้นๆ โดยในบางประเทศก็จะทำเป็นกฎหมายการลงทุนโดยทั่วไปซึ่งให้สิทธิพิเศษแก่คนต่างชาติกับคนชาติของตนตามกฎหมายฉบับเดียวกัน เช่น ประเทศไทยจะใช้กฎหมายส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 ในฉบับเดียวกัน แต่ในบางประเทศก็จะมีกฎหมายการลงทุนที่แยกกันต่างหาก นอกจากนั้นก็ยังมี กฎหมายภายในอื่นๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการลงทุนของคนต่างชาติ เช่น กฎหมายภาษีอากร หรือ กฎหมายแรงงาน เป็นต้น กฎหมายการลงทุนในประเทศต่างๆโดยส่วนมากจะเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ หลักประกัน และการคุ้มครองการลงทุนไว้อย่างละเอียดชัดแจ้ง ตลอดจนสถานที่ประกอบการและประเภทของการลงทุน ซึ่งรัฐมีอำนาจในการปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับสภาพการที่เกี่ยวข้องได้
การส่งเสริมและคุ้มครองการลงทุนตามกฎหมายภายใน
โดยอาจพิจารณาได้ใน 2 กรณีคือ กฎหมายเกี่ยวกับการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆแก่ผู้ลงทุนต่างชาติ และกฎหมายที่ให้หลักประกันในการคุ้มครองการลงทุนของคนต่างชาติ
ก. การให้สิทธิประโยชน์ในการลงทุนของคนต่างชาติ
ประเทศผู้รับการลงทุนบางประเทศมีกฎหมาเกี่ยวกับการให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ลงทุนต่างชาติไว้โดยเฉพาะ หรือปรากฏในกฎหมายอื่นๆ เช่น กฎหมายภาษีอากร ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง เป็นต้น การให้สิทธิประโยชน์ต่างๆที่สำคัญๆอาจพิจารณาได้ 2 ประการ คือ
(1) สิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวกับภาษี
อุปสรรคประการหนึ่งเกี่ยวกับการลงทุนของคนต่างชาติคือ กฎหมายที่เข้มงวดต่อผู้ลงทุนต่างชาติ แม้ว่าในกฎหมายระหว่างประเทศจะยอมรับว่ารัฐย่อมมีอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนของตนในการบริหารประเทศ ซึ่งรวมทั้งอำนาจในการเก็บภาษีจากบุคคลที่อยู่ในดินแดนของตนด้วย
( โกศล ฉันธิกุล , การให้สิ่งจูงใจ และปัญหาทางกฎหมายสำหรับการลงทุนจากต่างประเทศในประเทศไทย ,คณะนิติศาสตร์ , จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย )
แต่หากรัฐได้ประกาศใช้กฎหมายที่กำหนดอัตราภาษีที่แตกต่างกันระหว่างคนชาติตนกับผู้ลงทุนต่างชาติ ก็จะทำให้ผู้ลงทุนไม่ปรารถนาที่จะลงทุนในประเทศนั้นๆ การให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญประการหนึ่งในการส่งเสริมการลงทุนของรัฐ เช่น การยกเว้น หรือลดหย่อนภาษีอากรขาเข้า หรือ ภาษีที่เรียกเก็บจากเครื่องจักร การยกเว้นภาษีที่เก็บจากสินค้าบางประเภท การยกเว้นภาษีที่เก็บจากรายได้ หรือกำไรสุทธิ และอนุญาตให้หักค่าสึกหรอ และเสื่อมราคาให้มากขึ้น
สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรที่สำคัญและพบอยู่ในกฎหมายเกี่ยวกับการลงทุนของประเทศต่างๆ ส่วนใหญ่แล้วมีลักษณะดังนี้
1. สิทธิประโยชน์ทางเงินได้บริษัท
วิธีการที่เกี่ยวกับการให้สิทธิประโยชน์ดังกล่าวนี้ ได้แก่ การยกเว้นภาษีเงินได้ให้ชั่วคราว กาลดหย่อนภาษีให้บางส่วน และการลดภาระในการเสียภาษีของบริษัทโดยวิธีการอื่น เป็นสิทธิประโยชน์พื้นฐานที่สุดที่ปรากฏอยู่ในกฎหมายที่เกี่ยวกับการลงทุนของเกือบทุกประเทศ โดยในประเทศที่กำลังพัฒนาส่วนใหญ่มักจะยกเว้นภาษีเงินได้ประเภทนี้ให้กับผู้ลงทุนในเวลาที่กำหนด โดยอาจกำหนดเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปตามประเภทของการลงทุน เช่น ในประเทศสิงคโปร์ยกเว้นภาษีเงินได้ในกิจการที่สำคัญเป็นเวลานานถึง 10 ปี
2. สิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินปันผล
บางประเทศจัดเก็บภาษีในรูปแบบของเงินปันผล ในประเทศที่มีการยกเว้นภาษีเงินได้จากบริษัท หรือห้างหุ้นส่วน มักจะมีการยกเว้นภาษีเงินปันผลให้ควบคู่กัน เพื่อทำให้ตัวเจ้าของเงินทุนได้รับประโยชน์ที่แท้จริงจากการลงทุนโดยอาจจะยกเว้นภาษีเงินปันผลจากกิจการบางอย่างเท่านั้น เช่น มาเลย์เซียอนุญาตให้เงินปันผลที่ได้จากการลงทุนของบริษัทที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ของบริษัทได้รับสิทธิการยกเว้นภาษีภาษีจากเงินปันผลด้วย
3. สิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
อันได้แก่ เงินได้ที่เป็นค่าจ้างแรงงาน เช่น เงินได้ของบุคคลต่างชาติที่เข้ามาทำงานในตำแหน่งหน้าที่ที่สำคัญบางตำแหน่ง เช่น เจ้าหน้าที่เทคนิค หรือผู้บริหารชั้นสูงของการลงทุนของคนต่างชาติ สาเหตุในการให้สิทธิประโยชน์ในทางเงินได้บุคคลธรรมดานี้เนื่องมาจากบางประเทศยังขาดแคลนบุคคลที่มีความชำนาญทางวิชาการ การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในส่วนนี้ จึงเป็นการจูงใจให้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถและชำนาญการเฉพาะอย่างเข้ามาทำงานในประเทศของตน เช่น อินเดีย ได้มีการยกเว้นภาษีให้กับช่างเทคนิค หรือเจ้าหน้าที่ผู้บริหารคนต่างชาติเป็นเวลา 1 ปี เป็นต้น
4. สิทธิประโยชน์ทางศุลกากร
การยกเว้น หรือลดอากรขาเข้า หรืออากรขาออกให้แก่คนชาติที่นำสิ่งของ วัตถุดิบ หรือผลิตภัณฑ์บางอย่างเข้าออกประเทศผู้รับการลงทุน เช่น การยกเว้นภาษีอากรขาเข้าให้กับเครื่องจักร วัตถุดิบ และการยกเว้นภาษีขาออกให้กับวัตถุ หรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปทางอุตสาหกรรม
ในกฎหมายการลงทุนในแต่ละประเทศจะมีการกำหนดเงื่อนไข และประเภทสินค้าที่ได้รับสิทธิประโยชน์นั้นๆ เช่น กำหนดว่าสินค้าที่ได้รับยกเว้นภาษีขาเข้าต้องไม่เป็นประเภทที่ผลิต หรือหาได้ในประเทศ ต้องเป็นสิ่งของที่จำเป็นต่อการดำเนินการผลิต หรือจำพวกผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ได้รับการส่งเสริมโดยรัฐให้ผลิตเพื่อการส่งออกเพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ
5. สิทธิประโยชน์ทางด้านอื่นๆ
เช่น การลดหย่อน หรือยกเว้นภาษีอากรแสตมป์ ภาษีที่ดิน ภาษีจากการขายลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร รวมทั้งค่าธรรมเนียมต่างๆให้แก่ผู้ลงทุนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งบางประเทศได้นำสิทธิประโยชน์ประเภทนี้มาใช้เป็นเครื่องมือการส่งเสริมการลงทุนในประเทศของตน เช่น อินโดนีเซียได้รับการยกเว้นภาษีอากรแสตมป์ในการโอนเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ
จึงอาจกล่าวได้ว่า สาเหตุที่ทำให้มาตรการทางภาษีถูกกำหนดขึ้นเพื่อทดแทนปัญหาความแตกต่างด้านโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้วที่มีการจัดเก็บภาษีทางตรงที่เก็บจากผู้บริโภคเป็นหลัก ซึ่งต่างจากประเทศกำลังพัฒนาที่ส่วนใหญ่เป็นประเทศผู้รับการลงทุนซึ่งจัดเก็บภาษีทางอ้อมที่ถือเป็นอุปสรรคทางการลงทุนเพราะต้องถูกรวมเป็นต้นทุนในการผลิตทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้น รวมทั้งมาตรการทางภาษียังเป็นการแก้ปัญหาในส่วนที่เกี่ยวกับความไม่พร้อมในพื้นฐานด้านการลงทุน เช่น ความไม่สะดวกปลอดภัยในการคมนาคม การขนส่ง การพลังงาน ขนาดของตลาด ซึ่งเป็นสาเหตุให้การลงทุนในประเทศกำลังพัฒนามีค่าใช้จ่ายในการลงทุนสูงมาก โอการและเวลาในการถอนทุนมีจำกัด ดังนั้น จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สิ่งจูงใจทางภาษีเกิดขึ้นเพื่อทดแทนความไม่พร้อมดังกล่าวเพื่อสร้างบรรยากาศในการลงทุนให้เป็นที่น่าสนใจยิ่งขึ้น
(โกศล ฉันธิกุล , การให้สิ่งจูงใจและปัญหาทางกฎหมายสำหรับการลงทุนจากต่างประเทศในประเทศไทย , คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2520 )
( วิรัช ธเนศวร , การลงทุนระหว่างประเทศ , กรุงเทพ , มหาวิทยาลัยรามคำแหง น. 21-22)
ไม่มีความเห็น