ตั้งแต่สิ้นเดือนสิงหาคม2553เป็นต้นมา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หยุดการหักเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ของข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รายละเอียดความเป็นมาดังนี้
โดยหนังสือจากกรมบัญชีกลาง ที่ กค0406.5/20813 ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2553
เรื่อง การหักเงินสะสมเข้ากองทุน กบข. กรณีข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานตามมาตรา70/8แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539
เรียน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อ้างถึง หนังสือมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ ศธ 6392(4)/02972 ลงวันที่ 12 เมษายน 2553
ตามที่แจ้งว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีข้าราชการที่เปลียนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยและได้เป็นสมาชิก กบข. ซึ่งมาตรา70/8แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 บัญญัติให้สมาชิกต้องส่งเงินสะสมเข้ากองทุนโดยคำนวณตามบัญชีอัตราเงินเดือนที่กำหนดในกฎกระทรวง เมื่อปัจจุบันกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดบัญชีอัตราเงินเดือนดังกล่าว ยังมิได้ประกาศใช้จึงขอหารือว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะดำเนินการส่งเงินสะสมเข้า กบข.โดยหลักเกณฑ์และวิธีการใด และเทียบเคียงบัญชีอัตราเงินเดือนใด ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น
กรมบัญชีกลางพิจารณาแล้ว ขอเรียนว่ากฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดบัญชีอัตราเงินเดือนพนักงานมหาวิทยาลัยเพื่อใช้ในการคำนวณเงินสะสม เงินสมทบ เงินชดเชย และบำเหน็จบำนาญ ตามมาตรา70/8แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539นั้น ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ยืนยันร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปแล้ว จึงขอให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ชลอการส่งเงินสะสมเข้า กบข. ไว้ก่อนจนกว่ากฎกระทรวงฉบับดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ
รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมบัญชีกลาง
การที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หยุดการหักเงินสะสมเข้ากองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ของข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำให้พนักงานมหาวิทยาลัยที่ต่อกองทุน กบข. เสียสิทธิเพราะในทางปฎิบัติที่ผ่านมากว่า 2 ปีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้หักเงินเพื่อส่งสะสมเข้ากองทุน กบข. ในอัตราร้อยละ 3 ของฐานเงินเดือนเดิมในขณะรับราชการ ซึ่งเป็นฐานเงินเดือนที่ต่ำสุดอยู่แล้ว และทำไมไม่ปฎิบัติเช่นเดิมไปพลางก่อน จนกว่ากฎกระทรวงฉบับดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ ค่อยไปคำนวณเพิ่มเติมให้ถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง การหยุดเก็บทั้งหมดทำให้ดอกผลในกองทุน กบข.ของพนักงานมหาวิทยาลัยผู้นั้นไม่ต่อเนื่อง...พนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ต่อกองทุน กบข.มีความรู้สึกว่า..เมื่อทำตามองค์กรแล้ว..เมื่อมีปัญหากลับถูกละเลย..
ไม่มีความเห็น