หลังเสร็จสิ้นภารกิจการประชุม กอดร่ำลาเพื่อนชาวต่างประเทศไปหลายรอบ คุณ Nancy เอเอฟเอส USA บอกกล่าวคุณ Robin ว่าผู้เขียนเป็นผู้ดูแลให้การต้อนรับเธอเป็นอย่างดีระหว่างการประชุมที่กรุงเทพฯและทัศนศึกษาที่จังหวัดเพชรบุรีเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เธอรู้สึกประทับใจมาก
จำได้ว่าดึงชาวต่างชาติหลายคนรวมทั้งคุณ Nancy และน้องสาวมาร่วมเป็นเชียร์ลีดเดอร์ สามารถชนะเลิศการแข่งขันกองเชียร์จาก ๔ ทีมได้ถ้วยรางวัลมาครองอย่างสมศักดิ์ศรี แถมยังส่งพวกเธอเข้าร่วมประกวดระบำฮาวาย แหม.... เรื่องการรับรองเช่นนี้จะให้บกพร่องไม่ได้โดยเด็ดขาดเพื่อชื่อเสียงและหน้าตาของประเทศไทย
ฝนตกพรำลงมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด หากเป็นฝนที่ประเทศไทยสามารถวิ่งเล่นท่ามกลางสายฝนได้สบายๆเย็นฉ่ำไปเลย แต่ฝนที่นี่แทบจะไม่อยากเดินออกไปสัมผัส เพราะสายน้ำที่ร่วงหล่นพร่างพรูนั้นเย็นเฉียบจับจิต เวลาล่วงเลยไปจนบ่ายคล้อยจึงตัดใจลงมาเรียก Taxi ในราคา ๕๕ เหรียญ ให้ไปส่งที่ Wat Thai Washington D.C. ณ MaryLand ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ห่างจากเมือง Alexandria เพียงแค่ ๔๕ นาที
Taxi แล่นเข้ามาจอดเทียบทางเท้า ภาพแห่งความหลังเมื่อ ๕ ปีก่อนผุดขึ้นมาในความทรงจำ ผู้เขียนและเพื่อนชาวไทยอีก ๒ รวมทั้งครูจีนที่หนีบมาด้วยอีก ๑ ต่างตื่นเต้นและประทับใจกับทัศนียภาพของวัดแห่งนี้ที่มีโบสถ์ตั้งเด่นให้เห็นเป็นสง่า พื้นที่ของบริเวณโดยรอบ ปกคลุมด้วยพื้นหญ้าสีเขียว เว้นที่เทปูนตรงลานจอดรถ พระมหาเรืองฤทธิ์นำคณะฯของผู้เขียนเข้าไปกราบพระวิเทศธรรมรังษี(หลวงตาชี ) และทำวัตรเย็นร่วมกับเหล่าญาติธรรมทั้งหลาย
ณ นาทีนี้.... สถานที่เดิมแห่งนี้มีเพียงผู้เขียนยืนอยู่เพียงลำพังอย่างโดดเดี่ยว ความรู้สึกเหงาเข้ามาเกาะกุมหัวใจ…..เสียงเพลง บ้านทรายทองกึกก้องอยู่ในโสตประสาท นี่คือสถานแห่งบ้านทรายทอง ที่ฉันปองมาสู่ ฉันยังไม่รู้เขาจะต้อนรับ ขับสู้เพียงไหน ความอ่อนแอเข้ามาครอบงำ ทำให้จิตใจกังวลจนประสาทเสียไปแล้วหรืออย่างไร สติย้อนคืนสู่สภาวะปกติ “ หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกลนัก” พลังใจก่อตัวขึ้นมาผลักดันให้จิตใจเข้มแข็งพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
หยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กขึ้นมาโทรฯ ติดต่อเพื่อแจ้งให้ทราบว่าตอนนี้เดินทางเข้ามาถึงประตูวัดแล้ว สิ้นเสียงตอบรับจากปลายทาง ผู้เขียนเปิดประตูด้านหน้าลากกระเป๋าเดินทางมาวางไว้ตรงมุมไม่ให้เกะกะผู้ที่จะใช้เส้นทางเข้า-ออก ด้านนี้ และสืบเท้าเข้าไปห้องด้านใน ยกมือสวัสดีพระรูปหนึ่งและถามหาพระมหาเรืองฤทธิ์ที่เพิ่งวางหูจากการสนทนาสั้นๆ ทางโทรศัพท์เมื่อสักครู่
พระมหาเรืองฤทธิ์
ท่านเดินออกมาทักทายและบอกกล่าวว่า ห้องที่เคยพักไม่ว่างเพราะรองรับสองหนุ่มน้อยจากเมืองไทยที่มาเที่ยวและช่วยงานวัดอยู่ในขณะนี้ ผู้เขียนต้องพักที่ห้องเรียนชั้นล่าง อุปกรณ์-เครื่องนอนมีให้แล้ว แต่ในวันหยุดสุดสัปดาห์ต้องเก็บสัมภาระให้เรียบร้อยเพราะจะมีคนใช้ห้อง ตอบไปว่ามาพักแค่ ๔ คืนอยู่ไม่ถึงช่วงนั้น หวนนึกถึงโรงแรมหรู-อาหารชั้นเลิศที่เพิ่งจากมา นี่ต่างหากคือเรื่องจริงที่ต้องยอมรับสภาพ.... พระมหาเรืองฤทธิ์ช่วยขนกระเป๋าลงบันไดไปชั้นล่างและเรียกหนุ่มน้อยมาช่วยขนย้ายให้อีก ๑ ใบ หนุ่มน้อยทั้งสอง เรียนอยู่ระดับชั้น ม ๖ ในปีการศึกษานี้ แผนการเรียนภาษาญี่ปุ่นที่โรงเรียนสาธิต จุฬาฯ อัธยาศัยดีมาก
ใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดพื้นพรมและจัดปูที่นอน ไม่ได้หยิบจับเรื่องเหล่านี้มาหลายปีดีดัก เพราะอยู่เมืองไทยมีแม่บ้านทำให้เสร็จสรรพ์ จึงทุ่มเทเวลาที่มีอยู่ลุยงานหลวงฯและงานอาสาสมัครฯ ได้อย่างเต็มที่ ห้องนี้กว้างขวางสภาพแวดล้อมดีมาก มีห้องน้ำ-เครื่องซักผ้าจัดวางให้ใช้และเครื่องทำความร้อนอีก ๒ ตัว แค่ไม่ได้กั้นให้เป็นสัดส่วนจึงโล่งโปร่ง สภาพดีกว่านอนเต๊นท์ยามเข้าค่ายพักแรมหลายเท่านัก นำ Netbook ตัวจิ๋วขึ้นไปขอให้ใครสักคนช่วยดำเนินการโหลดติดตั้งภาษาไทยให้ ปรากฏว่าพระมหาเรืองฤทธิ์มีความรู้-ความชำนาญด้านคอมพิวเตอร์ในระดับมืออาชีพเพราะเรียนมาโดยตรง นับว่าผู้เขียนโชคดีจริงๆ แถมยังได้สติ๊กเกอร์ตัวอักษรไทยติดไว้ที่ keyboard ด้วย กิจกรรมช่วงเย็นไปร่วมทำวัตร พร้อมกับญาติธรรมและกราบนมัสการพระวิเทศธรรมรังษี(หลวงตาชี ) ในวัย ๘๕ ปี ท่านยังคงสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง
พระวิเทศธรรมรังษี(หลวงตาชี )
นำที่ใส่กล่องทิชชู่ของไทยไปถวาย ฯ ท่านสนทนาเกี่ยวกับการศึกษาของไทยและได้นำเงินไปบริจาคเพื่อจัดทำห้องคอมพิวเตอร์ ห้องสมุด ซื้อคอมพิวเตอร์-อุปกรณ์ให้กับโรงเรียนที่ยังขาดแคลน เป็นประจำทุกปี และท่านยังได้ถามถึงน้องตุ๊ก ผู้จัดการฝ่าย Hosting โลโก้ของเอเอฟเอสประเทศไทยที่เคยมาพำนักที่นี่ประมาณ ๓ สัปดาห์ เมื่อ ๔ ปีก่อน เนื่องจากเธอทำตนเป็นประโยชน์มากมาย ท่านจึงระลึกถึงได้อย่างแม่นยำ
*** วัดไทยในต่างแดน เป็นที่พึ่งได้เสมอในยามยาก ***
ไป DC ทั้งที ไกลแสนไกล ได้ไปสมิสโซเนียมหรือเปล่าครับ หวังว่าคงได้ไปนะครับเพราะดีมาก
สวยดี
เคยไปเรียนปี 80
ยังคิดถึงรถใต้ดินสายแดง สุดทางที่ซิลเวอร์ สปริง
คุณเหมาะจังคะ
* ดีจังเลยนะคะ ที่ได้ไปศึกษาที่นั่น.... คงมีโอกาสไปทำบุญที่วัดบ้างมังคะ
* ตั้งใจจะเขียนบันทึกเรื่องพิพิธภัณฑ์และเล่าเรื่องต่อสัก ๒-๓ ตอน แต่ช่วงนี้วุ่นวายตามงานไม่ทันน่ะค่ะ คงต้องดองไว้ก่อน
* ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาเยี่ยมชม !