เมื่อครูภาทิพหนีร้อนไปพึ่งเย็น ตอนที่ ๑ พี่เม้าคนไทยใจดีที่ซูริค

       

        หลังจากได้ตัดสินใจรับคำเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยาย การสอนหลักภาษาไทย ให้กับครูอาสาสอนภาษาไทยในยุโรปที่ได้จัดขึ้นที่ สถานเอกอัครราชทูตไทย  กรุงมาดริด  ประเทศสเปน  ก็หาเพื่อนร่วมเดินทางและวางแผนเที่ยวประเทศอื่นๆ ซึ่งก็ได้ประเทศเป้าหมายคือ สวิตเซอร์แลนด์  และสวีเดน  

 

 

          เที่ยงคืนวันที่ ๒๒ เมษายน ๕๓ เดินทางจากสุวรรณภูมิโดยสายการบินไทยไปลงที่ซูริค ในตอนเช้าของวันที่ ๒๓   เมื่อถึงสนามบิน   พี่เม้า  พิมพ์ฉลวย  มอร์แกน   เพื่อนรักสมัยเรียนของพี่เอียดนำรถมารับ  พวกเราได้รับการต้อนรับเหมือนเป็นญาติที่สนิทกันมาก่อน  ทั้งๆ ที่เราเพิ่งรู้จักกับพี่เม้าทางโทรศัพท์ก่อนเดินทางมาเท่านั้นเอง   น้ำใจของพี่เม้าและครอบครัวยิ่งใหญ่มาก

 

         พี่เม้านำพวกเราทั้งห้าคือ   พี่เอียด พี่สุดา  อู๊ด  น้องพิม  และครูภาทิพ   นำกระเป๋า สัมภาระ   มาไว้ที่พักซึ่งเป็นอพาร์ตเมนท์ของพี่เม้า   ก็พบคุณเคิร์ท( Kurt Morgen)   สุภาพบุรุษสวิตฯแฟนพี่เม้ารออยู่  ท่านสุภาพเรียบร้อยมาก  แต่ด้วยท่าทางที่ใจดีจึงไม่ทำให้พวกเราเกิดอาการเกร็งแต่อย่างใด

 

 

          หลังจากล้างหน้าล้างตาเสร็จ พี่เม้าก็พาพวกเราไปเที่ยวชาเลต์ เพื่อชมดอกไม้ที่เพิ่งผลิบานและสวนผักของพี่เม้า    พวกเราตื่นเต้นถ่ายรูปทุกต้น ทั้งๆ บางต้นเพิ่งแทงยอดโผล่ขึ้นมา

 

 

         เมื่อชมสวนเสร็จพี่เม้าและคุณเคิร์ทพาคณะไปเที่ยวชมน้ำตกไรน์   กลับมาพี่ ๆ ก็เข้าครัวทำอาหารไทยรับประทานกัน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นน้ำพริกชนิดต่างๆ ที่นำไปจากเมืองไทย       คืนนั้นกว่าจะเสร็จภารกิจ เข้านอนก็สี่ทุ่มกว่าตามเวลาของสวิตซ์  พวกเราก็หลับเป็นตาย รุ่งเช้าใครที่ตื่นก่อนก็จะได้ยินเสียงกรนมาเป็นระยะ ๆ

 

 

 เช้าวันรุ่ง พวกเรารีบทยอยอาบน้ำ เข้าห้องน้ำ  ซึ่งเจ้าบ้านสละให้แขก  ส่วนเจ้าบ้านเองไปใช้ห้องของลูกชาย   พี่เม้าก็รีบลุกขึ้นทำอาหารเช้าให้พวกเราทาน  ส่วนคุณเคิร์ทก็จัดเตรียมโปรแกรมการเที่ยวให้พวกเรา   วันนี้เป้าหมายก็คือตลุยหิมะที่เขาธิสลิส   ซึ่งนำเที่ยวโดยพี่เม้า  พวกเรามีตั๋วสวิตพาสไป  แต่เจ้าบ้านต้องซื้อตั๋วใหม่แพงกว่าพวกเรามาก  ซึ่งต่างจากบ้านเรา หากเที่ยวที่เมืองไทย  ราคาของคนไทยจะถูกกว่าชาวต่างชาติ

 

 พวกเราขึ้นเล่นหิมะ เชอร์แมท  จุงฟราวน์ และธีสลิส

 

      ตลอดระยะเวลาที่พวกเราพักที่บ้านพี่เม้าและคุณเคิร์ท     คุณเคิร์ทจะทำหน้าที่   จัดเตรียมตารางการท่องเที่ยวและตารางเวลารถไฟ รถราง และรถเมล์สายต่างๆ ที่พวกเราต้องผ่านไว้ให้   วันไหนที่พวกเราสายหากต่อรถเมล์ไม่ทัน  คุณเคิร์ทก็จะทำหน้าที่เป็นสารถีพาพวกเราไปส่งที่สถานีรถไฟซูริคเอง   บางวันก็เป็นมัคคุเทศก์นำพวกเราเที่ยวเอง   เมื่อพวกเราไปเที่ยวคุณเคิร์ทอยู่ข้างหลังก็จะจัดหาเตรียมอาหารไว้พวกเรา   กระเป๋าที่แสนหนักเกินกำลังพวกเราซึ่งเป็นเจ้าของ  ก็ได้คุณเคิร์ทอีกนั่นแหละขนให้พวกเรา   คุณเคิร์ทดูแลพวกเราเหมือนเป็นพี่ชายหรือเป็นพ่อของพวกเรากันเลยทีเดียว

 

         ฝ่ายพี่เม้าดูแลจัดเตรียมอาหารเช้า  อาหารเย็น เป็นมัคคุเทศก์   เป็นสารถี พาพวกเราไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ  จัดอาหารค่ำเลี้ยงพวกเราที่ชาเลต์  ถึง ๒ วัน

 

          ตั้งแต่วันที่ ๒๓ เมษายน จนถึง ๒๙ เมษายน  วันที่เราต้องเดินทางต่อไปยังกรุงมาดริดประเทศสเปน   พวกเราอยู่และเที่ยว ที่นั่นอย่างสุขสบาย  อิ่มหนำสำราญ  บนความเอื้อเฟื้อ  ความเหน็ดเหนื่อยของพี่เม้าและคุณเคิร์ท    ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนจะทำอะไร ๆให้แก่กันได้มากขนาดนั้น  พวกเราประทับใจมาก   และไม่กล้าคิดว่าเราจะได้รับโอกาสดีๆ เช่นนี้อีกในวันข้างหน้า

 

          ทั้งพี่เม้าและคุณเคิร์ทคือคนไทยใจดีที่ต่างแดนของพวกเราจริง ๆ  ขอกราบขอบพระคุณพี่เม้าและคุณเคิร์ทเป็นอย่างสูง

 

 

            

จัดทำและนำเสนอโดย