การประชุม ลปรร.เรื่อง "R2R พระปกเกล้า: จากก้าวแรกสู่ก้าวต่อไป" เมื่อวันที่ 20 สค. 2553 ที่ผ่านไปนั้น ทางผู้จัดได้ขโมยเอาแนวคิดจากการจัดประชุม R2R forum ครั้งที่ 3 ที่มีบอร์ดให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ตอบคำถามเกี่ยวกับR2R มาใช้ในการประชุมครั้งนี้ด้วย โดยหวังให้กระตุ้นให้ผู้สนใจR2R ได้แสดงความคิดเห็นและความเข้าใจในความหมายของ R2R
เป็นคำถาม 5 คำถาม "5 คำถามที่ควรหาคำตอบ" ในช่วงแรกก็กังวลว่าจะมีผู้ตอบคำถามที่เตรียมไว้หรือไม่ แต่เมื่อการประชุมเริ่มเข้มข้นขึ้น ผู้เข้าร่วมประชุมต่างก็อยากมีส่วนร่วม เขียนคำตอบและทยอยกันนำคำตอบมาติดที่บอร์ด หลังจากการประชุมเห็นคำตอบที่ติดอยู่ในแต่ละข้อแล้วก็ชื่นใจ ที่ผู้เข้าร่วมประชุมต่างมีความสนใจและร่วมแสดงความคิดเห็นกันเกือบทุกคน
จากคำตอบที่นำมาติด ผู้จัดได้คัดเลือกคำตอบที่โดนใจกรรมการมาหนึ่งคำตอบในแต่ละข้อ และมีรางวัลแจกให้ผู้เข้าร่วมตอบคำถามด้วย
รายชื่อผู้ได้รับรางวัลมีดังนี้
- คุณชลาลัย ขุนจิต พยาบาลวิชาชีพ หอผู้ป่วยแยกโรค
- คุณจันทิมา ศิริคัณทวานนท์ เภสัชกรงานห้องจ่ายยาผู้ป่วยใน
- คุณธัญธิตา พวงพกา พยาบาลวิชาชีพ งานตึกคลอด
- คุณวราวรรณ วราวรรณ สวัสดิ์ภูมิ พยาบาลวิชาชีพ หอผู้ป่วยหนักศัลยกรรม
- คุณจงรัก มงคลธรรม พยาบาลวิชาชีพ ห้องตรวจผู้ป่วยนอกตรวจพิเศษอายุรกรรม
ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลทั้ง 5 ท่านด้วย เป็นคำตอบที่มีคุณค่าอย่างมาก และขอให้นำกลับไปปฏิบัติจะได้ประโยชน์สูงสุด
ถึงตรงนี้คงอยากเห็นคำตอบที่ผู้เข้าร่วมประชุมได้ส่งมาแล้วใช่ไหม
คำตอบทุกคำตอบ อ่านแล้ว รู้สึกได้ถึงความเข้าใจและความมุ่งมั่นในใจที่อยากทำ R2R ของผู้ตอบ ได้เป็นอย่างดี
ต่อไปนี้เป็นคำตอบที่รวบรวมและเรียบเรียงให้กระชับ ของคำถามทั้ง 5 ข้อ
คำถามที่ 1: R2R จะทำให้ชีวิตคนทำงานอย่างพวกเรา ดีขึ้นอย่างไรบ้าง?
- การทำงานได้ง่ายขึ้น การทำงานมีระบบ
- ผู้ป่วยได้รับการดูแลดีขึ้น คนทำงานมีความสุขใจและได้บุญมาก
- กระตุ้นให้คนทำงานมีความกระตือรือร้นที่จะทำงานวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาในการทำงาน
- พัฒนางานประจำให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มความรู้ให้คนทำงาน
- พัฒนาความรู้ พัฒนาคน พัฒนางานให้มีมาตรฐาน
- มีความสุขและสนุกในการทำงาน มีปัญญา มีความคิดสร้างสรรค์ และความก้าวหน้าในหน้าที่
- มีความสุขจากผลงานซึ่งเป็นการค้นหาคำตอบในปัญหางานด้วยตนเอง
- ลดอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนและลดอัตราตายของผู้ป่วย
- การทำงานประจำมีคุณค่าขึ้น ลดขั้นตอน ประหยัดงบประมาณ
- การแก้ปัญหาจากเรื่องยากเป็นเรื่องง่าย
- ท้าทายและมีความสุขเมื่องานสำเร็จ
- พัฒนาไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้
คำถามที่ 2: มีงาน CQI จะทำให้เป็น R2R ได้อย่างไร?
- เก็บข้อมูล วิเคราะห์ให้เป็นระบบ เสนอผลงานให้ทีมได้ปฏิบัติเป็นงานประจำ
- ต่อยอดโดยเก็บข้อมูลต่อไปข้างหน้าเพื่อเปรียบเทียบก่อนทำและหลังทำโดยใช้สถิติ
- เสริมต่อยอดโดยนำระเบียบวิธีวิจัยมาใช้ ให้ผลที่ได้น่าเชื่อถือ เป็นระบบ
- นำข้อมูลมาวิเคราะห์ ทำให้เป็นระบบ มีการรายงานผล
- เก็บรวบรวมข้อมูลจากงาน CQI ให้มากขึ้น แล้วนำมาวิเคราะห์ หาข้อผิดพลาดในการเก็บข้อมูล แล้วพัฒนาให้ดีขึ้น
- พัฒนาจาก CQI ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมและผลทางสถิติชัดเจน
- นำCQI มาพัฒนาลงมาปฏิบัติในงานจริง
คำถามที่ 3: ทำอย่างไร ให้เจ้านายไฟเขียวทำ R2R
- ทำให้หัวหน้าเห็นว่า ทำ R2R แล้วผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีขึ้น โดยแสดงให้เห็นจากตัวชี้วัด
- นำการวิเคราะห์ข้อมูลจากปัญหามาเสนอให้หัวหน้าทราบ
- นำปัญหาการทำงานและKPI ที่ไม่ถึงเกณฑ์มาเป็นหัวข้อการทำ R2R
- เชิญหัวหน้าเข้าประชุมด้วย
- เสนอปัญหาจากงานประจำให้หัวหน้ารับทราบ
- อธิบายข้อดีของการทำ R2R ให้หัวหน้าทราบ และเชิญหัวหน้าและผู้ร่วมงานมีส่วนร่วม
- ทำความเข้าใจกับหัวหน้าว่า R2R เป็นเครื่องมือช่วยพัฒนาคนและพาไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้
- คิดคำถามวิจัย ตั้งทีมและเชิญหัวหน้าเข้าร่วมทีม เสนอความเป็นไปของงานให้ทราบ
- ถ้าลูกน้องยินดีทำ R2R หัวหน้าทุกคนคงยินดี ไม่ขัดขวาง
- รวบรวมประเด็นสำคัญและผลงานนำเสนอให้หัวหน้า
- อธิบายให้หัวหน้าเข้าใจถึงว่า R2R คืออะไร ทำอย่างไร และเพื่อใคร.
- เชิญชวนเหัวหน้าเข้ามาร่วมรับรู้งาน R2R
- นำเสนอผลงาน R2R ของหน่วยงานอื่นๆ ที่ประสบความสำเร็จ
- แสดงให้เห็นว่า R2R ที่จะทำ ไม่ได้เพิ่มงานประจำที่ทำอยู่และสร้างความก้าวหน้าให้หน่วยงานอย่างแน่นอน.
- R2R สามารถทำได้กับงานประจำ และจะเกิดประโยชน์ต่อหน่วยงาน จึงทำให้เจ้านายไฟเขียวแน่นอน
คำถามที่ 4: ท่านจะสร้างบรรยากาศ R2R ในหน่วยงานของท่านได้อย่างไร?
- หยิบเอางานประจำที่ทำมาตั้งคำถามกันเองว่า ทำไม อย่างไร เพราะอะไร
- ลงมือปฏิบัติโดยไม่ต้องรอหรือคิดที่จะทำ
- จัดมุม R2R แสดงผลงาน R2R ที่ประสบความสำเร็จ
- สอดแทรก R2R ในการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอเสมือนเป็นเรื่องปกติ สร้างความคุ้นเคย ไม่รู้สึกยุ่งยาก ไม่วุ่นวาย
- จัดประกวดงาน R2R ในหน่วยงาน
- เชิญชวน กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ เสนอปัญหาในการทำงาน ในที่ปะชุมแล้วชักชวน ให้มีการทำ R2R
- หัวหน้าหอผู้ป่วยและรองหัวหน้ามีบทบาท กระตุ้นให้เจ้าหน้าที่เสนอปัญหา เพื่อหาคำตอบโดยใช้งาน R2R ช่วย
- เมื่อมีคำถาม (ปัญหา) ต้องมี คำตอบ ถ้าไม่มีคำตอบ ต้องศึกษาค้นคว้า และขอคำแนะนำจากหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน
- นำเรื่องเล่าในการประชุม R2R เข้าไปเล่าให้บุคลากรในหน่วยงานได้ฟัง ในการประชุมหน่วยงานหรือ บอกต่อกันไป
- ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการทำ R2R และอธิบายให้ทุกคนเข้าใจในแต่ละขั้นตอน เพื่อทุกคนจะได้ให้ความร่วมมือในการทำงาน R2R และกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง
- ทำให้ R2R เป็นวิธีชีวิตและวัฒนธรรมที่ทำให้คนในหน่วยงานมีความสุขและรู้สุขว่า R2R เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงาน “ทำด้วยใจไปด้วยกัน”
- นำปัญหาที่เกิดจากงานประจำของตึกมาแก้ไขให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว กระชับทำให้เจ้าหน้าที่ รู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องยากในการปฏิบัติ รู้สึกกระตือรือร้นในการที่จะร่วมกันปฏิบัติ
- หัวหน้างานควรให้เจ้าหน้าที่ทุกคนมีโอกาสได้เข้าอบรม R2R
- หยิบยกงาน R2R ใกล้ตัวของหน่วยงานอื่นมาเล่าให้ฟังในที่ประชุม
- ลองทำเป็นตัวอย่างก่อน แล้วค่อยๆ ดึงให้คนอื่นๆ เข้ามาร่วมทีม
- เมื่อประชุมกับทีม R2R ของโรงพยาบาลแต่ละครั้ง จะนำความรู้ที่แลกเปลี่ยนแต่ละครั้งไปเผยแพร่ทั้งทำแฟ้ม R2R จัดบอร์ด และร่วมกันคิดและเปลี่ยนกันภายในหน่วยงาน
- ระดมสมองและหาแนวทางทำ R2R โดยที่ไม่มีผลรบกวนงานประจำที่ทำอยู่เพื่อลดแรงต่อต้านในความรู้สึกที่ว่ายากและวุ่นวาย
- ตั้งคำถามในการทำงาน
- นำงานวิจัยต่างๆ Evidence Base Best Practice ที่เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยที่จะทำให้ดีขึ้นมาพูดคุยบอกเล่า
- ส่งเสริมโดยการช่วยเหลือทีมให้หาแนวทางแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน
- นำงาน R2R ในแผนกที่ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาในการปฏิบัติงาน เป็นตัวอย่างเผยแพร่ เพื่อให้เห็นภาพว่า R2R สามารถแก้ปัญหาในการปฏิบัติงานประจำได้จริง
- ส่งเจ้าหน้าที่เข้าอบรม R2R ทุกครั้ง
- กระตุ้นทุกครั้งที่ประชุมประจำเดือนเมื่อมีการเสนอสิติต่างๆ ทั้งเพิ่ม-ลด ให้ทราบแนวทาแก้ไขร่วมกัน
คำถามที่ 5: จงเขียนคำถามวิจัยจากงานประจำในหน่วยงานของท่านที่สามารถทำ R2R ได้
- การปรับเปลี่ยนระบบบริการจ่ายยาเพื่อลดความคลาดเคลื่อนทางยา.
- การใช้น้ำสบู่ละน้ำสะอาดทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ก่อนเก็บผลส่งตรวจ มีผลทำให้พบจำนวน WBE ใน URINE แตกต่างกันหรือไม่.
- ทำอย่างไรถึงจะลดคลื่นรบกวนของ lead lineในการเดินสายพาน (EST) ของผู้ป่วยที่ตัวอ้วน (พุงใหญ่), ทำอย่างไรจึงจะลดการใช้ EKG PAD ในการติด Lead ในการทำ EST.
- การเข้าถึงแหล่งสืบค้นข้อมูลยาทาง Internet ของบุคลากรในโรงพยาบาลพระปกเกล้า.
- มาตรการควบคุมการใช้ยา 20% Human albumin มีผลต่ออัตราการใช้ยาอย่างไร.
- ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองหลังการผ่าตัดแล้วจะได้รับการดูแลที่ดีจากผู้ดูแลอย่างไร.
- การจัดตั้ง Easy Asthma clinic ช่วยลดการ ER visit ได้หรือไม่
- การใช้ตาข่ายตรวจคลื่นสมองมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับหมวดตรวจคลื่นกับหมวดสมองหรือไม่.
- ทำอย่างผู้ป่วยที่ได้รับยา E.KC1 จึงจะไม่ถ่ายเหลว.
โรงพยาบาลพระปกเกล้า
27 สค 2553